โครงงานสมองกลฝังตัว

  • หน้าหลัก
  • อิคคิวซัง
    • ปีการศึกษา 2562
    • ปีการศึกษา 2561
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
    • ปีการศึกษา 2558
    • ปีการศึกษา 2557
    • ปีการศึกษา 2556
  • ทสรช.
    • ปีการศึกษา 2562
    • ปีการศึกษา 2561
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
  • สถานพินิจ
    • ปีการศึกษา 2562
  • โรงเรียนคนพิการ
    • ปีการศึกษา 2562
  • มหาวิทยาลัย
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
  • STEM ปี 2560
  • Show&Share2022
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อศึกษาและดูแลสิ่งแวดล้อม
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อการเกษตรอัจฉริยะ
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและชุมชน
    • โครงงานลิฟต์
    • รายชื่อผู้เข้าแข่งขันอื่นๆ

Category Archives: ทสรช ปีการศึกษา 2560

BC42 ชุดอุปกรณ์ควบคุมแสงอัตโนมัติในห้องเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ปิยชาติพัฒนาฯ นครนายก ม.ปลาย

Posted on March 27, 2018 by puser65 Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2560 .

โครงงาน “ชุดอุปกรณ์ควบคุมแสงอัตโนมัติในห้องเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ”

(Automatic light control device in the tissue culture room)

 

ที่มาและความสำคัญ

แสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตของพืช พืชต้องใช้แสงในกระบวนการสังเคราะห์แสงเพื่อสร้างอาหาร  พืชเมืองร้อนต้องการแสงที่มีความเข้มมากกว่า 50,000 ลักซ์ จึงจะสามารถการเจริญเติบโตและการดำรงชีวิตต่อไปได้ และความเข้มแสงที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อพืช “หม้อข้าวหม้อแกงลิง” ที่ใช้ทดลองในโครงงานนี้คือ ความเข้มแสงที่ไม่ต่ำกว่า 20,000 ลักซ์

ผู้จัดทำโครงงานได้สังเกตเห็นห้องอนุบาลพืชการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อซึ่งอยู่ภายในอาคารโรงเรียน    ปิยชาติพัฒนาฯ มีปัญหาในเรื่องของแสงแดดที่ส่องเข้าไม่ถึงในบางช่วงเวลา      ในบางช่วงนั้นภายในห้องอนุบาลพืชมีความเข้มของแสงต่ำกว่า 20,000 ลักซ์  ซึ่งส่งผล  เสียต่อการเจริญเติบโตของพืช

การที่ผู้ดูแลพืชเข้าห้องอนุบาลพืชเพื่อเปิด-ปิดไฟบ่อยครั้งเกินไป อาจทำให้เชื้อโรคจากภายนอกเข้ามาสู่ห้องอนุบาลพืชและทำให้เนื้อเยื่อพืชติดเชื้อได้   แต่หากใช้ Timer ตั้งเวลาในช่วงเวลาที่แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างมีความเข้มแสงเพียงพอ ไฟส่องสว่างก็ยังทำงานทำให้สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า  ผู้จัดทำโครงงานจึงมีแนวคิดออกแบบสมองกลฝังตัวควบคุมการเปิด-ปิดไฟภายในห้องอนุบาลพืช ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงงานต้องการวัดความเข้มแสงภายในห้องอนุบาลพืชให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 20,000 ลักซ์ ซึ่งเหมาะสมกับการดำรงชีวิตของเนื้อเยื่อพืชหม้อข้าวหม้อแกงลิง และสามารถนำเครื่องวัดความเข้มแสงที่ได้มาพัฒนามาปรับใช้กับโครงงาน เพื่อควบคุมแสงภายในห้องอนุบาลพืช โดยการควบคุมการเปิด-ปิดไฟภายในห้องอนุบาลพืชโดยอัตโนมัติ โดยที่จะเขียนโปรแกรมชุดคำสั่งควบคุมการเปิด-ปิดไฟภายในห้องอนุบาลพืชโดยอัตโนมัติ และเชื่อมต่อวงจรเข้ากับกับจอแสดงผล LCD เพื่อแสดงค่าความเข้มแสงภายในห้องอนุบาลพืช ณ เวลานั้น และสถานะการเปิด-ปิดของแผงไฟ LED กับค่าความเข้มแสงภายในห้องอนุบาลพืชดังกล่าว จะเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย IOT และแสดงผลไปยังอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ เพื่อที่จะประหยัดแรงงานและเวลาในการดูแลเนื้อเยื่อพืชและลดการติดเชื้อในพืช  พืชจะได้สามารถเจริญเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อสร้างชุดอุปกรณ์ควบคุมแสงอัตโนมัติในห้องเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อที่สามารถควบคุมปริมาณความเข้มของแสงให้พอเพียงต่อการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อพืชในห้องอนุบาลพืช

วัสดุอุปกรณ์

 
   

 

1.       ESP8266 Node MCU

 

   

2.      Sensor BH-1750

 

  3.      Module Relay 1-channal relay 3.3   v
  4.       Module LCD  I2C
   

 

5.      บอร์ดทดลอง

   

 

6.      แผงไฟเส้น LEDสีขาว

   

7.       แผงไฟเส้น LED สีน้ำเงิน-แดง

   

 

8.      Adapter 12v

  9.      สายไฟจัมพ์ ผู้-ผู้
  10.   สายไฟจัมพ์ ผู้-เมีย
  11.   สายไฟอ่อน
  12.   Power  bank
  13.   สายแจ็คตัวเมีย
  14.   โมเดลแบบจำลองห้องเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช

ผังโครงสร้าง

หลักการทำงาน

นำชุดอุปกรณ์ไปติดตั้งบริเวณชั้นวางขวดเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ โดยหันเซ็นเซอร์แสง     BH-1750 ไปรับแสงจากธรรมชาติที่เข้ามาทางหน้าต่างเท่านั้น  โดยชุดอุปกรณ์ควบคุมแสงอัตโนมัติ ทำงานโดยการควบคุมความเข้มแสงภายในห้องอนุบาลพืชให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่า 20,000 ลักซ์ หากความเข้มแสงที่ผ่านหน้าต่างเข้ามามีค่าน้อยกว่า 20,000 ลักซ์ ระบบจะสั่งเปิดแผงไฟ LED ในชั้นวางเนื้อเยื่อ และยังสามารถเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย IOT เพื่อแสดงผลไปยังอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย

ทางคณะผู้จัดทำโครงงานสังเกตเห็นว่า ถ้าหากชุดอุปกรณ์ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง    พืชจะได้รับแสงมากเกินไป และแสงจะเป็นพิษต่อพืช  ทางคณะผู้จัดทำโครงงานจึงได้เสริมอุปกรณ์ Timer เข้าไปในชุดอุปกรณ์ เพื่อที่จะให้ชุดอุปกรณ์ทำงานเฉพาะในช่วงเวลา 6.00 น.- 20.00 น. เท่านั้น  เพื่อให้พืชได้รับแสงไฟอย่างพอเหมาะพอดี

 

CODE คำสั่งการทำงาน

 

#include <Wire.h>
#define POWER_DOWN_MODE 0x00
#define POWER_ON_MODE 0x01
#define RESET_MODE 0x07
#define M_H_RESOLUTION_MODE 0x10
#define M_H_RESOLUTION_MODE2 0x11
#define M_L_RESOLUTION_MODE 0x13
#define S_H_RESOLUTION_MODE 0x20
#define S_H_RESOLUTION_MODE2 0x21
#define S_L_RESOLUTION_MODE 0x23
#include <Wire.h>
#include <LiquidCrystal_I2C.h>
LiquidCrystal_I2C lcd(0x27, 2, 1, 0, 4, 5, 6, 7, 3, POSITIVE);
const byte BH1750FVI_ADDR = 0x23;
byte buff[2];
const byte LED_PIN = 5;
void setup() {
pinMode( 7, OUTPUT );
Wire.begin();
Serial.begin( 115200 );
setBH1750Mode( BH1750FVI_ADDR, M_H_RESOLUTION_MODE );
lcd.begin(16,2);
for(int i = 0; i< 3; i++)
{
delay(250);
lcd.noBacklight();
lcd.backlight();
delay(250);
}
}
void loop() {
static byte dc;
uint16_t value;
if( readBH1750( BH1750FVI_ADDR ) == 2 ) {
value = (buff[0]<<8) | buff[1];
value = (5*(uint32_t)value)/6;
Serial.print( value, DEC );
Serial.println("[lx]");
lcd.clear();
lcd.setCursor(0,0);
lcd.print("Light Intensity (lx)");
lcd.setCursor(9,1);
lcd.print(value);
if ( value < 20000 ) {
value = 20000;
digitalWrite( 7, LOW);
}
else{

ผลของการทดสอบ

การดำเนินงานในส่วนของการต่อชุดอุปกรณ์ควบคุมแสงภายในห้องอนุบาลพืช โดยการควบคุม   การเปิด-ปิดไฟภายในห้องอนุบาลพืชโดยอัตโนมัติ สำเร็จและเป็นไปตามสมมติฐานของโครงงาน คือ      ชุดอุปกรณ์ควบคุมแสงอัตโนมัตินี้สามารถวัดค่าความเข้มแสงและควบคุมการเปิด-ปิดไฟภายในห้องอนุบาลพืชได้จริง สามารถเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย IOT เพื่อแสดงผลไปยังอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ และสามารถช่วยให้เนื้อเยื่อพืชที่อยู่ภายในห้องอนุบาลพืชสามารถเจริญเติบโตและดำรงชีวิตได้ดีตามสมมติฐานที่ได้กำหนดไว้ตามข้างต้น

รูปการทำงาน

  1.  นำแผงวงจร ESP8266 Node MCU มาเชื่อมต่อเข้ากับบอร์ดทดลอง

1.1  นำแผงวงจร ESP8266 Node MCU มาเชื่อมต่อเข้ากับบอร์ดทดลอง โดยนำด้านที่มีขามาประกบเข้ากับบอร์ดทดลอง

2 การต่อไฟเลี้ยงจากแผงวงจร ESP8266 Node ต่อเข้ากับบอร์ดทดลอง

                    2.1 นำสายไฟจัมพ์ สีแดงผู้-ผู้ มาต่อเข้ากับช่อง a22 ในบอร์ดทดลองซึ่งจะตรงกับช่อง vin ในแผงวงจร ESP8266 Node MCU จากนั้นนำมาต่อที่บอร์ดทดลองช่องบวก เพื่อต่อไฟเลี้ยงบวกให้กับบอร์ดทดลอง

