โครงงานSMART MUSHROOM FARM (ฟาร์มเห็ดอัจฉริยะ)

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดพังงา

ผู้จัดทำ

1. เด็กชายธนดล หอมรสกล้า
2. เด็กชายพงศกร จิงา
3. นายพสิษฐ์ บุุรินทรโกษฐ์
4. นายตนุภัทร ควรสมบัติ

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวพรพิมล เจี้ยมบุตร
อาจารย์ที่ปรึกษา:  นายธันวา รุกขา
อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวปาริฉัตร ชัยภัทรกุล

บทนำ

การจัดการศึกษาในโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดพังงา เป็นการจัดการศึกษาเฉพาะความพิการที่ประกอบด้วยนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน บกพร่องทางสติปัญญา และบุคคลออทิสติก การจัดการศึกษา มีความจำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนทุกคน โดยมุ่งหวัง ให้นักเรียนได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา คุณธรรมจริยธรรม มีการส่งเสริมทักษะอาชีพเพื่อการมีงานทำ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ ทักษะ เป็นแนวทางในการประกอบอาชีพหรือช่วยงานอาชีพที่บ้านของนักเรียนได้ เมื่อจบการศึกษาไปแล้ว
โครงการอาชีพเพาะเห็ดนางฟ้า เป็นโครงการหนึ่งที่โรงเรียนมุ่งส่งเสริมพัฒนาให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะ อาชีพเพาะเห็ดนางฟ้า เริ่มตั้งแต่กระบวนการสร้างโรงเรือน ทำก้อนเห็ด การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยวผลผลิต ตลอดถึงการจัดจำหน่าย
ดังนั้น คณะผู้จัดทำจึงได้จัดทำแนวปฏิบัติเพื่อลดภาระของผู้รับผิดชอบดูแลโรงเห็ด โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรมจัดการโรงเห็ด เพื่อลดแรงงานโดยนวัตกรรมนี้ สามารถควบคุมการปิด เปิด ไฟส่องสว่าง ควบคุมอุณหภูมิโรงเรือน เพื่อคงสภาพอากาศ อุณหภูมิ ความชื้นที่เหมาะสม ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเห็ดนางฟ้า มีคุณภาพ ได้น้ำหนัก

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

Poster 

โครงงานเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดร้อยเอ็ด

ผู้จัดทำ

1. นางสาวอรทัย รุ่งเรืองฤทธิ์
2. นายสุรเชษฐ์ เสียวสวาท
3. นางสาวชนัญชิตา มาตนอก

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวปริศนา ทีระฆัง
อาจารย์ที่ปรึกษา:   นางสาวภิญญามาศ ภาระจ่า
อาจารย์ที่ปรึกษา:  นายนัฐพล ตุงคุณะ

บทนำ

เป็นโครงงานที่ต่อยอดมาจากเครื่องเตือนน้ำล้น โดยสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้มีชื่อว่า คุณครู หนูช่วยเอง (ระบบน้ำสุดล้ำ) รัรักสนะโครงงานมีระบบการแจ้งเตือนสี่ระดับและมีการแจ้งเตือนหลายรูปแบบนอกจากนี้ยังมีการตั้งเวลาเปิดปิดน้ำอัตโนมัติเพื่อใช้ในการรดน้ำต้นไม้

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

Poster 

โครงงานคุณครู หนูช่วยเอง (ระบบน้ำสุดล้ำ)

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี

ผู้จัดทำ

1. นางสาวธนิษฐา คะบุตร
2. นายวีระพัฒน์ คล้ายสุบรรณ
3. นางสาวลักคณา ไทรสังขละสุขุม

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นายธนชัย นพวัฒน์
อาจารย์ที่ปรึกษา:   นางสาวมลฤดี สีโน
อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสริณญา สัมฤทธิ์

