โครงงานฟาร์มไก่อัจฉริยะ

โครงงานระบบไฟฟ้าอัตโนมัติสำหรับทางเดินคัฟเวอร์เวย์

ที่มาและความสำคัญ

เนื่องจากในปัจจุบันมีการใช้พลังงานเป็นจำนวนมาก ผลจากการสำรวจใช้พลังงานของแต่ละปี มีการใช้พลังงานมากขึ้น ซึ่งการใช้พลังงานมาขึ้นนี้จะไปส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมเป็นผลทำให้เกิดวิกฤติการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อโลกของเราในขณะนี้ ซึ่งวิกฤติการณ์ดังกล่าวเรียกว่า สภาวะโลกร้อนซึ่งทุกคนก็คงได้เห็นโทษของวิกฤติการณ์ ดังเห็นได้จากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของโลกเราในปัจจุบัน เช่น อุณหภูมิสูงขึ้น น้ำแข้งขั้วโลกละลาย น้ำท่วม สิ่งมีชีวิตบางชนิดสูญพันธุ์ เป็นต้น ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้เราสามารถช่วยกันแก้ไขปัญหาได้ถ้าทุกคนร่วมมือกันโดยการที่ทุกคนช่วยกันแก้ปัญหาที่ต้นเหตุซึ่งสิ่งหนึ่งที่ทุกคนสามารถที่จะช่วยกันได้คือการที่เราช่วยกันลดพลังงานให้น้อยลง

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ได้ศึกษาแนวทางในการลดใช้พลังงานไฟฟ้าในรูปแบบต่าง ๆ โดยการศึกษาด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และนำมาออกแบบสร้างระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ เพื่อใช้สำหรับทางเดินคัฟเวอร์เวย์ (Cover way Auto light ) ภายในโรงเรียน อีกทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลายสถานที่ สร้างความสะดวกสบายและเป็นการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อีกหนึ่งทางเลือก

ประโยชน์ของเทคโนโลยีที่ได้นำมาประยุกต์ใช้ คณะผู้จัดทำได้นำเอาเรื่องการทำงานเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว มาสร้างโปรแกรมควบคุมโดยบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก Arduino Uno หลักการทำงานของระบบ จะทำงานเมื่อมีคนเดินผ่านจุดเซ็นเซอร์ไฟก็จะติดโดยอัตโนมัติและเมื่อไม่มีคนอยู่หรือไม่มีการเคลื่อนไหวไฟก็จะดับ

วัตถุประสงค์

๑.๒.๑ เพื่อศึกษาระบบการทำงานของบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก Arduino Uno และเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว

๑.๒.๒ เพื่อออกแบบระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ สำหรับทางเดินคัฟเวอร์เวย์ ที่ควบคุมด้วย Arduino Uno

๑.๒.๓ สามารถนำเทคโนโลยีของอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ควบคุมระบบแสงสว่าง

วัสดุอุปกรณ์

๑. Arduino Uno

๒. เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว PIR

๓. Module Relay (โมดูลรีเลย์)

๔. Protoboard หรือ Breadboard

๕. สายจั๊มเปอร์

๖. หลอดไฟ พร้อมขั้วสายต่อพ่วง

Flow chart  แสดงการทำงานของระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ สำหรับทางเดินคัฟเวอร์เวย์ 

หลักการทำงาน

          เมื่อทำการ Compile code และRun Code ทำให้ Arduino Uno  ประมวลผลและสั่งการ โดยรับค่าการเคลื่อนไหวด้วย PIR Sensor 1จะสังเกตเห็นว่าหลอดไฟหลอดที่ 1 สว่าง เมื่อมีการเคลื่อนไหวผ่าน PIR Sensor2 หลอดไฟหลอดที่ 1 จะดับลง และหลอดที่ 2 จะสว่าง เมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวผ่าน PIR Sensor จับการเคลื่อนไหวไม่ได้ หลอดไฟทั้งสองก็จะดับ

ภาพประกอบ หลักการทำงานของระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ สำหรับทางเดินคัฟเวอร์เวย์ ดังนี้

๑. เมื่อมีคนเดินผ่านในระยะที่จุดติดตั้ง PIR เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว
PIR จะทำการส่งคำสั่งการทำงานไปยัง บอร์ด Arduino Uno
และบอร์ด Arduino Uno จะส่งคำสั่งไปยัง รีเลย์ เพื่อให้ปล่อยกระแสไฟฟ้า

๒.หลอดไฟจะติดให้แสงสว่างในเวลา ๑๐ วินาที

CODE คำสั่งการทำงาน

void setup()

{

pinMode(2, INPUT);

pinMode(3, OUTPUT);

}

void loop()

{

if (digitalRead(2) == HIGH)

{

digitalWrite(3, LOW);

delay(10000);

digitalWrite(3, HIGH);

}

}

ผลของการดำเนินงาน

โครงงานระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ สำหรับทางเดินคัฟเวอร์เวย์ (Cover way Auto light) เป็นโครงงานเกี่ยวกับการประหยัดพลังงานไฟฟ้า ซึ่งสรุปผลของโครงงานได้ดังนี้

โครงงานนี้ใช้การควบคุมระบบไฟฟ้าอัตโนมัติโดยใช้ Arduino Uno ในการทำงานร่วมกับPIR เซนเซอร์ ระบบจะทำงานเมื่อมีการเคลื่อนไหวผ่าน PIR เซนเซอร์ และ Arduino Uno ประมวลผลทำการควบคุมให้หลอดไฟสว่าง (ระบบจำลองประมาณ ๑๐ วินาที) แต่เมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวหลอดไฟก็จะดับเองอัตโนมัติ