2.2  นำสายไฟจัมพ์ สีดำผู้-ผู้ มาต่อเข้ากับช่อง a21 ในบอร์ดทดลองซึ่งจะตรงกับช่อง GND ในแผงวงจร ESP8266 Node MCU จากนั้นนำมาต่อที่บอร์ดทดลองช่องลบ เพื่อต่อไฟเลี้ยงลบให้กับบอร์ดทดลอง

3. การต่อเซนเซอร์วัดความเข้มแสง BH-1750 ต่อกับกับวงจร

3.1 นำสายไฟจัมพ์ สีแดงผู้-เมีย มาต่อเข้ากับ ขา VCC ในเซนเซอร์ และนำปลายสาย ไฟจัมพ์อีกข้างหนึ่ง ต่อเข้ากับช่องบวกในบอร์ดทดลอง จากนั้นนำสายไฟจัมพ์สีดำผู้-เมีย มาต่อเข้ากับ ขา GNDในเซนเซอร์ และนำปลายสายไฟจัมพ์อีกข้างหนึ่งต่อเข้ากับช่องลบในบอร์ดทดลอง

3.2ต่อมานำสายไฟจัมพ์สีเขียวผู้-เมีย มาต่อเข้ากับ ขา SCL ในเซนเซอร์ และนำปลายสายไฟจัมพ์อีกข้างหนึ่งต่อกับช่อง j8 ในบอร์ดทดลองซึ่งจะตรงกับช่อง D1 (ในแผงวงจรปรากฎเป็น D2) ในแผงวงจร ESP8266 Node MCU

3.3 จากนั้นนำสายไฟจัมพ์สีส้มผู้-เมีย มาต่อเข้ากับ ขา SDA ในเซ็นเซอร์ และนำปลายสายไฟจัมพ์อีกข้างหนึ่งต่อกับช่อง j9 ในบอร์ดทดลองซึ่งจะตรงกับช่อง D2 ในแผงวงจร ESP8266 Node MCU

4. การต่อรีเลย์ที่ใช้ในการควบคุมการเปิด-ปิดแผงไฟ LED

4.1 โดยเริ่มต้นจากการ นำสายไฟจัมพ์สีแดงผู้-เมีย มาต่อเข้ากับ ช่อง VCC ในรีเลย์ และนำปลายสายไฟจัมพ์อีกข้างหนึ่ง ต่อเข้ากับช่องบวกในบอร์ดทดลอง จากนั้นนำสายไฟจัมพ์สีดำผู้-เมีย มาต่อเข้ากับ ช่อง GNDในรีเลย์ และนำปลายสายไฟจัมพ์อีกข้างหนึ่ง ต่อเข้ากับช่องลบในบอร์ดทดลอง

4.2 นำสายไฟจัมพ์สีเหลืองผู้-เมีย มาต่อเข้ากับ ช่อง IN ในรีเลย์ และนำปลายสายไฟจัมพ์อีกข้างหนึ่งต่อกับช่อง j7 ในบอร์ดทดลองซึ่งจะตรงกับช่อง D0 ในแผงวงจร ESP8266 Node MCU

4.3 จากนั้นนำแผงไฟ LED ที่ทำการบัดกรีสายไฟเข้ากับแหล่งพลังงานแล้ว โดยเริ่มจากนำสายไฟสีดำที่บัดกรีอยู่กับขั้วลบจากแผงไฟ LED ต่อเข้ากับ ช่อง NC ในรีเลย์ และนำสายไฟสีดำที่บัดกรีกับแหล่งพลังงาน (แจ็คตัวเมีย) ต่อเข้ากับ ช่อง COM ในรีเลย์

5. การต่อจอแสดงผล LCD เข้ากับวงจร

5.1 โดยเริ่มจาก นำสายไฟจัมพ์สีแดงผู้-เมีย มาต่อเข้ากับ ขา VCC ในจอ LCD และนำปลายสายไฟจัมพ์อีกข้างหนึ่ง ต่อเข้ากับช่องบวกในบอร์ดทดลอง จากนั้นนำสายไฟจัมพ์สีดำผู้-เมีย มาต่อเข้ากับ ขา GNDในจอ LCD และนำปลายสายไฟจัมพ์อีกข้างหนึ่ง ต่อเข้ากับช่องลบในบอร์ดทดลอง

5.2 นำสายไฟจัมพ์ขาวผู้-เมีย มาต่อเข้ากับ ขา SDA ในจอ LCD และนำปลายสายไฟจัมพ์อีกข้างหนึ่งบัดกรีเข้ากับสายไฟจัมพ์สีส้มที่เชื่อมต่อกับเซนเซอร์วัดความเข้มแสง BH-1750  ซึ่งเป็นการพ่วงสายเพื่อต่อเข้ากับช่อง j9 ในบอร์ดทดลองซึ่งจะตรงกับช่อง D2 ในแผงวงจร ESP8266 Node MCU

5.3 นำสายไฟจัมพ์สีเทาผู้-เมีย มาต่อเข้ากับ ขา SCL ในจอ LCD และนำปลายสายไฟจัมพ์อีกข้างหนึ่งบัดกรีเข้ากับสายไฟสีเขียวที่เชื่อมต่อกับเซนเซอร์วัดความเข้มแสง BH-1750  ซึ่งเป็นการพ่วงสายเพื่อต่อเข้ากับช่อง j8 ในบอร์ดทดลองซึ่งจะตรงกับช่อง D1 (ในแผงวงจรปรากฎเป็น D2) ในแผงวงจร ESP8266 Node MCU

6. การเปิดการใช้งานของชุดอุปกรณ์

            6.1 นำ adapter 12 V มาต่อเข้ากับแจ็คตัวเมียของแผงไฟ LED เพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้กับแผงหลอดไฟ LED

6.2 นำ power bank มาต่อเข้ากับแผงวงจร ESP8266 Node MCU เพื่อเป็นแหล่งพลังงานไฟเลี้ยงให้กับ แผงวงจร ESP8266 Node MCU ซึ่งในแผงวงจร ESP8266 Node MCU ซึ่งคณะผู้จัดทำได้ลงโค้ดคำสั่งไว้เรียบร้อยแล้ว

คณะผู้จัดทำโครงงาน

1.นายสุรภีม                  จิตอารีรัตน์

2.นางสาววิภาดา         วงษ์พระจันทร์

3.นางสาวธมนวรรณ   ศรีม่วง

 

อาจารย์ที่ปรึกษา

1. นายกฤติพงศ์ บดีนพพิทักษ์                               สอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ

โทรศัพท์  0632432379                           E-mail nigorntume21@gmail.com

2. นางสาวรุ่งรัตน์ จีรวิทย์ขจร                               สอนวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศ

โทรศัพท์ 0822424280                           E-mail                            –

โรงเรียนปิยชาติพัฒนา ในพระราชูปถัมภ์ฯ

ที่อยู่ของโรงเรียน      61/3 หมู่ 4 ต.พรหมณี อ. เมือง จ. นครนายก 26001

BS41 โครงงานเครื่องรดน้ำแปลงเกษตรอัตโนมัติ สมบูรณ์ศาสน์ ปัตตานี ม.ปลาย

Posted on March 27, 2018 by puser64 Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2560 .

 โครงงานรดน้ำแปลงเกษตรอัตโนมัติ

ที่มาและความสำคัญ

ในโรงเรียนของผม เป็นโรงเรียน ในโครงการพระราชดำริ ซึ่งโรงเรียนของผมได้จัดทำการเกษตรขึ้นมาเพื่อทำอาหารให้นักเรียนรับประทานเป็นอาหารกลางวัน ซึ่งในแต่ละวัน อาจารย์ได้จัดเวรของนักเรียน เพื่อไปรดน้ำแปลงเกษตร บางวันนักเรียนก็ไม่ค่อยว่าง และทำให้เสียเวลาตรงนั้นไป ด้วยกลุ่มของผมก็ได้คิดทำ เครื่องรดน้ำแปลงเกษตรขึ้นมาเพื่อไม่ให้เสียเวลา

หลักการทำงาน

เมื่อ Sensor ตรวจพบว่า “ความชื้นในดินต่ำกว่าค่าที่ตั้งไว้ จะส่งสัญญาณให้แก่บอร์ด Arduino ให้ประมวลผลและป้อนคำสั่งให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ทำงาน เพื่อปล่อยทำออกมารดน้ำแปลงผัก  แต่หากเกิดข้อผิดพลาดระบบไม่ทำงาน “ผู้พัฒนา” สามารถที่จะสั่งการแบบ Manual ผ่านระบบ Internet จากมือถือของผู้พัฒนาได้ อนึ่ง โปรมแกรมตั้งให้ระบบทำงานบน ๒ เงื่อนไข คือ ๑) เมื่อถึงเวลาที่กำหนด เช้า และเย็น และ ๒) เมื่อความชื้นในดินต่ำกว่าค่าที่ตั้งไว้ การทำงานของทั้ง ๒ ระบบ จะทำงานจนกว่าความชื้นในดิน เท่าระดับที่เหมาะสมกับพืชที่ปลูกอยู่บนแปลงเกษตร

ผลของการทดสอบ

การทดสอบผลงานที่สร้างขึ้นพบว่า “สามารถใช้งานตรงตามความต้องการที่ตั้งโปรแกรมไว้” ดังนี้
๑.  การรดน้ำ เพิ่มความสะดวกในการทำงาน
๒.  สามารถตอบสนองความสะดวกและประหยัดคุ้มค่า
๓.  ข้อมูลทางเทคนิคเครื่องรดน้ำต้นไม้อัตโนมัติยังทำงานได้ดีเป็นปกติ

คณะผู้จัดทำโครงงาน
๑.นายอิสดือเร๊ะ เจะหะ
๒.นายฟุรกอน หมะดอหะ
๓.นายเฟาซัน ลือโมะ

อาจารย์ที่ปรึกษา นางนูซีลา จินตรา

สถานที่ศึกษา โรงเรียนสมบูรณ์ศาสตร์ จังหวัดยะลา

BS40 โครงงาน Automatic Fertilizer Spreader ศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี ม.ปลาย

Posted on March 27, 2018 by puser63 Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2560 .