บทนำ

เป็นโครงงานที่ต่อยอดมาจากเครื่องเตือนน้ำล้น โดยสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้มีชื่อว่า คุณครู หนูช่วยเอง (ระบบน้ำสุดล้ำ) รัรักสนะโครงงานมีระบบการแจ้งเตือนสี่ระดับและมีการแจ้งเตือนหลายรูปแบบนอกจากนี้ยังมีการตั้งเวลาเปิดปิดน้ำอัตโนมัติเพื่อใช้ในการรดน้ำต้นไม้

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

Poster 

โครงงานระบบแจ้งเตือนและระงับเหตุอัคคีภัยสำหรับคนหูหนวก

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดอุดรธานี

ผู้จัดทำ

1. นายปิยวัช ไวสีแสง
2. นายรัชชานนท์ ในโนน
3. นายธีรภัทร ถินแดง
4. นางสาวสุภาวดี เพลียอิน

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวกรรณิกา แดงนา
อาจารย์ที่ปรึกษา:   นายวิรุธ สุวรรณทอง
อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวกัลยรัตน์ ใจสุข

บทนำ

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดอุดรธานีเป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนอยู่ประจำ และจัดการเรียนการสอนสำหรับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ที่ผ่านมาได้พบปัญหาเกี่ยวกับเหตุไฟฟ้าลัดวงจรจากการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า การเล่นไฟโดยไม่ระมัดระวัง และความประมาทในการจุดไฟเผาสิ่งต่างๆ ทั้งในโรงเรียนและบริเวณชุมชนใกล้เคียงโรงเรียน ผู้จัดทำจึงได้คิดที่จะจัดทำโครงงานที่ช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากในการแจ้งเตือนเหตุอัคคีภัยโดยส่วนใหญ่จะมีการแจ้งเตือนสำหรับคนที่มีการได้ยินปกติ แต่ในกลุ่มของคนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินยังไม่มีการแจ้งเตือนเหตุอัคคีภัยที่เหมาะสม ผู้จัดทำจึงได้พัฒนาระบบแจ้งเตือนและระงับเหตุอัคคีภัยที่คำนึงถึงบุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ซึ่งใช้ประสาทสัมผัสการมองเห็นเป็นหลัก โดยใช้การแจ้งเตือนเป็นสัญญาณไฟบริเวณอาคาร ป้าย LED แสดงข้อความ เสียงแจ้งเตือน และแอพพลิเคชั่น Line โดยจะติดตั้งไว้ตามบริเวณอาคารต่างๆ เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ไฟฟ้าลัดวงจร หรือแก๊สรั่ว จะสามารถแจ้งเตือนได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงมีระบบการดับไฟอัตโนมัติด้วยน้ำเมื่อเกิดเหตุอัคคีภัย
ดังนั้นผู้จัดทำจึงได้ศึกษาข้อมูลและพัฒนาโครงงาน “ระบบแจ้งเตือนและระงับเหตุอัคคีภัยสำหรับคนหูหนวก” ที่คำนึงถึงบุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เพื่อให้สามารถรู้ทันเหตุอัคคีภัยที่เกิด เป็นการลดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน สำหรับอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการสร้างโครงงาน ได้แก่ เซนเซอร์วัดอุณหภูมิในบอร์ด KidBright เซนเซอร์ตรวจจับเปลวไฟ เซนเซอร์ตรวจจับแก๊สและควัน โดยโครงงานจะมีระบบแจ้งเตือนและระงับเหตุอัคคีภัย 4 ช่องทาง ได้แก่ สัญญาณไฟแจ้งเตือน หน้าจอ LED เสียงแจ้งเตือน และแอพลิเคชัน Line ซึ่งถือเป็นช่องทางแจ้งเตือนที่มีความเหมาะสมสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน นอกจากนี้ยังมีการระงับเหตุโดยมีระบบดับเพลิงด้วยน้ำอัตโนมัติอีกด้วย สำหรับโครงงานนี้มีกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้ คือ บุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ทั้งในระดับหูตึงและหูหนวก รวมไปถึงบุคคลทั่วไปอีกด้วย