ภาพประกอบการทำงาน

1.  ติดตั้งระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ สำหรับทางเดินคัฟเวอร์เวย์

2.  การทดสอบระบบไฟฟ้าอัตโนมัติ สำหรับทางเดินคัฟเวอร์เวย์

วีดีโอผลงาน

คิตตามได้ผ่าน youtube คลิก ลิ้งค์ด้านล่างได้เลย
https://youtu.be/P4Heps7Cnxc 

คณะผู้จัดทำโครงงาน

๑. นายดิศานุวัฒนื  สังฆจันทรื
๒. นายอนุกูล  อิ่มประสงค์
๓. นายสุพิสิฐ์  จำปาบุรี
นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖

อาจารย์ที่ปรึกษา

นางสาวกิ่งกาญจน์  แสงกุล                                 สอนวิชา คอมพิวเตอร์

โทรศัพท์  ๐๙-๘๖๒๕-๒๕๓๕                              E-mail : taatoospicy@gmail.com

โรงเรียนiราชประชานุเคราะห์  ๕๒ จังหวัดเลย

ที่อยู่ของโรงเรียน              เลขที่ ๓๑๙ หมู่ ๑๑ ต.ศรีสงคราม อ.วังสะพุง จ.เลย ๔๒๑๓๐

โครงงานบ้านอัจฉริยะด้วยระบบ IOT

ที่มาและความสำคัญ

ในปัจจุบันอินเตอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น นอกเหนือจากการใช้ประโยชน์ในการติดต่อสื่อสารแล้ว ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่สามารถใช้งานผ่านอินเตอร์เน็ตได้การนำเทคโนโลยีเหล่านี้เข้ามาประยุกต์ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกสบายต่างๆนี้  คณะผู้จัดทำจึงได้มีแนวคิดที่จะพัฒนาระบบควบคุมการเปิด-ปิดหลอดไฟภายในบ้านผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งก็เป็นอีกเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวก โดยการควบคุมหลอดไฟภายในบ้านพักจากระยะไกล จะสามารถทำให้ประหยัดเวลา ประหยัดพลังงานไฟฟ้า เนื่องจากในปัจจุบันผู้คนใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ จนบางครั้งเปิดไฟฟ้าทิ้งไว้และอาจมีเหตุจำเป็นไม่มีเวลาที่จะปิดหรือลืมปิด หากมีอุปกรณ์ที่สามารถควบคุมการเปิด–ปิด และตรวจสอบสถานะการทำงานจากระยะไกลได้จะเป็นการประหยัดทั้งเวลา ประหยัดพลังงาน อีกทั้งยังอำนวยความสะดวก และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอีกด้วย

วัตถุประสงค์

เพื่อสร้างแบบจำลองการทำงานของบ้านอัจฉริยะด้วยระบบ IOT

วัสดุอุปกรณ์

1.1 อุปกรณ์ควบคุมแผงวงจร

– Node MCU

1.2 อุปกรณ์นำเข้าข้อมูล (Input) และอุปกรณ์นำข้อมูลออก (Output)

– Relay 4 channel

1.3 อุปกรณ์จัดทำแบบจำลองบ้านอัจฉริยะด้วยระบบ IOT

– ไม้อัด

– กาวร้อน

– สีน้ำมัน

– เคมีโป๊ว

– คัตเตอร์

– เลื่อย

– กระดาษทราย

– สายไฟ

– หลอด LED

หลักการทำงาน

1. เริ่มต้นการทำงานจะรับคำสั่งจากหน้าจอ Application บน Smart phone (Input) จากนั้นส่งข้อมูลไปที่ Node MCU ด้วยอินเตอร์เน็ต ผ่าน Net pie เพื่อตรวจสอบเงื่อนไขระบบคำสั่ง แล้วสั่งงานไปควบคุมการทำงานของ Relay ให้เปิด-ปิดไฟภายในบ้านตามคำสั่งที่ได้รับ

2. รับค่าจาก Node MCU ให้ทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนด คือ เมื่อกดเปิด-ปิดบน Application  Node MCU จะตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานว่าเปิดหรือปิดไฟ ถ้าหากเปิดก็จะสั่งงานให้แสดงสถานะการทำงานของหลอดไฟสว่าง ถ้าหากปิดก็จะสั่งงานให้แสดงสถานะการทำงานของหลอดไฟดับ

CODE คำสั่งการทำงาน

#define LIGHT1 D7
#define LIGHT2 D5
#define LIGHT3 D3
#define LIGHT4 D6

int currentLEDState1 = 0; // ให้เริ่มต้นเป็น OFF หมายเหตุ ไฟ LED บนบอร์ดต่อแบบ active-low
int lastLEDState1 = 0;
int currentButtonState1 = 1; // หมายเหตุ ปุ่ม flash ต่อเข้ากับ GPIO0 แบบ pull-up
int lastButtonState1 = 0;

int currentLEDState2 = 0; // ให้เริ่มต้นเป็น OFF หมายเหตุ ไฟ LED บนบอร์ดต่อแบบ active-low
int lastLEDState2 = 0;
int currentButtonState2 = 1; // หมายเหตุ ปุ่ม flash ต่อเข้ากับ GPIO0 แบบ pull-up
int lastButtonState2 = 0;

int currentLEDState3 = 0; // ให้เริ่มต้นเป็น OFF หมายเหตุ ไฟ LED บนบอร์ดต่อแบบ active-low
int lastLEDState3 = 0;
int currentButtonState3 = 1; // หมายเหตุ ปุ่ม flash ต่อเข้ากับ GPIO0 แบบ pull-up
int lastButtonState3 = 0;

int currentLEDState4 = 0; // ให้เริ่มต้นเป็น OFF หมายเหตุ ไฟ LED บนบอร์ดต่อแบบ active-low
int lastLEDState4 = 0;
int currentButtonState4 = 1; // หมายเหตุ ปุ่ม flash ต่อเข้ากับ GPIO0 แบบ pull-up
int lastButtonState4 = 0;