รายงานฉบับสมบูรณ์

โครงงาน เครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัติ

(Automatic Fertilizer Spreader: AFS)

เสนอต่อ

มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ

สมเด็จพระเทพรัตนสุดาฯสยามบรมราชกุมารี

ได้รับสนับสนุนทุนการทำโครงงาน

ในโครงการสนับสนุนทุนทำโครงงานของนักเรียนในชนบท

ประจำปี 2561

โดย

1. นายเทวฤทธิ์ เจริญฤทธิ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 6

2. นายณัฐพงศ์ ชุ่มแก้ว ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 3

3. เด็กชายสรายุทธ พัฒน์แป้น ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 3

อาจารย์ที่ปรึกษา นายภิญโญ ยลธรรม์ธรรม

โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี

—————————————————————————————

กิตติกรรมประกาศ

โครงงานเรื่อง เครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัติ สำเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาและความช่วยเหลืออย่างสูงจากมูลนิธิ เทคโนโลยี สารสนเทศ ตามพระราชดำรัช สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ขอขอบคุณคุณครูภิญโญ ยลธรรม์ธรรม ที่ได้กรุณาคำปรึกษาแนะนำและตรวจสอบแก้ไขข้อบกพร่องทุกขั้นตอนของการจัดทำโครงงาน คณะผู้จัดทำโครงงาน ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง

ขอขอบคุณ คุณครูและเพื่อนนักเรียนตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ไม่ได้กล่าวนามไว้ ณ ที่นี้ ได้ให้กำลังใจ และมีส่วนช่วยเหลือในโครงงานครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ท้ายที่สุดนี้ คณะผู้จัดทำโครงงาน หวังว่าโครงงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจไม่มากก็น้อย

คณะผู้จัดทำ

มิถุนายน 2561
โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี

—————————————————————————————

บทคัดย่อ

     เนื่องจากในปัจจุบันนี้ชาวสวนชวนไร่ ต้องใช้เวลานานในการหว่านปุ๋ยต่อไร่ และยังต้องใช้แรงงานคนเยอะ ทำให้ในแต่ละครั้งที่หว่านปุ๋ยใช้เวลานานเกินไป สิ่งประดิษฐ์หรือเครื่องมือที่สามารถช่วยประหยัดเวลาในการทำงานต่างๆ จะทำให้ลดภาระและอำนวยความสะดวก  เครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัติ จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองสถานการณ์ดังกล่าว ส่วนประกอบสำคัญของชิ้นงาน คือ Step motor – สปริง – Arduino – ตลับลูกปืน – สายjumper – แผงบอร์ด step motor ตัวที่ 1 ปรับทิศทางตามแนวราบ จากนั้นdelay 2วินาที step motor ตัวที่ 2 ปรับองศาตั้งฉากกับพื้นดิน จากนั้น delay 2วินาที และ step motor 3 หมุนเอ็นปล่อยสปริงเพื่อส่งปุ๋ยออกไป จากนั้น step motor 3 delay 2 วินาที step motor 2 หมุนกลับไปยังสถานะอ้างอิง Delay 2 วินาที จากนั้น step motor 1 กลับไปยังสถานเริ่มต้น

—————————————————————————————

บทนำ

1.1ความเป็นมาของโครงงาน

เนื่องจากในปัจจุบันคนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เช่น ยางพารา ปลูกผักสวนครัว ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น ซึ่งในการปลูกสิ่งเหล่านี้จะต้องมีการดูแลรักษา เพื่อให้ยางพาราหรือปาล์มน้ำมันนั้นมีผลผลิตที่ดี โดยจะต้องมีการใส่ปุ๋ยเพื่อให้พืชมีความสมบูรณ์และออกผลผลิตอย่างมีคุณภาพ โดยการใส่ปุ๋ยนั้นจะต้องมีการหว่านปุ๋ยโดยแต่ละคนมีเนื้อที่ไม่เท่ากัน หากมีพื้นที่มากการหว่านก็จะทำให้ใช้เวลาในการหว่านปุ๋ยใช้เวลานาน จากปัญหานี้ผมจึงคิดโครงงานเรื่อง เครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัติขึ้นเพื่อช่วยทำให้การหว่านปุ๋ยเร็วยิ่งขึ้น

1.2 แนวคิด

เครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัตินี้ เกิดจากการสังเกตปัญหาของชาวเกษตรกรซึ่งทำเพื่อเป็นการแก้ปัญหา โดยแนวคิดเกิดจากกล้องโทรทัศน์ ซึ่งเครื่องหว่านปุ๋ยจะหมุนไปซ้ายขวาขึ้นบนปรับทิศทางได้ ดังนั้นเราจึงนำมาประยุกต์เป็นการที่ใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีมาใช้แทนการหว่านด้วยมือ ซึ่งเกิดเป็นเครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัติ

1.3 ความสำคัญของโครงงาน

ปัจจุบัน โลกนี้มีการพัฒนามากขึ้น ผู้คนต้องแข่งขันกันทุกด้าน มีเวลาในการทำงาน้อยลง จึงได้คิดค้น เครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัติ ขึ้นเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระในการหว่านปุ๋ยแต่ละครั้ง เพราะใช้เวลานาน ซึ่งจะสามารถหว่านปุ๋ยได้เร็วขึ้นและแม่นยำ และสามารถนำเวลาที่เหลือจากการหว่านปุ๋ยไปทำอย่างอื่นได้อีก

2. วัตถุประะะสงค์และเป้าหมาย

2.1 วัตถุประสงค์ของโครงการ

1. เพื่อเรียนรู้ภาษาคอมพิวเตอร์

2. เพื่อเรียนรู้การต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์

3. เพื่อพัฒนาเครื่องมือการทำงานของเกษตรกร

2.2 เป้าหมายของโครงการ

1. เข้าใจภาษาคอมพิวเตอร์

2. เกิดทักษะการต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์

3. เกิดทักษะการทำโครงงานสิ่งประดิษฐ์สมองกลด้วย arduino

4. เครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัติ

3. รายละเอียดของผลงาน

3.1 เนื้อเรื่องย่อ

step motor ตัวที่ 1 ปรับทิศทางตามแนวราบ จากนั้นdelay 2วินาที step motor ตัวที่ 2 ปรับองศาตั้งฉากกับพื้นดิน จากนั้น delay 2วินาที และ step motor 3 หมุนเอ็นปล่อยสปริงเพื่อส่งปุ๋ยออกไป จากนั้น step motor 3 delay 2 วินาที step motor 2 หมุนกลับไปยังสถานะอ้างอิงDelay 2 วินาที จากนั้น step motor 1 กลับไปยังสถานเริ่มต้น

3.2 วัสดุ–อุปกรณ์

(1) Arduio (2) สายjumper

(3) Step motor (4) สปริง

(5) บอร์ดทดลอง (6) ตลับลูกปืน

(7) ท่อ pvc (8) ลวด

(9) เส้นเอ็น (10) เหล็กฉาก

(11) เชือก

3.3 หลักการทำงาน Algorithm

(1) เครื่องหว่านปุ๋ยอยู่ในสถานะพร้อมใช้งาน

(2) ปุ๋ยลงสู่ที่พักปุ๋ย

(3) step motor 1 หมุนปรับทิศทางตามแนวราบ

(4) step motor 2 หมุนปรับองศาตั้งฉากกับพื้นิน

(5) step motor 3 หมุนเก็บเชือกทวนเข็มนาฬิกา

(6) step motor 3 หมุนปล่อยเชือกเพื่อดีดส่งปุ๋ยไปยังเป้าหมาย

(7) Step motor 1 และ step motor 2 กลับไปยังสถานะเริ่มต้น เพื่อทำงานในครั้งต่อไป

3.4 หลักการทำงานของวงจรอิเล็กทรอนิกส์

step motor ตัวที่ 1 ปรับทิศทางตามแนวราบ จากนั้นdelay 2วินาที step motor ตัวที่ 2 ปรับองศาตั้งฉากกับพื้นดิน จากนั้น delay 2วินาที และ step motor 3 หมุนเอ็นปล่อยสปริงเพื่อส่งปุ๋ยออกไป จากนั้น step motor 3 delay 2 วินาที step motor 2 หมุนกลับไปยังสถานะอ้างอิงDelay 2 วินาที จากนั้น step motor 1 กลับไปยังสถานเริ่มต้น

การต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์แบ่งออกเป็น5ส่วน ได้แก่

1. การต่อstep motor ตัวที่ 1 เข้ากับArduino

In4 ต่อกับGPIO 11

In3 ต่อกับGPIO 10

In2 ต่อกับGPIO 9

In1 ต่อกับGPIO 8

5- – ต่อกับGND

การต่อstep motorตัวที่ 1เข้ากับ บอร์ดทดลอง +12v ต่อกับ +2

2. การต่อstep motorตัวที่ 2เข้ากับArduino

In4 ต่อกับGPIO 7

In3 ต่อกับGPIO 6

In2 ต่อกับGPIO 5

In1 ต่อกับGPIO 4

5- – ต่อกับGND

3. การต่อstep motorตัวที 3เข้ากับ บอร์ดทดลอง +12v ต่อกับ +3

การต่อบอร์ดทดลองเข้ากับArduino+1ต่อกับ5v

3.การต่อmotor 12vเข้ากับDrive motor

motor ต่อกับ Output A

3.5 เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา

1. ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการพัฒนาชิ้นงานนี้ คือภาษา python มีรายละเอียดในหัวข้อ 3.6

2. ทฤษฎี และหลักการทำงาน

Step motor ตัวที่1 ปรับทิศทางตามเข็มนาฬิกา จากนั้นdelay 2วินาที step motor ตัวที่ 2 ปรับองศา จากนั้น delay 2วินาที motor 12v หมุนเพื่อเก็บสปริง และmotor 12v หมุนปล่อยสปริงเพื่อส่งปุ๋ยไปยังเป้าหมาย จากนั้น motor 12v step motor ตัวที่1และ2 หมุนกลับไปยังสถานะเริ่มต้นเพื่อทำการส่งปุ๋ยในครั้งต่อไป

3.6 รายละเอียดโปรแกรมที่ได้พัฒนาในเชิงเทคนิค (Source codes)

#include <Stepper.h>
const int stepsPerRevolution = 32; // change this to fit the number of steps per revolution
// for your motor

// initialize the stepper library on pins 8 through 11:
Stepper myStepper1(stepsPerRevolution, 8, 10, 9, 11);
Stepper myStepper2(stepsPerRevolution, 4, 6, 5, 7 );
Stepper myStepper3(stepsPerRevolution, 2, 12, 3, 13);
int stepCount = 0; // number of steps the motor has taken
// 341.33 := 60 degree, 256 := 45 degree , 171 := 30 degree
int motor1= -256;
int motor2= -256;
int motor3= -2500;

void setup() {
// initialize the serial port:
Serial.begin(9600);
myStepper1.setSpeed(400);
myStepper2.setSpeed(400);
myStepper3.setSpeed(900);
}
void loop() {
// step one step:

myStepper1.step(motor1);

delay(2000);
myStepper2.step(motor2);
delay(2000);
myStepper3.step(motor3);
delay(2000);
Serial.print(“steps:” );
Serial.println(stepCount);
stepCount++;
myStepper3.setSpeed(900);
myStepper2.step(-motor2);

delay(2000);
myStepper1.step(-motor1);
motor3=0;
motor2=0;
motor1=0;
}

4. ผลของการทดสอบผลงาน

ครั้งที่

จำนวนปุ๋ย

Step motor 1

Step motor 2

Step motor 3

ระยะส่งปุ๋ยได้ (ซม.)

