โครงงานห้องเรียนระบบ IOT
ที่มาและความสำคัญ
เนื่องจากปัจจุบันมีการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลือง อาทิเช่น การใช้ไฟฟ้าและการใช้น้ำอย่างเปล่าประโยชน์ ซึ่งถ้าหากทุกคนไม่ช่วยกันประหยัดพลังงานอาจทำให้พลังงานเหล่านั้นหมดไปและยังส่งผลให้สิ้นเปลืองงบประมาณ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๓ เป็นส่วนหนึ่งที่มีการใช้ไฟฟ้าอย่างสิ้นเปลืองเนื่องจากเป็นโรงเรียนประจำ คณะผู้จัดทำจึงคิดที่จะทำโครงงานนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยลดการสูญเสียพลังงาน และค่าใช้จ่าย พร้อมทั้ง งบประมาณที่เหลือมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับโรงเรยีนและเด็กนักเรียนในด้านอื่น ๆ ต่อไป
หลักการทำงาน
ระบบการทำงานของ “โครงงานห้องเรียนระบบ IOT” นี้ จะแบ่งการทำงานออกเป็น ๓ เงื่อนไข คือ
- เงื่อนไขของเวลา โดยกำหนดให้ทำงานเฉพาะช่วงเวลาจำนวน ๒ ช่วง คือ ๐๗.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. และ ๑๓.๐๐ – ๑๗.๐๐ น. หากนอกเหนือจากเวลาดังกล่าวไฟฟ้าภายในห้องเรียนจะถูกตัด
- เงื่อนไขของความเข้มแสง โดยกำหนดว่าหาก Sensor วัดความเข้มแสงวัดค่าได้ต่ำกว่าที่กำหนดให้หลอดไฟติด
- เงื่อนไขของอุณหภูมิ โดยกำหนดว่า หาก Sensor อุณหภูมิวัดค่าได้สูงกว่าที่กำหนดให้เปิดพัดลมเพื่อระบายอากาศโดยที่กล้อง Webcam จะส่งข้อมูลรูปถ่ายแจ้งให้ผู้ดูแลทราบจำนวน ๔ ครั้ง/วัน คือ
- ครั้งที่ ๑ เวลา ๐๗.๐๐ น. เมื่อมีผู้ใช้งานห้องในตอนเช้า สำหรับตรวจเช็คว่าระบบเปิดไฟ และพัดลมทำงาน
- ครั้งที่ ๒ เวลา ๑๒.๐๐ น. หลังผู้ใช้งานออกจากห้องในตอนพักกลางวัน สำหรับตรวจเช็คว่าระบบปิดไฟ และพัดลมทำงาน
- ครั้งที่ ๓ เวลา ๑๓.๐๐ น. เมื่อมีผู้ใช้งานห้องในตอนบ่าย สำหรับตรวจเช็คว่าระบบเปิดไฟ และพัดลมทำงาน
- ครั้งที่ ๔ เวลา ๑๗.๐๐ น. หลังผู้ใช้งานออกจากห้องในตอนเย็น สำหรับตรวจเช็คว่าระบบปิดไฟ และพัดลมทำงาน
ผลของการทดสอบ
ระบบเปิด – ปิด ไฟและพัดลม สามารถทำงานได้ตรงตามเงื่อนไขที่วางไว้ แต่ระบบการส่งภาพถ่ายให้แก่ผู้ดูแลนั้นขึ้นอยู่กับความเสถียรของสัญญาณ Internet ภายในโรงเรียน หากเกิดสัญาณขาดหายภาพก็จะไม่ถูกส่งให้แก่ผู้ดูแล
คณะผู้จัดทำโครงงาน
๑.นายอัทธนีย์ อรุณศิงขรนิ
๒.นายบุญส่ง ทรงประทีปกุล
๓.นางสาววนิชยา อินทร์เพ็ง
อาจารย์ที่ปรึกษา
นางสาวสุธาสินี อินสุ
สถานที่ศึกษา
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๒๓ จังหวัดพิษณุโลก