WiFiClient client;
MicroGear microgear(client);

void updateLED1(int state) {
// ไฟ LED บน NodeMCU จะติดก็ต่อเมื่อส่งค่า LOW ไปให้ LEDPIN
if(state==1 && currentLEDState1 == 0){
currentLEDState1 = 1;
digitalWrite(LIGHT1, LOW); // LED ON
}
else if (state==0 && currentLEDState1 == 1) {
currentLEDState1 = 0;
digitalWrite(LIGHT1, HIGH); // LED OFF
}
}

void updateLED2(int state) {
// ไฟ LED บน NodeMCU จะติดก็ต่อเมื่อส่งค่า LOW ไปให้ LEDPIN
if(state==1 && currentLEDState2 == 0){
currentLEDState2 = 1;
digitalWrite(LIGHT2, LOW); // LED ON
}
else if (state==0 && currentLEDState2 == 1) {
currentLEDState2 = 0;
digitalWrite(LIGHT2, HIGH); // LED OFF
}
}

void updateLED3(int state) {
// ไฟ LED บน NodeMCU จะติดก็ต่อเมื่อส่งค่า LOW ไปให้ LEDPIN
if(state==1 && currentLEDState3 == 0){
currentLEDState3 = 1;
digitalWrite(LIGHT3, LOW); // LED ON
}
else if (state==0 && currentLEDState3 == 1) {
currentLEDState3 = 0;
digitalWrite(LIGHT3, HIGH); // LED OFF
}
}

void updateLED4(int state) {
// ไฟ LED บน NodeMCU จะติดก็ต่อเมื่อส่งค่า LOW ไปให้ LEDPIN
if(state==1 && currentLEDState4 == 0){
currentLEDState4 = 1;
digitalWrite(LIGHT4, LOW); // LED ON
}
else if (state==0 && currentLEDState4 == 1) {
currentLEDState4 = 0;
digitalWrite(LIGHT4, HIGH); // LED OFF
}
}

ผลของการทดสอบ

แบบจำลองใช้งานได้จริง

รูปการทำงาน

วีดีโอผลงาน

ติดตามได้ผ่าน youtube คลิก ลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับ

คณะผู้จัดทำโครงงาน

1. นายอนุวัฒน์  หนองประทุม
2. นางสาวนที  ศรีสุวรรณ
3. นางสาวอภิญญา  ตาลสาร

อาจารย์ที่ปรึกษา

นายคมกริช  บุตรอุดม

นางฐิติมา  ผ่องแผ้ว

นายภีศเดช  วิชัด                                 สอนวิชา  การงานอาชีพและเทคโนโลยีสารสนเทศ

โทรศัพท์                               E-mail

โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ธวัชบุรี

ที่อยู่ของโรงเรียน               ตำบลนิเวศน์  อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

โครงงาน Helmet Hero : หมวกกันน็อกช่วยชีวิต

ที่มาและความสำคัญ

ประเทศไทยมีอัตราการตายจากการบาดเจ็บทางถนนสูงเป็นที่ 2 ของโลกและอันดับ 1
ในอาเซียน สถิติอุบัติเหตุการจราจรทางบกของไทยที่เกิดกับรถจักรยานยนต์ปี พ.ศ. 2558
สูงเป็นอันดันหนึ่งคิดเป็นร้อยละ 20 ของยอดอุบัติเหตุทั้งหมด ในช่วงสงกรานต์ พ.ศ.2560
มีจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุถึง 3,290 คัน คิดเป็นร้อยละ 44 ของอุบัติเหตุทั้งหมด
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วการเข้าช่วยเหลือใช้เวลานานมากเกินไปท ำให้ผู้ประสบอุบัติเหตุอาจมีอาการสาหัสหรือเสียชีวิตได้ ทั้งนี้การแจ้งเหตุและการหาพิกัดต ำแหน่งที่เกิดอุบัติเหตุยังเป็นไปอย่างล่าช้า
ดังนั้นทางผู้จัดท ำจึงเกิดแนวคิด ที่จะออกแบบและสร้างหมวกกันน็อกช่วยชีวิตด้วย
Internet of Things ระบบจะท ำการแจ้งข้อความขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุพร้อมทั้งระบุพิกัดต ำแหน่งได้ซึ่งจะมีอุปกรณ์ท ำการส่งเสียงและส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปยังโทรศัพท์มือถือของญาติรวมถึงสามารถแจ้งพิกัดต ำแหน่งของผู้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจะท ำให้สามารถเข้าช่วยเหลือ ณ ต ำแหน่งที่เกิดอุบัติเหตุได้อย่างทันท่วงที

วัตถุประสงค์

1. เพื่อออกแบบและสร้างหมวกกันน็อกช่วยชีวิตด้วย Internet of Things ให้ทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนด

วัสดุอุปกรณ์

1.เซนเซอร์วัดความเอียง

2.Arduino

3.Speaker

4.หลอด LED

5.GPRS/GSM Module

6.บอร์ดทดลอง

7.GPS

8.Batterry

9. สายไฟจัมเปอร์

10.Switch On-off

11.หมวกกันน็อก

ผังโครงสร้าง

หลักการทำงาน

ถ้าดินแห้งเกินไประบบจะทำการรดน้ำโดยอัตโนมัติ แต่ในช่วงเวลา 6 โมงเช้า และ 6 โมงเย็น ระบบจะเพิ่มคำสั่งเป็นรดน้ำ 15 นาที โดยมั้ยสนใจดินชื้นดินแห้ง

CODE คำสั่งการทำงาน

#include <Sim800l.h>
#include <SoftwareSerial.h> //is necesary for the library!!
Sim800l Sim800l; //to declare the library
#include <TinyGPS.h>

TinyGPS gps;
SoftwareSerial ss(4, 3);

static void smartdelay(unsigned long ms);
static String Get_Location();

String text; // to storage the text of the sms
uint8_t index; // to indicate the message to read.

int sensor1 = 0;
int sensor2 = 0;
int count = 0;
int messagesend = 0;
void setup() {
// put your setup code here, to run once:
pinMode(7, INPUT);
//pinMode(1, INPUT);
Serial.begin(115200);
pinMode(9, OUTPUT);
Serial.println(“Start”);
ss.begin(9600); // Serial Connect GPS

//Sim800l.begin(); // initializate the library.
//index=1; // first position in the prefered memory storage.
//text=Sim800l.readSms(index);
//Serial.println(text);
/* String str = Sim800l.activateBearerProfile();
Serial.println(str);
delay(5000);
text = Sim800l.gsm_location();
Serial.println(text);
Sim800l.deactivateBearerProfile();
*/
/*text = Sim800l._gsm_location();
Serial.println(text);*/
}

void loop() {
text = “Alert !\r\n”;
// text+= locate;
// text+= Sim800l.engineering_info();
String locate;

smartdelay(1000);
locate = Get_Location();
Serial.println(“Location = “+locate);

sensor1 = digitalRead(7);
//sensor2 = digitalRead(1);
Serial.print(“Sensor1 : “);
Serial.print(sensor1);
//Serial.print(” “);
//Serial.print(“Sensor2 : “);
//Serial.print(sensor2);
Serial.print(“\n”);
// delay(1000);
if(sensor1==1)
{
count = count + 1;
} else
{
count = 0;
// led off here
// ….
}
Serial.print(“Conunt : “);
Serial.print(count);
Serial.print(“\n”);
if(count>=2)
{
// led on here
// …..

Serial.print(” Alert!!!”);
Serial.print(“\n”);
tone(9, 1000);
delay(1000);
noTone(9);
delay(1000);
if(locate !=”NULL”){
//text+= “\nMaps: https://www.google.com/maps/@” + locate + “,16z”;
text+= “\nMaps: https://maps.google.com/maps?q=loc:” + locate;
if ( count % 16 == 0 or count == 2){
char buf[text.length()];
Sim800l.begin();
text.toCharArray(buf,text.length());
Serial.println(“Send SMS”);
// Sim800l.sendSms(“0611065018”,buf);
Sim800l.sendSms(“0817492153″,buf);
Sim800l.reset();

delay(1000);
ss.begin(9600);
}
}
}

}

// Function GPS Find location
static String Get_Location()
{
float flat, flon;
unsigned long age, date, time, chars = 0;
unsigned short sentences = 0, failed = 0;
static const double LONDON_LAT = 51.508131, LONDON_LON = -0.128002;
String location;
int sate = 255;
sate = gps.satellites();
gps.f_get_position(&flat, &flon, &age);
if(sate < 255){
location = String(flat,6) +”,” + String(flon,6);
}else{
location = “NULL”;
}
return location;
}

static void smartdelay(unsigned long ms)
{
unsigned long start = millis();
do
{
while (ss.available())
gps.encode(ss.read());
} while (millis() – start < ms);
}

ผลของการทดสอบ

สามารถทำงานได้เงื่อนไขที่กำหนด

รูปการทำงาน

1.  หาข้อมูลและศึกษาการทำงานของอุปกรณ์

2.  ต่อวงจร พร้อมเขียนโปรแกรมควบคุม

3.   ต่อวงจรเรียบร้อย และทำการทดสอบ

คณะผู้จัดทำโครงงาน

1. นายณรงค์ศักดิ์ โวหารลึก
2. นางสาวพวงผกา ผิวทอง
3. นางสาวจันทกานต์ ไตรยวงค์

อาจารย์ที่ปรึกษา

1. 1. นายคมกริช บุตรอุดม             สอนวิชา คอมพิวเตอร์
   2. นางสาวฐิติมา ผ่องแผ้ว        สอนวิชา คอมพิวเตอร์
   3. นายภีศเดช วิชัด                      สอนวิชา คอมพิวเตอร์

โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ธวัชบุรี

ที่อยู่ของโรงเรียน             โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ธวัชบุรี ต.นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด

โครงงานนับจำนวนหนังสืออัตโนมัติ

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

เนื่องจากโรงเรียนของพวกเรา เป็นโรงเรียนประจำและมีจำนวนนักเรียนที่เข้าใช้ห้องสมุด เพื่อสืบค้นหาข้อมูลต่างๆ พวกเราปรึกษากับสมาชิกภายในกลุ่ม เพราะอยากรู้ว่าภายในแต่ล่ะวันนั้น จะมีจำนวนนักเรียนที่เข้ามาใช้ห้องสมุด ให้ความสนใจในการศึกษาสาระใดค่อนข้างมาก และสาระใดค่อนข้างน้อย พวกเราจึงคิดจัดทำโครงงานนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยในการจัดระบบการสั่งซื้อหนังสือ ให้ได้ตามความต้องการของจำนวนนักเรียน ที่ให้ความสนใจแก่กลุ่มสาระนั้นๆ

วัตถุประสงค์ของการทำโครงงาน

1. เพื่อศึกษาหาจำนวนหนังสือที่นักเรียนให้ความสนใจ
2. รวบรวมข้อมูลการใช้หนังสือของแต่ล่ะกลุ่มสาระ ภายในแต่ล่ะวัน เพื่อทำสถิติของแต่ล่ะเดือน

วัสดุอุปกรณ์

1.Arduino เป็นชื่อเรียกของ platform micro controller ชนิดหนึ่งซึ่งก็ตามความหมายครับ micro=เล็ก,controller=ชุดควบคุม ดังนั้นหน้าที่ของมันก็คือชุดควบคุมขนาดเล็กที่สามารถนำไปเชื่อมต่อเพื่อสั่งการเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆได้นั่นเอง

2.อุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดระยะห่างเริ่มจากหัววัดของเซนเซอร์ถึงสิ่งของต่างๆได้อย่างแม่นยำ และข้อดีของอันตร้าโซนิคเซนเซอร์เมื่อเทียบกับโฟโต้อิเล็กทริคเซนเซอร์แบบใช้วัดระยะทางก็คือ แม้แต่ในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยเช่นฝุ่นผงและความสกปรก สามารถตรวจวัดระยะห่างของวัตถุได้ดีแม้ว่าวัตถุนั้นจะมีความโปร่งใส โปร่งแสง มีความแวววาวได้อย่างแม่นยำ และยังเหมาะสำหรับการตรวจจับของเหลวและวัตถุที่เป็นเม็ดได้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะมารู้จักกับอัลตร้าโซนิคเซนเซอร์ ได้ดีขึ้น เรามารู้จัก กับคลื่นเสียงอัลตร้าโซนิคกันก่อ

3.LED ไดโอดเปล่งแสงเป็นไดโอดชนิดพิเศษ ที่สามารถเปล่งแสงออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นแสง ในช่วงที่สายตามองเห็น  เมื่อเปรียบเทียบกับหลอดไฟชนิดทังสเตนแล้ว LED จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าประมาณ 10-15 เท่า และยังมีการตอบสนองต่อแสงที่เร็วกว่าด้วย คือประมาณ 0.1 ไมโครวินาที เมื่อเทียบกับหลอดไฟชนิดทังสเตน ซึ่งใช้เวลาในระดับมิลลิวินาที ดังนั้นโดยทั่ว ๆ ไป LED จึงเหมาะที่จะใช้เป็นตัวแสดงผลหรือใช้เป็นไฟกะพริบ

4.จอ LCD คืออะไร ? เทคโนโลยีมอนิเตอร์ LCD ย่อมาจาก Liquid Crystal Display ซึ่งเป็นจอแสดงผลแบบ (Digital ) โดยภาพที่ปรากฏขึ้นเกิดจากแสงที่ถูกปล่อยออกมาจากหลอดไฟด้านหลังของจอภาพ (Black Light) ผ่านชั้นกรองแสง (Polarized filter) แล้ววิ่งไปยัง คริสตัลเหลวที่เรียงตัวด้วยกัน 3 เซลล์คือ แสงสีแดง แสงสีเขียวและแสงสีนํ้าเงิน กลายเป็นพิกเ:ซล (Pixel) ที่สว่างสดใสเกิดขึ้น

5.สายไฟจัมเปอร์แบบ ผู้-ผู้ เหมาะสำหรับใช้งานในวงจรทั่วๆไป เช่น วงจรทดลองบน Protroboard เพราะมีหัวเข็มหรือ Pin Header ที่ออกแบบมาใช้สำหรับเสียบลงบน Protoboard โดยเฉพาะ หรือใช้งานกับบอร์ด Arduino รุ่น UNO หรือรุ่นอื่นๆที่มี Socket ตัวเมีย • ขนาด 26 AWG สามารถทนกระแสสูงสุดได้ 2.2 A ถ้าต่อสายแบบ Chassis Wiring (ต่อแบบแยกสาย) ,สามารถทนกระแสได้ 0.36 A ถ้าต่อแบบ Power Transmission (รวมเป็นกระจุก)

6.Buzzer บลัซเซอร์ คือ ลำโพงแบบแม่เหล็กหรือ แบบเปียโซที่มีวงจรกำเนิดความถี่ (oscillator ) อยู่ภายในตัว ใช้ไฟเลี้ยง 3.3 – 5V สามารถสร้างเสียงเตือนหรือส่งสัญญาณที่เป็นรูปแบบต่างๆ เราอาจจะเคยได้ยินเสียงบลัซเซอร์อยู่บ่อยๆ เช่น เสียง ปี๊บที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ก็ใช้บลัซเซอร์ในการส่งสัญญาณให้ทราบสถานะของคอมพิวเตอร์ให้ทราบว่ามีปัญหาอะไร