1

15

60 องศา

รอบ = 341

60 องศา

รอบ = 341

รอบ

=2500

58

2

15

60 องศา

รอบ = 341

60 องศา

รอบ = 341

รอบ

=2500

48

3

15

60 องศา

รอบ = 341

60 องศา

รอบ = 341

รอบ

=2500

49

4

15

60 องศา

รอบ = 341

60 องศา

รอบ = 341

รอบ

=2500

35

5

15

60 องศา

รอบ = 341

60 องศา

รอบ = 341

รอบ

=2500

42

6

15

60 องศา

รอบ = 341

60 องศา

รอบ = 341

รอบ

=2500

52

สรุป การทดสอบผลงาน ค่าเฉลี่ยของระยะส่งปุ๋ย คือ 47.33 ซม.

5. ปัญหาและอุปสรรค

5.1 นักเรียนเป็นนักเรียนประจำ การจัดหาสิ่งของได้ด้วยตัวเองได้ยาก จึงทำให้ไม่สามารถจัดหาสิ่งของได้

5.2 ระบบเชือกเป็นระบบที่ไม่เสถียร

6. แนวทางในการพัฒนาและประยุกต์ใช้ร่วมกับงานอื่นในขั้นต่อไป

6.1 เพื่อให้ระบบมีความเสถียรมากขึ้นต้องเปลี่ยนจากเชือกเป็นเฟืองและสายพาน

6.2 พัฒนาต่อไปโดยการใช้งานผ่านมือถือ IOT

7. ข้อสรุปและข้อเสนอแนะ

7.1 ข้อสรุป

จากการทำโครงงานเครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัตินี้เป็นการพัฒนาต่อยอดจากรการหว่านปุ๋ยด้วยมือมาเป็นเครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถหว่านปุ๋ยเองได้

7.2ข้อเสนอแนะ

(1) ควรติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมมาช่วยหรือให้คำแนะนำ

(2) ควรปรับโครงสร้างใหม่โดยใส่ผลงาน 3D เข้าไป

8. เอกสารอ้างอิง

ตัวต้านทาน

https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99&client=browser-ubuntu&hs=aBg&channel=fe&hl=en&source=lnms&sa=X&ved=0ahUKEwiWzemd0L7UAhXFsI8KHUpkB-gQ_AUIBSgA&biw=1375&bih=805&dpr=1

แผงบอร์ด

https://www.google.co.th/search?q=%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94&client=browser-ubuntu&hs=sCg&channel=fe&hl=en&source=lnms&sa=X&ved=0ahUKEwip3fzD0L7UAhWLP48KHcEYBfQQ_AUIBSgA&biw=1375&bih=805&dpr=1

สาย Jumper 

https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2Jumper&client=browser-ubuntu&hs=QDg&channel=fe&hl=en&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwiImP7T0L7UAhUEOI8KHc74CcEQ_AUIBigB&biw=1375&bih=805https://www.google.co.th/search?q=%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2Jumper&client=browser-ubuntu&hs=QDg&channel=fe&hl=en&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwiImP7T0L7UAhUEOI8KHc74CcEQ_AUIBigB&biw=1375&bih=805

arduino

https://www.google.co.th/search?q=arduino&oq=arduino&aqs=chrome..69i57j69i60l3j69i61.7537j0j7&sourceid=chrome&ie=UTF-8

step motor

https://www.google.co.th/search?q=step+motor&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=0ahUKEwjYysSVsd_bAhVZXisKHb-2COoQ_AUICigB&biw=1280&bih=680#imgrc=NUGBQbFsWSxdQM:

9. สถานที่ติดต่อของผู้พัฒนา

ที่อยู่ 55 หมู่ 9 ถนน สุราษฎร์ธานี–นาสาร

ตำบลขุนทะเล อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84100

เบอร์โทรศัพท์ 077 355481

เบอร์โทรสาร 077 355334

E-mail : thawarit15344@gmail.com , sarayutphatpean@gmail.com , NattaPhong1857@gmail.com

10. ภาคผนวก

    

11. คู่มือการใช้งาน

เมื่อติดตั้งระบบเครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัติเสร็จแล้ว ต้องเชื่อมต่อเครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัติกับมือถือโดยการปล่อยสัณญาณฮอตปอตให้ตรงกัน และเชื่อมArduino กับมือถือโดยการเข้า Arduino IDE แล้วรันโปรแกรม ทำให้เครื่องหว่านปุ๋ยอัตโนมัติทำงานได้โดยอัตโนมัติ

การดูแลรักษาและคำเตือน

1.ควรมีที่ปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ให้ถูกน้ำ

2.ไม่ควรใส่ปุ๋ยเกิน 3 กก.

 

BS39 โครงงาน Auto-control Brightness Lamp ศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี สุราษฎร์ธานี ม.ปลาย

Posted on March 27, 2018 by puser62 Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2560 .

รายงานฉบับสมบูรณ์

โคมไฟปรับระดับแสงอัตโนมัติ

Auto-control Brightness Lamp : ABL

เสนอต่อ

มูลนิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

ได้รับสนับสนุนทุนทำโครงงาน

ในโครงการสนับสนุนทำโครงงานของนักเรียนในชนบท

ประจำปีการศึกษา 2561

โดย

                                                     นางสาวทิพอักษร อินทะสร้อย

                                                     นางสาวพรรษพรรษา บุญราช

อาจารย์ที่ปรึกษา

คุณครูภิญโญ ยลธรรม์ธรรม

โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี

ก

กิตติกรรมประกาศ

โครงงานเรื่อง โคมไฟปรับระดับแสงอัตโนมัติ (Auto-control Brightness Lamp : ABL) สำเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาและความช่วยเหลืออย่างสูงมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำรัชสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ขอขอบพระคุณ นายประชา โชติรัต ผู้อำนวยการโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฏร์ธานี ที่ได้ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกต่างๆ และขอขอบคุณ คุณครูภิญโญ ยลธรรม์ธรรม คุณครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่ได้กรุณาคำปรึกษาแนะนำและตรวจสอบแก้ไขข้อบกพร่องทุกขั้นตอนของการจัดทำโครงงาน ขอขอบคุณ คุณครูสุกัญญา อุพัมมา คุณครูวรรณวิธู กลิ่นมาลี และเพื่อนนักเรียน ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ไม่ได้กล่าวนามไว้ ณ ที่นี้ ที่ได้ให้กำลังใจ และมีส่วนช่วยเหลือให้โครงงานนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

ท้ายที่สุดคณะผู้จัดทำโครงงาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงงานนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่สนใจไม่มากก็น้อย

คณะผู้จัดทำ

ข

บทคัดย่อ

การอ่านเป็นการศึกษาความรู้ด้วยตัวเอง แต่ในบางสถานที่แสงสว่างที่ได้รับแสงนั้น อาจจะไม่เพียงพอหรือสว่างมากเกินไปต่อการอ่านหนังสือ และปัญหาที่ตามมานั้นก็คือ สายตาอาจจะเสียได้ ซึ่งถ้าหากว่ากระทำเป็นประจำ ผลเสียก็จะยิ่งตามมามากขึ้น เราจึงได้คิดค้นโครงงานเรื่องโคมไฟปรับระดับแสงอัตโนมัตินี้ขึ้นมาเพื่อช่วยในเรื่องของการปรับแสงสว่างให้เพียงพอต่อการอ่านหนังสือ เพราะเครื่องนี้สามารถปรับระดับแสงสว่างของหลอดไฟได้ตามอัตโนมัติ เครื่องสมองกลนี้ได้แนวคิดมาจากโคมไฟอ่านหนังสือธรรมดา ดังนั้นเราจึงนำมาประยุกต์ใหม่โดยการเพิ่มสมองกลเข้าไปให้โคมไฟปรับระดับแสงโดยอัตโนมัติ

หลักการทำงาน เมื่อเราเปิดโคมไฟแล้วเซนเซอร์ตรวจวัดระดับความเข้มข้นของแสงก็จะทำงาน ตรวจสอบดูว่ารอบๆ บริเวณนั้นมีแสงสว่างมากหรือน้อย ถ้ามีแสงสว่างมากเครื่องจะปรับระดับแสงจากหลอดไฟ LED ให้น้อยลง ถ้าแสงน้อยเครื่องจะปรับระดับแสงสว่างให้เพิ่มมากขึ้น และถ้าวงจรอิเล็กทรอนิกส์มีอุณหมิมากกว่า 40 องศา เครื่องจะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกัน ถ้าใช้โคมไฟมากกว่าสองชั่วโมงเครื่องก็จะดับโดยอัตโนมัติ

ค

สารบัญ

เรื่อง                                                                                                                                                               หน้า

กิตติกรรมประกาศ                                                                                                                                           ก

บทคัดย่อ                                                                                                                                                         ข

สารบัญ                                                                                                                                                           ค

บทนำ                                                                                                                      1

ความเป็นมาของโครงงาน                                                                                                                               1

แนวคิด                                                                                                                    1

ความสำคัญของโครงงาน                                                                                                                                1

วัตถุประสงค์และเป้าหมาย                                                                                               1

รายละเอียดของผลงาน                                                                                                 2

เนื้อเรื่องย่อ                                                                                                                                                    2

วัสดุ–อุปกรณ์                                                                                                                                                 2

Algorithm                                                                                                              3

หลักการทำงานของวงจรอิเล็กทรอนิกส์                                                                             3

เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา                                                                                             4

ขอบเขตในการทำงาน                                                                                                  4

รายละเอียดโปรแกรมที่ได้พัฒนาในเชิงเทคนิค                                                                      5

ผลของการทดสอบผลงาน                                                                                             6

ปัญหาและอุปสรรค                                                                                                    7

แนวทางในการพัฒนาและประยุกต์                                                                                  7