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

Poster 

โครงงานระบบเตือนภัยระดับน้ำเจ้าพระยา

โรงเรียนศึกษาพิเศษชัยนาท

ผู้จัดทำ

1. นายสิทธิเดช สัตย์ซื่อ
2. เด็กหญิงแพรวา สุรัตนศิลป์
3. นายกิ่งทอง ประยูรมหิศร
4. นายเพชรมงคล โม้ชาวนา

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวสุจิตรตรา เผื่อนทิม
อาจารย์ที่ปรึกษา:   นายณัฐวุฒิ โพธิ์เงิน
อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวเจนจิรา สายจีน

บทนำ

ปีพุทธศักราช 2554 ประเทศไทยประสบปัญหาอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปลายปี และมีพื้นที่ประสบภัยกระจายตัวในทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางที่เกิดน้ำท่วมหนักเป็นระยะเวลานาน ยิ่งไปกว่านั้นพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นพื้นที่หนึ่งซึ่งเกิดน้ำท่วมหนักในรอบ 70 ปี จังหวัดชัยนาทเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนบน พื้นที่ภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และแม่น้ำท่าจีนไหลผ่านพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วทุกอำเภอ มีเขื่อนเจ้าพระยาซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำกั้นลำน้ำเจ้าพระยา ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอสรรพยา เมื่อถึงฤดูฝนของแต่ละปี หากมีฝนตกมากอาจทำให้น้ำเหนือไหลบ่า ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่ง หรือน้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มแอ่งกระทะ ซึ่งอาจสรุปได้ว่าการเกิดอุทกภัยของจังหวัดชัยนาท มีสาเหตุหลัก 2 สาเหตุ ดังนี้ อุทกภัยที่เกิดจากฝนตกในพื้นที่ โดยเมื่อเกิดฝนตกหนักจะทำให้น้ำไหลหลากเข้าพื้นที่ และเกิดน้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก พื้นที่เสี่ยงน้ำป่าไหลหลาก อุทกภัยที่เกิดจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ ซึ่งจะเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ที่แม่น้ำสายหลักไหลผ่าน หากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณมากตั้งแต่ 2,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ขึ้นไป จะส่งผลให้ น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ และต้องคอยเฝ้าระวังในทุก ๆ ปี ที่มีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติ
โรงเรียนศึกษาพิเศษชัยนาท เป็นโรงเรียนเฉพาะความพิการในพื้นที่ภาคกลางที่จัดการศึกษาให้กับนักเรียนที่มีความบกพร่องทางด้านร่างกายหรือการเคลื่อนไหวหรือสุขภาพ เป็นลักษณะโรงเรียนอยู่ประจำและไปกลับ จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งที่ตั้งของโรงเรียน ตั้งอยู่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา และเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ได้รับความเสียหายจากการเกิดน้ำท่วมแบบฉับพลัน จากปัญหาอุทกภัย ในครั้งนั้น และทุกๆปีที่มีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติ มักจะเกิดปัญหาน้ำท่วม ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงเรียน ไม่สามารถแจ้งเตือนให้แก่ครู นักเรียน และบุคลากรให้ระมัดระวัง เพราะเนื่องจากนักเรียนมีข้อจำกัดทาง ด้านกายภาพ ทำให้การเคลื่อนย้ายตัวเองลำบาก และต้องใช้เวลามากกว่าปกติ จึงทำให้ไม่ทันเวลา เมื่อเกิดน้ำท่วมแบบฉับพลัน และยังขาดเครื่องมือในการแจ้งเตือนอุทกภัย ดังนั้นคณะผู้จัดทำ ครูที่ปรึกษาโครงงาน จึงเกิดแนวคิดที่จะพัฒนา “ระบบเตือนภัยระดับน้ำเจ้าพระยา (Flood warning system levels in the Chao Phraya river project)” ขึ้น เพื่อสร้างเครื่องมือที่จะช่วยแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมได้ โดยจะมีการแจ้งเตือนผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่ 1) การแจ้งเตือนผ่านทางป้ายไฟ เสียงแจ้งเตือน และข้อความวันที่/เดือน/ปี 2) การแจ้งเตือนผ่านทางป้ายไฟขึ้น เสียงแจ้งเตือน และข้อความวันที่/เดือน/ปี ไฟ LED USB ติด 3) การแจ้งเตือนไฟ LED USB ติด เสียงแจ้งเตือน มีข้อความแจ้งเตือนผ่านระบบ Line (Line Notify) พร้อมขึ้นสติ๊กเกอร์เตือนภัยซึ่งจะสามารถช่วยให้ ครู นักเรียน และบุคลากรได้รับทราบเมื่อเกิดน้ำท่วมในบริเวณโรงเรียน เพื่อจะได้เตรียมพร้อมรับมือกับการเกิดน้ำท่วมได้