วิธีการดำเนินงาน

1. ศึกษาค้นคว้าข้อมูล เกี่ยวกับโครงงานที่สนใจ
2. วางแผนการทำงาน
3. จัดเตรียมอุปกรณ์ในการทำงาน
4. ทำแบบจำลองแล้วเขียนคำสั่งที่ได้วางแผนไว้
5. วิธีการทำมีขั้นตอน ดังนี้

1. เมื่อมีนักเรียนมาหยิบหนังสือ ออกจากชั้นวางหนังสือ เซนเซอร์แสงก็จะเริ่มทำงาน

2. เซนเซอร์ก็จะส่งข้อมูลไปที่บอร์ด Arduino Uno ประมวลผลการนับและส่งผลไปยังจอแสดงผลLCDและลำโพง

3. หลังจากนั้นจอLCD ก็จะแสดงจำวนหนังสือที่ถูกหยิบออกไปผ่านทางจอLCD ทำให้ทราบถึงจำนวนหนังสือที่ถูกหยิบไป

4.ทดลองใช้งานเพื่อทดสอบประสิทธิภาพ ของระบบนับจำนวนหนังสือด้วยเซนเซอร์

สรุปผลและข้อเสนอแนะ

สรุปผลการทดลอง จากการที่ คณะผู้จัดทำได้ศึกษา ออกแบบ และสร้าง เพื่อหาประสิทธิภาพของระบบนับจำนวนหนังสือมีข้อสรุปการศึกษาดังนี้ ผลการทดลอง เมื่อมีนักเรียนมาหยิบหนังสือ ออกจากชั้นวางหนังสือ เซนเซอร์ก็จะเริ่มทำงานเซนเซอร์ก็จะส่งข้อมูลไปที่จอLCDหลังจากนั้นจอLCD ก็จะประมวลผล แล้วแสดงจำนวนหนังสือที่ถูกหยิบออกไปผ่านทางจอLCD ทำให้ทราบถึงจำนวนหนังสือที่ถูกหยิบไปทดลองใช้งานเพื่อทดสอบประสิทธิภาพ ของระบบนับจำนวนหนังสือด้วยเซนเซอร์

ข้อเสนอแนะ

1.ระบบนับจำนวนหนังสือควรใช้เซนเซอร์ที่มีความละเอียดมากกว่านี้

2.ระบบนับจำนวนหนังสือควรมีจอLCDที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้

รูปการทำงาน

1.เริ่มต่อวงจร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

2.นำวงจรที่ต่อสำเร็จแล้วบรรจุในกล่องเพื่อให้ดูเรียบร้อย

3.รูปภาพที่ติดตั้งแล้วเสร็จ พร้อมปฏิบัติงาน

ชื่อโครงงาน   ระบบนับหนังสืออัตโนมัติ

คณะผู้จัดทำ  นางสาวธนฝน แสนเขื่อน

นางสาววารี บุญวัน

นางสาวอมลวรรณ คำลือ

ครูที่ปรึกษา   นายสุกิจ สุวรรณ์

นายสิงห์ สุจันทร์

สถานศึกษา  โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 56 ตำบลกลางเวียง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน

โครงงาน  4 G Water Filter  (บ่อพักน้ำ 4G)

บทนำ (แนวคิด ความสำคัญ และความเป็นมาของโครงการ)

          น้ำมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของสิ่งมีชีวิต ทั้งในด้านอุปโภคและบริโภคแต่ในปัจจุบันมนุษย์ใช้น้ำอย่างไม่คำนึงถึงความสำคัญของน้ำ ซึ่งมนุษย์ส่วนใหญ่นั้นเห็นแก่ตัว มักง่าย เช่น ใช้ในการชำระล้างร่างกาย และสิ่งของเครื่องใช้แล้วก็ปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำ ลำคลอง โดยไม่มี  การกรองหรือการบำบัดก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำ  ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำ

          โครงการบ่อพักน้ำ 4 G  (4 G Water Filter ) เป็นการนำเสนอทางเลือกใหม่ในการแก้ปัญหาน้ำขุ่นที่ใช้อุปโภคบริโภคภายในโรงเรียนโดยใช้เทคโนโลยีที่ประยุกต์จากสภาพปัญหาที่พบเจอได้อย่างครบวงจร มีความน่าสนใจ ทันสมัย และยังได้รับผลประโยชน์จากการทำน้ำขุ่นให้เป็นน้ำใส  อาทิ การได้บริโภคอุปโภคน้ำที่ใสสะอาด จากกระบวนการผลิต  การสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้แก่บุคลากรของโรงเรียน ชุมชน และสังคม  การสร้างความสามัคคีและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ให้แก่สมาชิก  และที่สำคัญคือสร้างความตระหนักรู้ถึงการสร้างจิตสำนึกในการรักน้ำ และการใช้น้ำอย่างประหยัด

วัตถุประสงค์และเป้าหมาย

     1.เพื่อศึกษาระบบการทำงานของบ่อน้ำ 4G

      2.เพื่อสร้างและพัฒนาระบบกรองน้ำขุนให้เป็นน้ำใสใช้ในการอุปโภคในหอนอนโรงเรียน  ประจำ