ข้อสรุปและข้อเสนอแนะ                                                                                             7

เอกสารอ้างอิง                                                                                                         7

สถานที่ติดต่อของผู้พัฒนา                                                                                           7

ภาคผนวก                                                                                                             8

หน้า 1

1. บทนำ

1.1 ความเป็นมาของโครงงาน

การอ่านเป็นการศึกษาความรู้ด้วยตัวเอง แต่ในบางสถานที่แสงสว่างที่ได้รับนั้น อาจจะไม่เพียงพอหรือสว่างมากเกินไปต่อการอ่านหนังสือ และปัญหาที่ตามมานั้นก็คือ สายตาอาจจะเสียได้ ซึ่งถ้าหากว่ากระทำเป็นประจำ ผลเสียก็จะยิ่งตามมามากขึ้น เราจึงได้คิดค้นโครงงานเรื่องโคมไฟปรับระดับแสงอัตโนมัตินี้ขึ้นมาเพื่อช่วยในเรื่องของการปรับแสงสว่างให้เพียงพอต่อการอ่านหนังสือ เพราะเครื่องนี้สามารถปรับระดับแสงสว่างของหลอดไฟได้ตามอัตโนมัติ

1.2แนวคิด

เครื่องสมองกลนี้ได้แนวคิดมาจากโคมไฟอ่านหนังสือธรรมดา ดังนั้นเราจึงนำมาประยุกต์ ใหม่ โดยการเพิ่มสมองกลเข้าไปให้โคมไฟปรับระดับแสงโดยอัตโนมัติ ถ้าแสงสว่างในบริเวณรอบนอกมีความสว่างน้อย โคมไฟก็จะปรับแสงให้สว่างมากขึ้น แต่ถ้าแสงสว่างในบริเวณรอบนอกมีความสว่างมาก โคมไฟก็จะปรับแสงจากหลอดไฟให้หรี่ลง

1.3 ความสำคัญของโครงงาน

ถ้าหากว่าเราอ่านหนังสือในที่ๆ แสงสว่างไม่เพียงพอ อาจส่งผลกระทบต่อสายตา โครงงานนี้จึงมีความสำคัญที่จะช่วยให้มีไฟสว่างเพียงพอต่อการอ่านหนังสือ หรือนำมาใช้ประยุกต์ในด้านอื่นๆ ได้

2. วัตถุประสงค์และเป้าหมาย

2.1 วัตถุประสงค์ของโครงการ

1. เพื่อเรียนรู้ภาษาคอมพิวเตอร์

2. เพื่อเรียนรู้ทักษะการต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์

3. เพื่อเรียนรู้การทำโครงงานสิ่งประดิษฐ์สมองกล

4. เพื่อสร้างเครื่องปรับแสงสว่างอัตโนมัติ (สำหรับอ่านหนังสือ)

2.2 เป้าหมายของโครงการ

1. เข้าใจภาษาคอมพิวเตอร์ได้มากขึ้น

2. เกิดทักษะการต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์

3. เกิดทักษะการทำโครงงานสิ่งประดิษฐ์สมองกล

4. ได้เครื่องโคมไฟปรับระดับแสงอัตโนมัติ(Auto-control Brightness Lamp : ABL)

3. รายละเอียดของผลงาน

3.1 เนื้อเรื่องย่อ

เมื่อเราเปิดเครื่องแล้ว เซนเซอร์ตรวจวัดระดับความเข้มข้นของแสงจะทำงาน ตรวจสอบดูว่ารอบๆ บริเวณนั้นมีแสงสว่างมากหรือน้อย ถ้ามีแสงสว่างมากเครื่องจะปรับระดับแสงจากหลอดไฟ LED ให้น้อยลง ถ้าแสงน้อยเครื่องจะปรับระดับแสงสว่างให้เพิ่มมากขึ้น และถ้าวงจรอิเล็กทรอนิกส์มีอุณหมิมากกว่า 40 องศา เครื่องจะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกัน ถ้าใช้โคมไฟมากกว่าสองชั่วโมงเครื่องก็จะดับโดยอัตโนมัติ

หน้า 2

3.2 วัสดุ อุปกรณ์

[1] Arduino UNO [2] Jumper

[3] breadboard [4] Sensor LDR

[5] sensor temperature [6] Module LCD

[7] power bank [8] led super bright

หน้า 3

[9] Resistor [10] USB Cable Arduino UNO

Algorithm

1. โคมไฟอยู่ในสถานะพร้อมใช้งาน

2. เซนเซอร์ LDR ทำงานรับค่าความสว่างของแสงไฟ

3. หลอดไฟ LED ทำงานหรี่และสว่างตามค่าที่ได้รับ

4. เซนเซอร์ Temperature ทำงานรับค่าอุณหภูมิ

5. ตั้งเวลาโปรมแกรม กำหนดการใช้งาน

3.3 หลักการทำงานของวงจรอิเล็กทรอนิกส์

วงจรอิเล็กทรอนิกส์มีอุปกรณ์ในการทำงานดังนี้ คือ

1. Arduino UNO

2. Jumper

3. breadboard

4. Sensor LDR

5. sensor temperature

6. Module LCD

7. power bank

8. led super bright

9. Resistor

10. USB Cable Arduino UNO

หลักการทำงาน

เมื่อเซนเซอร์แสงตรวจจับความเข้มข้นของแสง เซนเซอร์ก็จะส่งสัญญาณไปประมวลผลที่ Node MCU และ Node MCU จะสั่งการไปที่หลอดไฟ LED ทำงานปรับระดับแสงตามที่เซนเซอร์ได้ส่งข้อมูลมา ใช้พลังจากแบตเตอรี่ที่เก็บไว้ใน Power Bank เช่นเดียวกับ เซนเซอร์ตรวจจับอุณภูมิ

3.4 เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา

1. โปรแกรม Arduino IDE

2. ภาษา C

3. ทฤษฎี และหลักการทำงาน

หน้า 4

เมื่อเราเปิดเครื่องแล้ว เซนเซอร์ตรวจวัดระดับความเข้มข้นของแสงจะทำงาน ตรวจสอบดูว่ารอบๆ บริเวณนั้นมีแสงสว่างมากหรือน้อย ถ้ามีแสงสว่างมากเครื่องจะปรับระดับแสงจากหลอดไฟ LED ให้น้อยลง ถ้าแสงน้อยเครื่องจะปรับระดับแสงสว่างให้เพิ่มมากขึ้น และถ้าวงจรอิเล็กทรอนิกส์มีอุณหมิมากกว่า 40 องศา เครื่องจะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกัน ถ้าใช้โคมไฟมากกว่าสองชั่วโมงเครื่องก็จะดับโดยอัตโนมัติ

3.5 ขอบเขตและข้อจำกัดของผลงาน

1. เนื่องจากว่าเราใช้ sensor temperature ที่มีราคาถูก คุณภาพจึงอาจจะไม่ดีพอที่จะทำการวัดอุณภูมิ ซึ่งทำให้ค่าไม่ตรงกับความเป็นจริงหรือทำให้ค่าคาดเคลื่อนได้

2. เนื่องจากว่าค่าความสว่างของแสงไฟ ที่แสดงออกมาทางหน้าจอ LCD เป็นค่าดิจิตอล ไม่ได้เป็นค่า Lux อย่างที่ตั้งไว้ จึงทำให้ไม่รู้ว่าแสงเท่าไหร่จึงจะเพียงพอต่อการอ่านหนังสือ

3.6 รายละเอียดโปรแกรมที่ได้พัฒนาในเชิงเทคนิค (Source Code)

#include <Timer.h>

#include <TimerFunc.h>

#include <Wire.h>

#include <LiquidCrystal_I2C.h>

#include <AVG_Filter.h>

// Set the LCD address to 0x3f for a 16 chars and 2 line display

LiquidCrystal_I2C lcd(0x3f, 16, 2);

int val;

int val_ldr;

const int tempPin = A0;

const int ldrPin = A1;

const int pwmLPin = 6;

int outputValue = 0;

int backLight = 13; // pin 13 will control the backlight

Timer t1(30000);

void setup()

{

// initialize the LCD

lcd.begin();

lcd.backlight();

t1.start();

}

int probe_var = 0 ;

AVG_Filter avg(10);

หน้า 5

void loop()

{

if ( t1.isTimeOut() ) {

lcd.noDisplay();

lcd.noBacklight();

t1.stop();

outputValue = -1;

analogWrite(pwmLPin, outputValue);

exit(0);

return ;

}

probe_var = analogRead(tempPin);

avg.attach(probe_var);

int val = avg.mean();

float mv = (val / 1023.0) * 4900;

float Temp_cel = mv / 10;

val_ldr = analogRead(ldrPin);

outputValue = map(val_ldr, 0, 1023, 0, 255);

// change the analog out value:

analogWrite(pwmLPin, outputValue);

lcd.setCursor(1, 0);

lcd.print(F(“Temp = “));

lcd.print(Temp_cel);

lcd.print(F(” C”));

lcd.setCursor(1, 1);

lcd.print(F(“Light = “));

lcd.print(val_ldr);

delay(1000);

lcd.clear();

if (Temp_cel > 30.0) {

lcd.noDisplay();

lcd.noBacklight();

outputValue = -1;

analogWrite(pwmLPin, outputValue);

exit(0); }

}

หน้า 6

4. ผลของการทดสอบผลงาน

หลังจากทดสอบผลงานแล้ว เป็นดังนี้

1. หลอดไฟสามารถปรับระดับแสงให้หรี่ลงและสว่างขึ้นได้โดยอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมภายนอกโดยรับค่าความสว่างจาก Sensor LDR

2. เครื่อง ABL จะปิดหลอดไฟ LEDโดยอัตโนมัติหลังจากที่ถูกใช้งานมากกว่าสองชั่วโมง ตามที่ตั้งไว้ในโปรแกรม

3. เครื่อง ABLจะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติ เมื่ออุหภูมิมากกว่าสี่สิบองศา

4. พบข้อควรพัฒนา ได้แก่

4.1 เปลี่ยนsensor temperature ให้มีคุณภาพที่ดีกว่าและสามารถวัดอุณหภูมิได้ใกล้เคียงกับค่าความเป็นจริงมากขึ้น

4.2 แปลงค่าของความสว่างจากที่เป็นค่าดิจิตอล ให้เป็นค่า Lux

5. ปัญหาและอุปสรรค

– อุปกรณ์บางอย่างไม่เพียงพอต่อการใช้งาน

– Sensor LDR ไม่แสดงผลออกมาเป็นค่าของ Lux

6. แนวทางในการพัฒนาและประยุกต์ใช้ร่วมกับงานอื่นในขั้นต่อไป

จะนำโครงงานนี้มาพัฒนาโดยการเพิ่มระบบเปิดปิดด้วยเสียงอัตโนมัติเข้าไป และทำเป็นเครื่องเปิดหน้าหนังสืออัตโนมัติ โดยใช้ Sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหว

7. ข้อสรุปและข้อเสนอแนะ

7.1 ข้อสรุป

โปรแกรมและวงจรสามารถทำงานได้ตามที่วางแผนไว้ คือ

1. หลอดไฟสามารถปรับระดับได้อัตโนมัติ หลอดไฟสามารถปรับระดับแสงตามสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ เช่น ถ้าแสงไฟในบริเวณรอบนอกมีความสว่างมาก หลอดไฟจะหรี่ลง และถ้าแสงไฟบริเวณรอบนอกมีความสว่างน้อย หลอดไฟก็จะสว่างขึ้น

2. Sensor temperature ทำงานวัดอุณหณภูมิได้

ถ้ามากกว่าสี่สิบองศาเครื่องจะหยุดการทำงาน

3. โปรแกรมตั้งเวลาทำงานได้โดยอัตโนมัติ

ถ้าโคมไฟถูกใช้งานมากกว่าสองชั่วโมงเครื่องจะหยุดการทำงาน

7.2ข้อเสนอแนะ

อยากให้หน้าจอ LCD แสดงผลออกมาเป็นค่า Lux และสามารถบอกได้ว่าค่าความสว่างเท่าไหร่จึงจะเพียงพอต่อการอ่านหนังสือ

8. เอกสารอ้างอิง

www.arduino.cc/

9. สถานที่ติดต่อของผู้พัฒนา

ที่อยู่ 55 หมู่ 9 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฏร์ธานี ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี 84100

หน้า 7

10. ภาคผนวก

แสดงภาพกิจกรรม/ชิ้นงาน

BS38 โครงงานเครื่องไล่นกพิราบอัตโนมัติ ศึกษาสงเคราะห์พัทลุง พัทลุง ม.ปลาย

Posted on March 27, 2018 by puser61 Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2560 .

เครื่องไล่นกพิราบอัตโนมัติ
Automaticpigeon chasing machine

 

ที่มาและความสำคัญ

 

ปัจจุบัน นกหลายชนิดได้สร้างความเสียหายให้กับอาคาร สินค้า และผลผลิตทางการเกษตรมากมาย โดยเฉพาะนกพิราบซึ่งมักจะมาอาศัยตามอาคารต่าง ๆ และถ่ายมูลไว้ ซึ่งนอกจากจะสร้างความสกปรกแก่บริเวณอาคารและส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว ยังเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรคหลายชนิดมาสู่มนุษย์ เช่น โรคปอดอักเสบ, โรคปอดบวม และโรคไข้หวัดนก เป็นต้น ทำให้เสียสุขภาพ เงินเสีย เสียเวลาในการดูแลรักษา หรืออาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง จัดการศึกษาให้กับผู้ด้อยโอกาส 10 ประเภท เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นโรงเรียนประจำ นักเรียนพักอาศัยอยู่ในโรงเรียนตลอดเวลา และประสบกับปัญหามีนกพิราบจำนวนมากมาอาศัยอยู่ในโรงเรียน โดยเฉพาะบริเวณอาคารเรียน 2 และอาคารอเนกประสงค์ ทำให้บริเวณดังกล่าวไม่มีความสะอาด ไม่ถูกสุขลักษณะ เสื่อมโทรม และอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงต้องหาวิธีการขับไล่ไม่ให้นกพิราบมาอาศัยอยู่ เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของผู้ใช้อาคาร เพื่อป้องกันไม่ให้อาคารเสื่อมโทรม และสามารถใช้ประโยชน์จากอาคารได้อย่างเต็มที่ต่อไป

จากการสืบค้นข้อมูล พบว่า ได้มีการใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อขับไล่และป้องกันนกพิราบมาหลายวิธี แต่ยังไม่มีวิธีที่แก้ปัญหาได้อย่างสมบูรณ์ โดยจะใช้ได้ผลในระยะแรก ๆ หลังจากนั้นนกก็จะเกิดความเคยชินและกลับมาอีก โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุงจึงมีแนวคิดในการทำโครงงานพัฒนาเครื่องไล่นกพิราบอัตโนมัติขึ้นมาเพื่อใช้ในการขับไล่นกพิราบให้เกิดประสิทธิผลและประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน

 

วัตถุประสงค์

 

  1. เพื่อพัฒนาเครื่องไล่นกพิราบอัตโนมัติที่ใช้สมองกลฝังตัวเป็นส่วนประกอบ โดยประหยัดงบประมาณของโรงเรียนในการป้องกันและกำจัดนกพิราบ
  2. เพื่อขับไล่นกพิราบให้ออกจากอาคารเรียน ทำให้อาคารเรียนและบริเวณโรงเรียนสะอาด ปราศจากแหล่งสะสมเชื้อโรคที่มาจากนกพิราบ
  3. เพื่อป้องกันปัญหาการผุกร่อนของอาคารที่เกิดจากนกพิราบ

 

วัสดุอุปกรณ์

ลำดับ วัสดุอุปกรณ์    จำนวน
1. Arduino UNO R3
2. PIR Motion Sensor
3. Adapter 9V 1A
4. โพรโทบอร์ด
5. Buzzer
6. RGB LED module
7. สายไฟจัมเปอร์
8. สาย USB

 

 

 

 

 

แผนผังโครงงาน

 

 

หลักการทำงาน

เมื่อมีนกพิราบบินผ่าน Sensor จะส่งข้อมูลไปยัง Arduino เพื่อสั่งการให้ Led  และ Buzzer  ทำงานโดยส่งสัญญาณไฟกระพริบและเสียง

 

CODE คำสั่งการทำงาน

 

void setup() {

pinMode(3, INPUT);//pir sensor

pinMode(8, OUTPUT);//led

pinMode(2, OUTPUT);//buzzer

}

void loop() {

int value= digitalRead(3);

if (value == HIGH){

digitalWrite(8, HIGH);

delay(50);

digitalWrite(8, LOW);

delay(50);

}if (value == HIGH){

digitalWrite(2, HIGH);

}if (value == LOW){

digitalWrite(8, LOW);

digitalWrite(2, LOW);

}

}

 

 

 

ผลของการทดสอบ

 

  • เมื่อยกมือหรือเดินผ่าน เซ็นเซอร์จะตรวจจับการเคลื่อนไหวและส่งผลแสดงออกเป็นเสียงและแสงไฟกะพริบ
  • เมื่อนำไปทดสอบโดยวางไว้ในบริเวณที่มีนกพิราบ ปรากฏว่าเครื่องสามารถส่งเสียงและไฟกะพริบออกมาได้และนกพิราบบินหนี

 

 

ขั้นตอนประกอบวงจรตามที่ได้ออกแบบวงจรไว้โดยมีขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอน การดำเนินการ
1 เตรียมวัสดุอุปกรณ์การประกอบเครื่องไล่นกพิราบอัตโนมัติ

 




2 การต่อวงจร PIR Sensor, LED และBuzzer เข้ากับโพรโทบอร์ดและต่อโพรโทบอร์ด

 

 

 

 

3 Upload โปรแกรมเข้ากับ   บอร์ด Arduino

 

4 ทดสอบการทำงานของวงจร

 

5 ประกอบเข้ากล่องเพื่อใช้งาน

 

 

 

 

วีดีโอผลงาน

คลิกชมวีดีโอ

คณะผู้จัดทำโครงงาน

นางสาวรุจิรา หนูภักดี         ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
นางสาววิชญาดา รองเลื่อน   ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
นางสาวปิยรัตน์ ขาวล้วน     ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖

 

อาจารย์ที่ปรึกษา

1.  นางสาวอุบลวรรณ  เมืองแก้ว สอนวิชา          วิทยาศาสตร์
โทรศัพท์  093-7144874 Email : mubonwan_sspt2014@hotmail.com
2.  นางสุกัญญา  ขาวเผือก สอนวิชา          คอมพิวเตอร์
    โทรศัพท์  086-9695205 E-mail : ssptsukanya2559@gmail.com

สถานที่ติดต่อ

โรงเรียน โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง

Sueksa Songkhro Phatthalung School, Phatthalung

ที่อยู่ 170 หมู่ 1 ตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง
โทรศัพท์ 074-673786, 074-673982   
โทรสาร 074-829748
E-mail sspt53@gmail.com

เว็บไซต์

www.sspt.ac.th

 

BS35 โครงงานเครื่องตรวจจับควันบุหรีในห้องน้ำ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นราธิวาส จังหวัดนราธิวาส ม.ปลาย

Posted on March 27, 2018 by puser60 Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2560 .

โครงงานเครื่องตรวจจับควันบุหรี่ในห้องน้ำ

 

ที่มาและความสำคัญ

         

                   เนื่องจากโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นราธิวาส ได้มีนักเรียนบางส่วนทำผิดกฎของทางโรงเรียน มีการประพฤติตนไม่พึงประสงค์หลายประเภท เช่น การสูบบุหรี่ในห้องน้ำ ซึ่งเป็นปัญหาที่สะสมมานาน และเป็นปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้ คณะครูและฝ่ายกิจการนักเรียนได้ดูแล ควบคุม และกวดขันพฤติกรรมของนักเรียนเหล่านี้มาโดยตลอด

เพื่อเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของทางโรงเรียน ทางคณะผู้จัดทำจึงได้คิดค้นเครื่องตรวจจับควันบุหรี่ขึ้นมา โดยศึกษาและออกแบบระบบตรวจจับควันขนาดเล็ก เพื่อที่จะนำมาใช้ในการตรวจจับควันบุหรี่เป็นหลัก และทำการออกแบบเครื่องตรวจจับควัน คือ แบบใช้ LED Infrared ที่เครื่องตรวจจับควันมาประยุกต์ใช้ โดยเครื่องตรวจจับควัน จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยัง Application Line เป็นการป้องกันการสูบบุหรี่ในห้องน้ำ และรอบๆ บริเวณโรงเรียน และยังสามารถช่วยลดภาระในการดูแลของคณะครู และฝ่ายกิจการนักเรียน ตลอดจนมีการส่งข้อความและรูปภาพผ่าน Application Line ของคณะครูที่รับผิดชอบเพื่อให้สามารถรับรู้ได้ทันท่วงที