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

Poster 

โครงงานระบบควบคุมทรัพยากรน้ำอัจฉริยะ

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดเพชรบูรณ์

ผู้จัดทำ

1. เด็กหญิงวิลาสินี แซ่หล่อ
2. นายเกริกเกียรติ ชาภูวงค์
3. นายนพวินท์ บัวทุม

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นายศีลวัต โคตรพรม
อาจารย์ที่ปรึกษา:   นางสาววิลาวรรณ มูลทิ
อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวจันทร์จิรา พุทธเจริญ

บทนำ

เนื่องด้วยโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดเพชรบูรณ์ มีพื้นที่ทั้งหมด 200 กว่าไร่ ทำให้มีการกระจายของอาคารต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง โรงเรียนมีนักเรียน จำนวน 213 คน พักอาศัยที่เรือนนอนนักเรียน นอกจากนี้ครู และบุคลากรบางส่วนพักอาศัยในแฟลต บ้านพักภายในโรงเรียน ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องของน้ำมาเป็นระยะเวลานาน ทั้งน้ำที่กักเก็บในสระของโรงเรียนไม่เพียงพอต่อการนำไปใช้งาน ส่งผลต่อการใช้งานน้ำของนักเรียนในเรือนนอน นักเรียนจึงเห็นถึงความสำคัญของการใช้น้ำอย่างประหยัด จึงได้จัดทำระบบเตือนปริมาณน้ำในแทงค์ เพื่อให้ทราบถึงระดับน้ำที่มีอยู่ในแทงค์ นอกจากนี้ผู้อำนวยการโรงเรียนได้พัฒนาโครงการอารยเกษตรสืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง และนักเรียนก็เห็นว่าน้ำมีกลิ่นเหม็น เนื่องจากไม่มีระบบการไหลเวียนของน้ำ ทำให้ออกซิเจนในน้ำมีน้อย นักเรียนจึงคิดทำระบบบำบัดน้ำด้วยกังหันน้ำ เพื่อช่วยลดปัญหาดังกล่าว และอีกปัญหาที่นักเรียนต้องพบตามมา คือ บริเวณการเพาะปลูกพืช ผัก ต้นไม้ มีพื้นที่จำนวนมากและกว้างขวาง ซึ่งระบบการรดน้ำยังใช้แบบมือ ทำให้เหนื่อยมากในการรถน้ำแต่ละครั้งและใช้เวลาอย่างมาก นักเรียนจึงคิดหาวิธีในการช่วยลดการใช้กำลัง และประหยัดเวลาในการรถน้ำ โดยจักทำระบบรถน้ำอัตโนมัติ
จากปัญหาที่ได้กล่าวมาข้างต้น ทำให้ได้โครงงานระบบควบคุมทรัพยากรน้ำอัจฉริยะนี้ขึ้น เพื่อใช้ในการควบคุมทรัพยากรน้ำภายในโรงเรียน ทั้งในเรื่องของการขาดแคลนน้ำใช้ ปัญหาน้ำเสีย ให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