      3.เพื่อศึกษาและพัฒนาการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

วัสดุอุปกรณ์

     1. board raspberry pi

2.   โมดูลวัดความอิ่มตัวGeekcreit® HC-SR

3.  Motor สูบน้ำขนาดเล็กสุด

5.  relay

6. Senser วัดค่าความขุ่น

ผังโครงสร้าง

หลักการทำงาน

หลักการทำงาน ระบบบ่อพักน้ำ 4G เริ่มที่กระบวนการทำงานของมอเตอร์ตัวที่ 1 ซึ่งอยู่ในบ่อน้ำที่ 1 ทำงานโดยตรวจสอบค่าความขุ่นของน้ำที่อยู่ในบ่อที่ 1 และระดับน้ำในบ่อที่ 2 ซึ่งหากเงื่อนไขใน 2 ข้อข้างตนเป็นไปตามที่ระบบตั้งค่าไว้คือน้ำใส่และระดับน้ำยังไม่เต็มความจุ บอร์ด Raspberry pi จะสั่งให้มอเตอร์ตัวที่ 1 ทำงานโดยสูบน้ำมาจัดเก็บไว้ในบ่อที่ 2 ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ และจะหยุดสูบน้ำในบ่อที่ 1 โดยใช้เซ็นเซอร์ วัดค่าระดับน้ำเป็นเกณฑ์ในการประมวลผลข้อมูล เพื่อรองรับปัญหาความขุ่นที่จะเกิดกับน้ำในบ่อที่ 1 เมื่อถึงฤดูฝนหรือน้ำขุ่นตามที่ตั้งไว้ มอเตอร์ตัวที่ 1 จะหยุดสูบน้ำ โดยอาศัยเซ็นเซอร์ตรวจจับความขุ่นของน้ำเป็นเกณฑ์พิจารณา โดยการควบคุมของบอร์ด  Raspberry pi เช่นเดียวกับเซ็นเซอร์วัดค่าระดับของน้ำ ส่วนมอเตอร์ตัวที่ 2 จะสูบน้ำใสจากบ่อที่ 2 ไปแจกจ่ายตามหอพักต่าง ๆ ของนักเรียนโดยตรวจสอบค่าความขุ่นของน้ำก่อน และตั้งเวลาการจ่ายน้ำเป็นเวลาตามที่กำหนด

CODE คำสั่งการทำงาน

#include <stdio.h>

#include <stdlib.h>

#include <wiringPi.h>

#include <time.h>

#define TRIG 2

#define ECHO 0

int water=0;

int waterdark=0;

int getCM() {

        //Send trig pulse

        digitalWrite(TRIG, HIGH);

        delayMicroseconds(20);

        digitalWrite(TRIG, LOW);

        //Wait for echo start

        while(digitalRead(ECHO) == LOW);

        //Wait for echo end

        long startTime = micros();

        while(digitalRead(ECHO) == HIGH);

        long travelTime = micros() – startTime;

        //Get distance in cm

        int distance = travelTime / 58;

        return distance;

}

int main(void) {

                   //set time

                   time_t t = time(NULL);

        struct tm tm = *localtime(&t);

        //old

        wiringPiSetup();

        pinMode(TRIG, OUTPUT);

        pinMode(ECHO, INPUT);

        pinMode (1, OUTPUT) ; //Relay1  22  motor 1

              pinMode (4, OUTPUT) ; //Relay2  23  motor 2

        pinMode (5, INPUT)  ; //Water dark level  24

        digitalWrite(TRIG, LOW);

        digitalWrite(1, LOW);

        digitalWrite(4, LOW);

              delay(30);

          for (;;){

        delay (500) ;

              water = getCM();

              waterdark = digitalRead(5);

              printf(“Distance: %dcm, Water dark : %d\n”, water, waterdark);

             if((water>=4)&&(waterdark==1)) //Control Water

             {

               digitalWrite (1, LOW) ;

               delay(500);

             }else{

               digitalWrite (1, HIGH) ;

               delay(500);

             }

             //set time for on/off pump2 

             if(tm.tm_hour>=16&&tm.tm_hour<=20){ 

                                      printf(“pump water processing\n”);    

                 if(waterdark==1) //Control Water Dark

                 {

                   digitalWrite (4, LOW) ;

                   delay(500);

                 }else {

                   digitalWrite (4, HIGH) ;

                   delay(500);

                  }

        }//end if time

    }//end for

        return 0;

} //end main

ผลของการทดสอบ

ใช้ได้จริง

รูปการทำงาน

1.  เตรียมอุปกรณ์

2.  ติดตั้งเซนเซอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมเขียนโปรแกรมควบคุม

3.   ติดตั้งระบบแล้วเสร็จ รอรับการทดสอบระบบต่อไป

วีดีโอผลงาน

–

คณะผู้จัดทำโครงงาน

1.  นางสาววรพรรณ   พันธ์เจดีย์  ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/1

2.   นายชาติชาย         แซ่กือ  ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่5/1

3.  นายเด่นชัย         กรินคีรี ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2

อาจารย์ที่ปรึกษา

นางสาวอ้อมใจ  แรงเขตกิจ                        สอนวิชา  คอมพิวเตอร์

โทรศัพท์ 0852685581      E-mail aomjaicomed@gmail.com

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 55 จังหวัดตาก  

ที่อยู่ของโรงเรียน              170  หมู่ 4 ตำบล แม่ท้อ  อำเภอเมือง  จังหวัดตาก

ที่มาและความสำคัญ

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31  อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นโรงเรียนประจำ มีคณะครูและบุคลากรทางการศึกษา ประจำพักนอนภายในโรงเรียน ด้วยภูมิทัศน์ของโรงเรียนอยู่บนภูเขาสูงมีบริเวณกว้างขวาง ภายในบริเวณโรงเรียนและบริเวณอาคารเรียนมีเคื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆและประตูหน้าโรงเรียน จึงต้องให้นักการฯ เดินเปิดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆทั่วทั้งบริเวณโรงเรียนและไปเลื่อนประตูหน้าโรงเรียนในเวลาเช้า เย็น จะทำให้ใช้เวลาในการปิดไฟหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าฯ เป็นเวลานาน ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยใช้เหตุทางคณะผู้จัดทำจึงเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงเกิดแนวคิดที่จะพัฒนาระบบสมาร์ทโฮม เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่บุคลากรของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ทั้งยังเป็นการประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น อีกด้วย

วัตถุประสงค์

๑.๑ เพื่อสร้าง สมาร์ทโฮม

๑.๒ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่บุคลากรของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31

๑.๓ เพื่อประหยัดพลังงาน และไม่ใช้พลังงานสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น

วัสดุอุปกรณ์

ผังโครงสร้าง

• ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ (อธิบายถึงผลงานที่คาดว่าจะได้รับเมื่อเสร็จสิ้นโครงงาน และแนวทางการนำผลที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์)

๒.๑  ทำให้สร้างแนวทางใหม่ๆสำหรับสมาร์ทโฮม

๒.๒  ทำให้เป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่มีมาใช้งานให้ตอบสนองการใช้งานในรูปแบบต่างๆ

๒.๓  ทำให้สามารถสร้างเป็นแนวทางที่ดีให้การนำไปประยุกต์ใช้ในงานต่างๆที่มีอยู่อย่างมากมาย

• ขั้นตอน และวิธีการทำโครงงาน (ระบุขั้นตอน วิธีการดำเนินงาน การเก็บข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูล)

๓.๑ คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษาโครงงาน

๓.๒ จัดทำโครงร่างโครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษา

๓.๓ ศึกษาการสร้างเว็บไซต์ที่สร้างจากโปรแกรม จากเอกสารที่ครูประจำวิชากำหนด และจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่นำเสนอเทคนิค วิธีการสร้างเว็บไซต์

๓.๔ ศึกษาการใช้งานฐานข้อมูล จากเอกสารที่ครูประจำวิชา   กำหนด และจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่นำเสนอเทคนิค วิธีการสร้างเว็บไซต์

๓.๕ ลงมือจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ระบบสมาร์ทโฮม

CODE คำสั่งการทำงาน

to main
  set Area1_wet (100)
  set Area1_dry (3)
  set Area2_wet (100)
  set Area2_dry (3)
  set Area3_wet (100)
  set Area3_dry (3)
  set Area4_wet (100)
  set Area4_dry (3)
  set Area5_wet (100)
  set Area5_dry (3)
  set Area6_wet (100)
  set Area6_dry (3)
  set Area7_wet (100)
  set Area7_dry (3)
  set Area8_wet (100)
  set Area8_dry (3)
  forever
  [
    check_time1  check_sensor
  ]
end

to check_sensor 
   ifelse sensor1 < Area1_dry  and sensor2 < Area2_dry 
  [
    a,
    on
  ] [
    if sensor1 > Area1_wet  and sensor2 > Area2_wet 
    [
      a,
      off
    ]
  ]
  ifelse sensor3 < Area3_dry  and sensor4 < Area4_dry 
  [
    b,
    on
  ] [
    if sensor3 > Area3_wet  and sensor4 > Area4_wet 
    [
      b,
      off
    ]
  ]
  ifelse sensor5 < Area5_dry  and sensor6 < Area6_dry 
  [
    c,
    on
  ] [
    if sensor5 > Area5_wet  and sensor6 > Area6_wet 
    [
      c,
      off
    ]
  ]
  ifelse sensor7 < Area7_dry  and sensor8 < Area8_dry 
  [
    d,
    on
  ] [
    if sensor7 > Area8_wet  and sensor8 > Area8_wet 
    [
      d,
      off
    ]
  ]

end
 

to check_time1 
   if hours = 6  and minutes = 0   or hours = 18  and minutes = 0  
  [
    if sensor1 < Area1_wet  and sensor2 < Area2_wet 
    [
      a,
      off
    ]
    if sensor3 < Area3_wet  and sensor4 < Area4_wet 
    [
      b,
      on
    ]
    if sensor5 < Area5_wet  and sensor6 < Area6_wet 
    [
      c,
      on
    ]
    if sensor7 < Area7_wet  and sensor8 < Area8_wet 
    [
      d,
      off
    ]
    wait 9000
    abcd,
    off
  ]

end

ผลของการทดสอบ

ใช้ได้จริงปัจจุบันก็ยังใช้อยู่

รูปการทำงาน

1.  เตรียมพื้นที่ วางท่อ และร้อยสายไฟ

2.  ติดตั้งเซนเซอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมเขียนโปรแกรมควบคุม

3.   ติดตั้งระบบแล้วเสร็จ รอรับการทดสอบระบบต่อไป

วีดีโอผลงาน

คณะผู้จัดทำโครงงาน

1. ชื่อ-สกุล นางสาว สุธิดา วงค์ดำรงวิวัฒน์    ระดับชั้น ม.5/2
2. ชื่อ-สกุล นายณัฐดนัย  อุปโน  ระดับชั้น  ม.4/3
3. นางสาวกัญญาณัฐ เชาว์ปัญญาสกุล ระดับชั้น ม.5/2

อาจารย์ที่ปรึกษา

นายพงศ์ธร  เปงวงศ์                                        สอนวิชา คณิตศาสตร์

โทรศัพท์  0848075280                              E-mail pongtornz@hotmail.com

โรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา

ที่อยู่ของโรงเรียน              99 หมู่ 10 ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ 50270 Tel 053-106933