วัตถุประสงค์

1. สร้างต้นแบบเครื่องจับควันบุหรี่
2. ลดปัญหาการสูบบุหรี่
3. สามารถแจ้งเตือนผ่าน Application Line ทั้งข้อความและรูปภาพได้ทันทีเมื่อมีผู้สูบบุหรี่

 

วัสดุอุปกรณ์

 1.Raspberry Pi 3

2.Breadboard

3. ตัวต้านทาน

4. Micro SD Card

5.เซนเซอร์เสียง

6.เซนเซอร์ควัน

7.led nano

 

8. สายไฟจัมเปอร์

9. Camera Module

ผังโครงสร้าง

 

 

 

หลักการทำงาน

       เมื่อเซนเซอร์ควันตรวจพบควัน ก็จะส่งสัญญาญไปยังโปรแกรมเพื่อที่จะประมวลผลและส่งกลับมาเป็นสัญญาญเสียงสัญญาญไฟกระพริบ ส่งข้อความและรูปภาพไปยังกลุ่มไลน์ที่ได้ตั้งค่าไว้

 

CODE คำสั่งการทำงาน

 

/**********************************
 * This code for detec the smoke
 * if the smoke has detected it will open
 * alarm system and sedn notify to LINE application
 *********************************/
//get needed library
#include<wiringPi.h>
#include<stdio.h>
//pin specfication
#defineLED0
#defineBUZZER1
#defineSMOKE4
#defineLINE_BUFSIZE1024
voidsiren(void);
intsend_line(void);
// main funcion
intmain(void)
{
intsensordetect = 0;  // set default sensor value
//initial device
          if(wiringPiSetup() == -1){ //when initialize wiring failed,printmessageto screen
                   printf(“setup wiringPi failed !”);
                   return1;
          }
          printf(“linker LedPin : GPIO %d(wiringPi pin)\n”,BUZZER); //when initialize wiring successfully,print message to screen
//setup pin for device
          pinMode(LED, OUTPUT);
          pinMode(BUZZER, OUTPUT);
          pinMode(SMOKE, INPUT);
//run forever
          while(1){
sensordetect = digitalRead(SMOKE);//คำสั่งส่ง line ไปยังโทรศัพท์
//printf(“sensor status : %d\n”,sensordetect);
printf(“OK!!!\n”);
//echo siren and show bliking led if sensor has detected ( 0 means senser has detected)
if (sensordetect == 0) {
printf(“hey!!! there are stududent smoking!!!\n”);ข้อความ
siren();
send_line();
        }
          }
          return0;
}
//make a siren sound and blinking led                              //คำสั่งส่งเสียง
voidsiren(void) {
int i;
//generate siren low sound
digitalWrite(LED,HIGH);
for (i = 0; i <80; i++) // Wen a frequency sound
    {
digitalWrite (BUZZER, HIGH) ;// send voice//ส่งเสียง
delay (1) ;// Delay 1ms
digitalWrite (BUZZER, LOW) ;// do not send voice
delay (1) ;// delay ms
    }
digitalWrite(LED,LOW);
//generate siren high sound
for (i = 0; i <100; i++) // Wen Qie out another frequency sound
    {
digitalWrite (BUZZER, HIGH) ;// send voice
delay (2) ;// delay 2ms
digitalWrite (BUZZER, LOW) ;// do not send voice
delay (2) ;// delay 2ms
    }
}
#!/bin/bash

raspistill –o /home/pi/smoke/smokr.jpg

Convert smoke.jpg –resize 1280×962 smoke01.jpg //คำสั่งแสดงรูปภาพ

Curl –x POST –H ‘Authorization: Bearer ciiGBax0ejh0mVKzIkbPagr7Z5FOMD2Zxtgyx1Hyhef’ –F ‘message=hey!!! There are student smoking’ –F ‘imageFile=@/home/pi/smoke/smoke01.jpg’ https://notify-api.line.line.me/api/notify

 

intsend_line(void) {
char line[LINE_BUFSIZE];
intlinenr;
FILE *pipe;
/* Get a pipe where the output from the scripts comes in */
pipe = popen(“./sendline.sh”, “r”);
if (pipe == NULL) {  /* check for errors */
//perror(argv[0]); /* report error message */
return1;        /* return with exit code indicating error */
                                            }
/* Read script output from the pipe line by line */
linenr = 1;
while (fgets(line, LINE_BUFSIZE, pipe) != NULL) {
printf(“Script output line %d: %s”, linenr, line);
        ++linenr;
                                }
/* Once here, out of the loop, th

e script has ended. */

pclose(pipe); /* Close the pipe */
return0;     /* return with exit code indicating success. */
}

ผลของการทดสอบ

ผลของการทดสอบเครื่องตรวจจับควันบุหรี่ช่วยเพิ่มความสามารถในการนำกลับมาใช้ใหม่และใช้งานได้จริง

 

รูปการทำงาน

1. ทำการเข้าโปรแกรมแล้วพิมว่า cd smoke แล้วกด Enter

2. ทำการพิมคำว่า  ./smoke แล้วกด Enter

3.หลังจากทำทั้ง 2 ขั้นตอนเสร็จ โปรแกรมจะแสดงว่า OK !!! หมายความว่าโปรแกรมพร้อมใช้งาน

 

 

 

วีดีโอผลงาน

 

 

คณะผู้จัดทำโครงงาน

1. นายเจษฎา  สมใจ  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
2. นางสาวโนรอาซีกิมณ์ นาพี  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
3. นางสาวนูรอารีฟะห์ มะสะอิ  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

 

อาจารย์ที่ปรึกษา

1. นางสาวเปรมยุดา  จันทร์เหมือน                                 สอนวิชา คอมพิวเตอร์
โทรศัพท์  089-2935974                           E-mail  premyuda2526@hotmail.com

2. นางสาวปาตีเมาะ  กอและ                                          สอนวิชา  ฟิสิกส์
โทรศัพท์  093-5826282                           E-mail  pamo_phy2@hotmail.com

 

โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์นราธิวาส

ที่อยู่ 195/1 หมู่ที่ 9 ตำบลโละจูด อำเภอแว้ง  จังหวัดนราธิวาส 96160

BS30 โครงงานเครื่องกรองน้ำเสียระบบอัตโนมัติ พีระยานาวินคลองหินวิทยา ปัตตานี ม.ปลาย

Posted on March 27, 2018 by puser57 Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2560 .

โครงงานเครื่องกรอกน้ำเสียระบบอัตโนมัติ

ที่มาและความสำคัญ

ปัจจุบันมีอาชีพมากมายที่สามารถสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวและชุมชนซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการทำเกษตรเกี่ยวกับการเลี้ยงปลาซึ่งเป็นอาชีพที่นิยมในหลาย ๆ พื้นที่ ซึ่งในการทำอาชีพนี่มักเจอกับปัญหาเกี่ยวกับน้ำเสียในบ่อเลี้ยงปลา (บ่อซีเมน) และต้องเปลี่ยนน้ำทิ้งบ่อย ๆ ซึ่งมันทำให้ใช้น้ำอย่างสิ้นเปลืองไปเปล่า ๆ ซึ่งทางโรงเรียนพีระยานาวินคลองหินวิทยา เป็นอีกหนึ่งโรงเรียนที่ได้สนองพระราชดำริเกี่ยวกับการฝึกอาชีพในโรงเรียน โดยจัดทำกิจกรรมด้านการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ ปลูกพืชผักและทำการเลี้ยงปลาดุกในบ่อปูนซีเมนต์ และเจอปัญหาเกี่ยวกับการถ่ายเปลี่ยนน้ำเสียในการเลี้ยงปลาดุกทุก ๔ วัน ต้องทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำ  และจำนวนบ่อในการเลี้ยง จำนวน  ๘ บ่อ

ดังนั้น หากเราสามารถประดิษฐ์เครื่องกรองน้ำสมองกลก็จะสามารถช่วยเหลือในการทำกิจกรรมของโรงเรียนแล้วยังสามารถส่งเสริมให้เกษตรกรนำไปใช่ได้อย่างดี และช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไป และช่วยอำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรที่ทำอาชีพเลี้ยงปลาอีกด้วย และทำให้เราใช้น้ำอย่างคุ้มค่า

หลักการทำงาน

เมื่อ Sensor วัดค่าความขุ่นของน้ำตรวจพบว่า ค่าความขุ่นมัวต่ำกว่าที่ตั้งโปรแกรมไว้ บอร์ด Arduino จะส่งสัญญาณคำสั่งให้ปั้มเริ่มทำงาน ดูดน้ำออกจากบ่อ เข้าสู่ระบบกรองน้ำ วนแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่า ค่าความขุ่นของน้ำจะอยู่ในเกณฑ์ที่ตั้งไว้

ผลของการทดสอบ

จากการทำบ่อจำลองเพื่อทดสอบระบบ “เครื่องกรอกน้ำเสียระบบอัตโนมัติ” จำนวน ๓ ครั้ง พบว่า ระบบสามารถทำตามที่ตั้งโปรแกรมไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ประสิทธิการกรองน้ำนั้น ขึ้นอยู่กับส่วนกรองน้ำ ซึ่งในการทดสอบใช้เพียงวัสดุกรองน้ำจากทำธรรมชาติ ซึ่งอาจมีผลต่อจำนวนการวนรอบการกรองน้ำ โดยอาจทำให้จำนวนรอบมากกว่าเกินความจำเป็น ซึ่งมีผลต่อรายจ่ายค่าไฟฟ้า

คณะผู้จัดทำโครงงาน
๑.นายอันวา กามารี
๒.นายอัฟฟาน อาบูบากา
๓.นายอดุลย์ เซะมิง

อาจารย์ที่ปรึกษา
๑.นายมัรสุกี สะอุ

สถานที่ศึกษา โรงเรียนพีระยานาวินคลองหินวิทยา จังหวัดปัตตานี

AN02 โครงงานระบบให้ปุ๋ยอัตโนมัติไฮโดรโปรนิกสำหรับเมล่อน ราชประชานุเคราะห์ 24 พะเยา (ม.ต้น)

Posted on March 23, 2018 by user24 Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2560 .