Poster 

โครงงานน้องซูซี่ ยินดีต้อนรับ

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดกาญจนบุรี

ผู้จัดทำ

1. นายพงศธร เพชรมณีแสงเงิน
2. นายสุรัตน์ ถาบุญเรือง
3. นายณภัทร ศรีจันทร์

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวมลฤดี สีโน
อาจารย์ที่ปรึกษา:   นายธนชัย นพวัฒน์
อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสริณญา สัมฤทธิ์

บทนำ

ในสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดเชื้อ Covid-19 ในหลายพื้นที่ของประเทศไทยจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของการป้องกันภาวะเสี่ยงต่อการติดต่อเชื้อและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น โดยมีการคิดค้นเครื่องพ่นแอลกอฮอล์อัตโนมัติเพื่อลดการสัมผัสต่อวัตถุ ซึ่งถือว่าเป็นนวัตกรรมที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่นิยมใช้กันนอกการใช้งานได้สะดวกแล้วยังลดการหลีกเสี่ยงจากเชื้อ Covid -19 ได้ดีกว่าแบบใช้มือกดปกติอีกด้วยในปัจจุบันมีการแพร่ระบาดเชื้อ Covid-19 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังไม่มียาที่สามารถรักษาโรค Covid-19 นี้ได้และยังไม่มีแนวโน้มที่โรคนี้จะหายไปผู้วิจัยจึงได้คิดค้นนวัตกรรม เรื่อง น้องซูซี่ยินดีต้อนรับ โดยนำระบบสมองฝังตัวด้วยบอร์ด Kidbright หลักการทำงานของเครื่องสามารถพ่นแอลกอฮอล์ มีการแจ้งข้อความ” Socail Distancing, Wear AMask , วัน, เวลา และนับจำนวนคนที่เข้ามาในร้านค้าสหกรณ์โรงเรียนเพื่อทราบสถิติของผู้ใช้บริการในแต่ละวัน

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

Poster 

sโครงงานสัญญาณเตือนภัยคลื่นพายุ IoT

โรงเรียนเฉลียวภาวนานุสรณ์ (ศึกษาพิเศษชลบุรี)

ผู้จัดทำ

1. เด็กชายพงษ์สุภา สายแย้ม
2. เด็กหญิงนภัสรา ป้องคุ้ม
3. เด็กชายปกรณ์ ปลื้มเกสร
4. เด็กชายวีรวัฒน์ พลเสน

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางศิรญา เหลืองอ่อน
อาจารย์ที่ปรึกษา:   นางสาวพรหมพร บุ่งกลาง
อาจารย์ที่ปรึกษา:  นายปริญญา เรืองมนตรี