โครงงานระบบให้ปุ๋ยอัตโนมัติไฮโดรโปรนิกสำหรับเมล่อน

 

ที่มาและความสำคัญ

การทำเกษตรในปัจจุบัน ต้องการสิ่งประดิษฐ์เพื่อการใช้งานด้านเกษตรกรรมโดยมีการประยุกต์ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อาจจะเป็นนวัตกรรมใหม่ หรือเป็นการดัดแปลง ฯลฯ  เพื่อช่วยในการเพิ่มผลผลิตทางเกษตรกรรม ในพัฒนาคุณภาพของผลผลิตทางเกษตรกรรมอีกทางหนึ่ง ทั้งนี้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา เน้นการเรียนการสอนให้ผู้เรียนทุกคนสามารถมีอาชีพติดตัวอย่างน้อยคนละ ๑ อาชีพเมื่อจบปีการศึกษา ซึ่งกลุ่มข้าพเจ้าได้ดำเนินการปลูกเมล่อนและผักสลัด โดยใช้ระบบการให้ปุ๋ยแบบไฮโดรโปรนิกส์ ซึ่งการผสมปุ๋ย A และ ปุ๋ย B นั้นจะต้องทำบ่อยครั้งในกรณีที่ธาตุอาหารในปุ๋ยลดน้อยลง ซึ่งต้องทำการผสมแบบ Manual แล้วใช้เครื่องวัดค่าปุ๋ย (EC มิเตอร์) วัดค่าที่กำหนดไว้ คณะผู้จัดทำโครงงานจึงได้คิดระบบผสมปุ๋ยไฮโดรโปรนิกส์อัตโนมัติด้วยสมองกลขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวเพื่อให้เกิดความสะดวกและความรวดเร็วในการผสมปุ๋ย

หลักการทำงาน

หลักการทำงานโดยรวมของระบบควบคุมระบบผสมปุ๋ยไฮโดรโปรนิกส์อัตโนมัติด้วยสมองกลฝังตัวคือ เมื่อผู้ใช้งานเข้าใช้ระบบ ระบบจะมีส่วนรักษาความปลอดภัยของระบบโดยให้ทำการ Login  เมื่อ  Login เสร็จเรียบร้อยจะเข้าสู่หน้าเว็บเพจที่ใช้ในการควบคุมระบบไฟฟ้า   ซึ่งการควบคุมการทำงานจะรับข้อมูลจาก ผู้ใช้ระบบควบคุมผ่าน Smart Phone หรือ Computer เมื่อรับข้อมูลแล้วระบบจะส่งคำสั่งข้อมูลให้กับ KidBright เพื่อทำการส่งคำสั่งข้อมูลผ่านไปยังตัวรับสัญญาณ Internet  แล้วก็จะทำการส่งคำสั่งข้อมูลผ่านไปยัง KidBright เพื่อควบคุมการทำงานของโปรแกรมควบคุมอัตโนมัติที่ทำหน้าที่รายงานผลการทดสอบเป็นแบบฟังก์ชั่นกราฟจาก Sensor EC สำหรับระบบผสมปุ๋ยไฮโดรโปรนิกส์อัตโนมัติด้วยสมองกลฝังตัว การแจ้งสถานการณ์ทำงานและกราฟแสดงจะส่งข้อมูลกลับมาแสดงผ่านหน้า Sma

rt Phone หรือ Computer  ซึ่งจากผลการทดลอง คณะผู้จัดทำโครงงานสามารถที่จะสร้างระบบผสมปุ๋ยไฮโรโปรนิกส์อัตโนมัติด้วยสมองกลฝังตัวที่สามารถใช้งานได้จริง

ผลของการทดสอบ

ระบบผสมปุ๋ยไฮโดรโปรนิกส์อัตโนมัติด้วยสมองกลฝังตัวสามารถใช้งานได้จริง โดยสามารถตั้งเวลาในการทำงานได้สูงสุด ๖๐ นาที และสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการจ้างแรงงานในการมาดูแลผักไฮโดรโปรนิกส์คิดเป็นร้อยละ ๙๓.๗๕ ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถมีเวลาส่วนตัวมากขึ้น ดูแลผักได้ดีตามที่กำหนดไว้


คณะผู้จัดทำโครงงาน
๑.นายสหชัย เลาสาร
๒.นายดุลยวัต นรชาติวศิน
๓.นายวิเชียร  ลีภิวัฒน์วงศ์

อาจารย์ที่ปรึกษา
๑.นายนันท์ ก้อคำ
๒.นางสาววรรณิกา   ริกากรณ์

สถานที่ศึกษา : 
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๔ จังหวัดพะเยา

BS29 โครงงานพัดลมอัจฉริยะ บากงพิทยา ปัตตานี ม.ปลาย

Posted on March 23, 2018 by puser56 Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2560 .

โครงงานพัดลมอัจฉริยะ

ที่มาและความสำคัญ

โรงเรียนบากงพิทยาจัดตั้งอยู่ที่  ๖๕  ม.๒ ต.บางเขา อ.หนองจิก จังหวัดปัตตานี  ได้ทำการเปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ซึ่งในแต่ละห้องเรียนจะมีการติดตั้งพัดลมเพดานทุกห้องเพื่อระบายความร้อนให้แก่นักเรียน บ่อยครั้งเมื่อถึงเวลาเลิกเรียนจะพบปัญหานักเรียนชอบลืมปิดพัดลมทำให้พัดลมเสียง่าย รวมทั้งยังเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าที่ส่งผลทำให้เกิดภาวะโลกร้อน แล้วยังทำให้โรงเรียนเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงพัดลม ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย  ดังนั้นกลุ่มของข้าพเจ้าได้เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้คิดค้นจัดทำพัดลมอัจฉริยะขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาการเปิด-ปิดพัดลมหลังเลิกใช้งาน

หลักการทำงาน

เมื่อคนเข้าห้องเรียนเซนเซอร์ตรวจจับวัตถุตัวแรกก็จะทำงานโดยการนับจำนวนผู้เข้าห้อง และส่งข้อมูลไปยังบอร์ด KidbrightและArduino ซึ่งทำหน้าที่รับข้อมูลจากเซนเซอร์จากนั้นkidbright จะสั่งการให้ Relay ทำหน้าที่ควบคุมการเปิด-ปิดพัดลม จากการตั้งค่าการเขียนโปรแกรมด้วยArduino โดยตั้งค่าเงื่อนไขถ้าคนเข้าในห้องมากกว่าหนึ่งคนพัดลมตัวเเรกจะเปิดอัตโนมัติ คนเข้าห้องมากกว่า ๕ คน พัดลมตัวที่สองจะเปิดอัตโนมัติ เเละถ้ามีคนเข้าห้องมากกว่า ๑๐ คนพัดลมตัวที่สามก็จะถูกเปิดโดยอัตโนมัติ พัดลมจะเปิดตามจำนวนคนเข้าห้องเรียน เมื่อมีคนออกจากห้องผ่านเซนเซอร์ตรวจจับวัตถุตัวที่สอง ซึ่งทำหน้าที่นับจำนวนคนที่ออกจากห้องทำให้จำนวนคนที่อยู่ในห้องลดน้อยลง พัดลมตัวแรก ตัวที่สอง และตัวสุดท้ายจะถูกปิดลงโดยอัตโนมัติ ตามจำนวนคนที่ลดน้อยลง

ผลของการทดสอบ

คณะผู้จัดทำโครงงาน
๑.นายอับดุล อามะ
๒.นายยุสรี มามะ
๓.นายมูฮำหมัดอามัน อาแวกือจิ

อาจารย์ที่ปรึกษา
๑.นางสาวนูรียะ อามะ
๒.นางสาวฮาสือนะ แบเฮง

สถานที่ศึกษา โรงเรียนบากงพิทยา จังหวัดปัตตานี

BS28 โครงงานเครื่องให้อาหารไก่อัตโนมัติ บากงพิทยา ปัตตานี ม.ปลาย

Posted on March 23, 2018 by puser55 Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2560 .

โครงงานเครื่องให้อาหารไก่อัตโนมัติ

ที่มาและความสำคัญ

เนื่องจากปัจจุบันโรงเรียนบากงพิทยาได้ดำเนินจัดทำการเกษตรหลายด้านด้วยกัน เช่น การเลี้ยงปลา เพาะเห็ดนางฟ้า ปลูกมะนาว ปลูกผักสวนครัว เลี้ยงเป็ดและเลี้ยงไก่ไข่ ซึ่งจากการดำเนินงานพบว่าปัญหาในการให้อาหารไก่โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเที่ยงเพราะเป็นช่วงเวลาเรียนของนักเรียน ทางโรงเรียนจึงแก้ปัญหาด้วยการจ้างบุคคลากรเพิ่มเพื่อมาดูแลในเรื่องให้อาหารไก่โดยเฉพาะทำให้โรงเรียนต้องเสียงบประมาณเพิ่มขึ้น ดังนั้น กลุ่มของข้าพเจ้าได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้จึงได้คิดค้นจะสร้างเครื่องให้อาหารไก่อัตโนมัติเพื่อขจัดปัญหาดังกล่าวและช่วยโรงเรียนลดค่าใช้จ่ายในการจ้างบุคลากรเพิ่มอีกด้วย

หลักการทำงาน

    การทำงานของเครื่องให้อาหารไก่อัตโนมัติ ใช้บอร์ด Arduino เป็นตัวควบคุมการทำงาน เมื่อ Ultra Sonic Sensor จับเสียงไก่ที่มากินอาหารได้ จะส่งสัญญาณค่าไปยังบอร์ด Arduino จากนั้นบอร์ด Arduino จะส่งคำสั่งไปยัง Servo Motor 5V เพื่อสั่งตัวแกนหมุนปล่อยอาหารไก่ลงภาชนะรองรับ และเมื่อ Sensor ตรวจจับบนภาชนะตรวจพบว่า อาหารถึงระดับที่ตั้งไว้ Arduino จะส่งคำสั่งไปที่ Servo Motor 5V อีกครั้ง เพื่อหยุดการทำงานแกนหมุนที่ทำหน้าที่ปล่อยอาหารก็จะหยุดปล่อยอาหารไก่อัตโนมัติ

ผลของการทดสอบ

จากการจำลองสถานะการณ์เพื่อทดสอบการทำงานของ “เครื่องให้อาหารไก่อัตโนมัติ” ระบบสามารถทำงานตามคำสั่งของของโปรแกรมที่เขียนได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ

คณะผู้จัดทำโครงงาน

๑.นางสาวนูรฮายาตี โต๊ะตาหยง
๒.นางสาวธนาภรณ์ ยาโม
๓.นางสาวไซนะ มามะ

อาจารย์ที่ปรึกษา

๑.นางสาวนูรียะ อามะ
๒.นางสาวฮาสือนะ แบเฮง

สถานที่ศึกษา
โรงเรียนบากงพิทยา จังหวัดปัตตานี

« Previous Page
Next Page »

Meta

  • Log in
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org

CyberChimps WordPress Themes

© โครงงานสมองกลฝังตัว