บทนำ

โรงเรียนเฉลียวภาวนานุสรณ์ (ศึกษาพิเศษชลบุรี) ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่มีภูเขาล้อมรอบและอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลตะวันออกของอ่าวไทย ทำให้ฝนตกชุกเสี่ยงต่อการเกิดคลื่นพายุซัดฝั่งและน้ำป่าไหลหลาก การเกิดอุทกภัยฉับพลันเนื่องจากพายุฝนถล่มนั้นพบว่าเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงเวลาที่ผ่านมาในอดีต ส่วนใหญ่มีสาเหตุเนื่องมาจากพายุ ฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่อง และมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในภาคตะวันออก คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยกำลังแรงขึ้นโดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตรและมีความถี่มากขึ้นทุกๆปี ทำให้น้ำทะเลหนุน คลื่นลมแรงซัดชายทะเล นักท่องเที่ยวหนีขึ้นจากทะเลไม่ทันโดนคลื่นซัดจมหายไป บ้านเรือนพังเสียหาย ชาวประมง ต้องหยุดทำการประมงและนำเรือกลับเข้าฝั่งอย่างต่อเนื่อง นอกการจากแจ้งเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาแล้ว เพื่อเป็นการแจ้งเตือนเบื้องต้นจึงต้องมีระบบสัญญาณเตือนภัยคลื่นพายุ ติดตั้งไว้ริมชายฝั่งทะเล ในบ้านเรือนเพื่อให้สามารถรับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ เตรียมพร้อมรับมือและป้องกันความเสียหายเบื้องต้นที่จะเกิดขึ้น
ในการนี้ผู้จัดทำได้พัฒนาระบบสัญญาณเตือนภัยคลื่นพายุ ที่คำนึงถึงสภาพแวดล้อมและแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน โดยพัฒนาจากระบบสัญญาณเตือนภัยน้ำป่าไหลหลากในโรงเรียน สู่สัญญาณเตือนภัยสู่ชุมชน โดยมีการแจ้งเตือนเมื่อมีฝนตก ไฟแจ้งเตือนจะติด และเมื่อมีขนาดของคลื่นสูงตามเงื่อนไขที่กำหนด จะมีการแจ้งเตือนด้วยแสงไฟกระพริบ (สีเขียว สีเหลือง สีแดง) สัญญาเสียงแจ้งเตือน และแจ้งเตือนผ่าน Application line ทางโทรศัพท์

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

Poster 

โครงงานวอคเกอร์ฝึกเดิน

โรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่

ผู้จัดทำ

1. นายธวัชชัย แสนใน
2. เด็กชายวรพจน์ ชื่นแสน
3. เด็กหญิงยุพารัตน์ ธุระมาล

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวศิริวรรณ ประหารภาพ
อาจารย์ที่ปรึกษา:   นายทัศวรรษ อุดไชย
อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวกัญพิชชาพร ดวงดี

บทนำ

โรงเรียนศรีสังวาลย์เชียงใหม่ เป็นโรงเรียนเฉพาะความพิการประเภทบกพร่องทางร่างกาย หรือการเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ โดยจัดการเรียนการสอนแบบสหศึกษา ซึ่งคำนึงถึงการพัฒนานักเรียนพิการให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างอิสระ พึ่งพาตนเองได้ตามศักยภาพที่เหลืออยู่ในแต่ละบุคคล ด้วยการจัดการเรียนการสอน มุ่งเน้นการส่งเสริมทักษะการดำรงชีวิต แต่ด้วยสภาพความเป็นจริงที่เป็นอยู่ควบคู่กับการฟื้นฟูสมรรถภาพความพิการอย่างต่อเนื่อง ด้วยสภาพของผู้เรียนส่วนใหญ่มีข้อจำกัดด้านร่างกาย ด้านการเคลื่อนไหว ด้านสุขภาพ ซึ่งต้อง ใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยคนพิการอย่างหลากหลายประเภท เช่น วีลแชร์ (Wheelchair) วอคเกอร์ (Walker) ในรูปแบบ และลักษณะพิเศษต่าง ๆ ตามระดับและประเภทความพิการของนักเรียนแต่ละบุคคล รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะต้องจัดให้มีความเหมาะสม ให้นักเรียนที่มีข้อจำกัดดังกล่าวสามารถเข้าถึงได้ สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่เป็นภาระของผู้อื่น
เทคโนโลยี สื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกมีความจำเป็นอย่างยิ่งกับผู้พิการทุกประเภท โดยเฉพาะผู้พิการทางร่างกาย หรือการเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ เพราะเทคโนโลยี สื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกจะทำให้ผู้พิการสามารถช่วยเหลือตนเอง เข้าถึงสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง หรือช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้ แต่ในปัจจุบันการพัฒนา เทคโนโลยี สื่อ สิ่งอำนวยความสะดวกยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้พิการ และมีราคาสูง ทำให้คณะผู้จัดทำ ซึ่งเป็นนักเรียนที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หรือการเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ เห็นความสำคัญของปัญหานี้ ผู้จัดทำจึงมีความต้องการประดิษฐ์อุปกรณ์ที่สามารถช่วยให้เข้าถึงการดำรงชีวิตที่ช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว คือ วอคเกอร์ฝึกเดิน สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หรือการเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ โดยใช้เซนเซอร์ในการตรวจจับการก้าวเดิน ใช้สวิตช์ในการทำงาน-หยุดทำงาน เพื่อให้การปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน มีความสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ คณะผู้จัดทำจึงต้องการประดิษฐ์ วอคเกอร์ฝึกเดิน สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หรือการเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ เพื่อเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย หรือการเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ ให้สามารถใช้ชีวิตได้สะดวกสบาย มีความปลอดภัย และมีความสุข

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โครงงานเครื่องแจ้งเตือนการเคาะประตูและขอความช่วยเหลือสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน IOT

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดมุกดาหาร

ผู้จัดทำ

1. นายระพีพัฒน์ ไกรษร
2. นายหัสบดี วงษ์พาน
3. นางสาวอภิชญา ศรีทอง

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นายณัฐวุฒิ นัยจิต
อาจารย์ที่ปรึกษา:   นางสาวเดือนมณี วิสาน
อาจารย์ที่ปรึกษา:  นายธนิก ประชานันท์

บทนำ

ผู้บกพร่องทางการได้ยิน คือบุคคลที่สูญเสียการได้ยิน การรับฟังเสียงต่างๆผิดปกติ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทคือ คนหูหนวก หมายถึง บุคคลที่สูญเสียการได้ยินมากจนไม่สามารถเข้าใจการพูดผ่านทางการได้ยิน โดยจะมีการสูญเสียการได้ยิน 90 เดซิเบลขึ้นไป ส่วนอีกประเภทคือ คนหูตึง หมายถึง บุคคลประเภทที่มีการได้ยินเหลืออยู่เพียงพอที่จะได้ยินการพูด ผ่านทางการได้ยินโดยมีการสูญเสียการได้ยินน้อยกว่า 90 เดซิเบลลงมาถึง 26 เดซิเบล ซึ่งจะถือว่าเป็นบุคคลที่สูญเสียการได้ยินโดยความบกพร่องทางการได้ยินสามารถเกิดได้กับหูข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้างและเป็นสาเหตุของความยากลำบากในการได้ยินเสียงพูดหรือแม้กระทั่งเสียงที่ดัง ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บกพร่องทางการได้ยินโดยเฉพาะกิจกรรมที่ใช้เสียงเป็นองค์ประกอบ เช่นเสียงการบีบแตร การเคาะประตู เป็นต้น โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดมุกดาหารจึงได้ทำการประดิษฐ์เครื่องแจ้งเตือนการเคาะประตูและขอความช่วยเหลือสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน IOT ที่คำนึงถึงบุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ซึ่งใช้ประสาทสัมผัสทางการมองเห็นเป็นหลัก โดยแจ้งเตือนเป็นสัญญาณไฟภายในและภายนอกห้อง เสียงเตือน สั่นสะเทือน และเตือนผ่านแอพพลิเคชั่น Line ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อให้สามารถรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นภายในห้องก็สามารถขอความช่วยเหลือผู้ที่อยู่ใกล้เคียงได้ โดยแสดงผลเป็นสัญญาณไฟภายนอกห้อง
ดังนั้นโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดมุกดาหารจึงมีแนวคิดในการประดิษฐ์เครื่องแจ้งเตือนและขอความช่วยเหลือที่ควบคุมการทำงานโดยบอร์ด Kidbright และควบคุมการทำงานผ่าน IOT เพื่อให้มีความเหมาะสมสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน บุคคลทั่วไป ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO