โครงงานสมองกลฝังตัว

  • หน้าหลัก
  • อิคคิวซัง
    • ปีการศึกษา 2562
    • ปีการศึกษา 2561
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
    • ปีการศึกษา 2558
    • ปีการศึกษา 2557
    • ปีการศึกษา 2556
  • ทสรช.
    • ปีการศึกษา 2562
    • ปีการศึกษา 2561
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
  • สถานพินิจ
    • ปีการศึกษา 2562
  • โรงเรียนคนพิการ
    • ปีการศึกษา 2562
  • มหาวิทยาลัย
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
  • STEM ปี 2560
  • Show&Share2022
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อศึกษาและดูแลสิ่งแวดล้อม
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อการเกษตรอัจฉริยะ
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและชุมชน
    • โครงงานลิฟต์
    • รายชื่อผู้เข้าแข่งขันอื่นๆ

Category Archives: ทสรช ปีการศึกษา 2561

ทสรช ปีการศึกษา 2561

BN04 โครงงานเครื่องเตือนภัยในห้องครัว โรงเรียนสบเมยวิทยาคม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “เครื่องเตือนภัยในห้องครัว”

ผู้จัดทำ

  1. นางสาวทรายทอง  สันติธานี                ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
  2. นางสาวสุดารัตน์    โชคฤทัยวัลย์         ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายจิรันดร เองศิลป์
  2. นายธนรักษ์ คำมาลา
  3. นางสาวอรพรรณ ทิพย์ประเสริฐ

สถานศึกษา:  โรงเรียนสบเมยวิทยาคม อำเภอสบเมย  จังหวัดแม่ฮ่องสอน

บทนำ

ปัจจุบันแก๊สหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงที่นิยมใช้ในครัวเรือน แต่เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงที่มีคุณสมบัติไวไฟ จึงติดไฟอย่างรวดเร็ว หากใช้งานอย่างไม่ถูกวิธีจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการระเบิดและเพลิงไหม้ เพื่อความปลอดภัยจึงได้คิดค้นโครงงานเรื่อง กล่องเตือนภัยในห้องครัว ขึ้นเพื่อความสะดวกสบายในการอาหารและปลอดภัยในการใช้แก๊สหุงต้ม

โครงงานเรื่อง กล่องเตือนภัยในห้องครัวมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะลดการเกิดอันตรายของการทำอาหารในห้องครัวที่มีปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นการรั่วไหลของแก๊สและการลืมปิดแก๊สเวลาทำอาหาร โดยบางครั้งอาจตั้งหม้อหรือกระทะทิ้งไว้ แล้วเดินออกไปทำกิจกรรมอย่างอื่นแล้วก็เกิดลืมไปว่าได้ตั้งหม้อทำอาหารทิ้งไว้ ทำให้เกิดโอกาสที่จะเกิดการไหม้ของอาหาร ซึ่งสามารถก่อให้เกิดไฟลุกไหม้และเกิดอันตรายได้ จึงทำให้เราได้คิดสิ่งประดิษฐ์ที่จะช่วยเตือนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

BN03 โครงงานเครื่องตรวจจับควันและฝุ่นละออง โรงเรียนสบเมยวิทยาคม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “เครื่องตรวจจับควันและฝุ่นละออง”

ผู้จัดทำ

  1. นายจิณวุฒิ เจี่ยตระกูล                    ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
  2. นางสาวจุฬาลักษณ์ บุญร่วม           ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
  3. นางสาว อรณิชา      ทิพย์ชัย           ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นางสาวอรพรรณ      ทิพย์ประเสริฐ
  2. นายธนรักษ์                คำมาลา
  3. นายจิรันดร                เองศิลป์

สถานศึกษา:  โรงเรียนสบเมยวิทยาคม อำเภอสบเมย  จังหวัดแม่ฮ่องสอน

บทนำ

โครงงาน เรื่อง เครื่องตรวจจับควันและฝุ่นละออง  มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะทำให้ประชาชนอำเภอสบเมยปลอดภัยจากควันและฝุ่นละอองที่มี ปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็น ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ เศรษฐกิจ และทำให้คนเป็นโรคกันมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานย่อมลดลง จึงทำให้ภาคเศรษฐกิจสูญเสียรายได้จากการหยุดงาน และยังค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น แต่ปัญหาหลักที่สุดคือปัญหาด้านสุขภาพพบว่ามลพิษเหล่านี้ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจและมักทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร  โรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด หลอดลมอักเสบ โรคที่เกี่ยวกับปอด หัวใจ ติดเชื้อจากสิ่งสกปรกที่ลอยมาในอากาศ และโรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่พบบ่อย และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย เนื่องจากเยื่อบุ จมูกต้องต่อสู้กับฝุ่นละอองจำนวนมากต่อวัน จึงมีความไวต่อการกระตุ้นมากผิดปกติ

BN02 โครงงานระบบเตือนภัยน้ำท่วม โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตอารีย์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “ระบบเตือนภัยน้ำท่วม”

ผู้จัดทำ

  1. นางสาววาสนา   ปัญญาวรรณ์          ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 6/1
  2. นางสาวชนัญชิดา  อ้วนดี                 ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 5/1
  3. นางสาวนุชนารถ  ใหม่คำหล้า         ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 5/1

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายวีรศักดิ์     เป้รอด
  2. นางสาวมติกา   ใจธรรม

สถานศึกษา:  โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารี ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

บทนำ

เนื่องด้วยในปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีของระบบ Smart Phone ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมี Application ต่าง ๆ ออกมามากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ทำให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกสบายง่ายและรวดเร็ว โดยผ่าน Application ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดฟรี และแบบเขียนขึ้นเอง ทำให้สามารถเชื่อมโยงระหว่างกันและกันผ่านอินเตอร์เน็ต เครือข่ายในลักษณะนี้เรียกว่า The Internet of Things เรียกย่อ ๆ ว่า IOT

โครงการระบบเตือนภัยน้ำท่วมและวัดปริมาณฝุ่นละออง  มีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสาร การแจ้งเตือนให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยน้ำท่วม รวมถึงการแจ้งเตือนปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ  เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้รวดเร็ว และลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยคณะผู้จัดทำได้ทำการทดลอง และออกแบบเครื่องเตือนภัยน้ำท่วมซึ่งสามารถแจ้งเตือนการเกิดน้ำท่วมในระดับต่างๆได้ และได้นำเอาเทคโนโลยีของระบบ Smart Phone  โดยทำหน้าที่แทนระบบเซนเซอร์ ส่งค่าผ่าน Application Line เป็นตัวรับส่งข้อมูลของการเกิดน้ำท่วมในระดับต่างๆ และสามารถวัดปริมาณฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐานได้

ระบบเตือนภัยน้ำท่วม มีส่วนประกอบทั้งหมด 2 ส่วนคือ ส่วนของ Software โดยส่วนของ Hardware จะใช้ Kidbright เป็นอุปกรณ์ควบคุมและสั่งงานอุปกรณ์ โดยสังงานผ่าน RELAY ขนาด 10A 12V จำนวน 2 ชุด ควบคุมไซเรนขนาด 12 V จำนวน 1 ตัวและออดขนาด 12 V จำนวน 1 ตัว ทำให้สามารถสั่งงานหรือควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากได้ โดยส่งข้อมูลการเกิดน้ำท่วมในระดับต่างๆผ่าน Smart Phone ในรูปแบบของ Application Line  ได้ไม่ว่าจะอยู่จุดใด

ระบบวัดปริมาณฝุ่นละออง มีส่วนประกอบทั้งหมด 2 ส่วนคือ ส่วนของ Software โดยส่วนของ Hardware จะใช้เครื่องวัดปริมาณฝุ่นละออง เป็นตัวรับค่าว่ามีปริมาณฝุ่นละอองเท่าใด จึงส่งค่าให้ Kidbright ที่เป็นตัวแสดงผล เป็นตัวเลข

หลักการทำงานของระบบเตือนภัยน้ำท่วมอัจฉริยะ คือ เมื่อเกิดน้ำท่วม ระบบจะส่ง Line ผ่าน Smart Phone และจะมีไซเรนและเสียงออดแจ้งเตือนที่แตกต่างกันไปในน้ำระดับต่างๆด้วย โดยน้ำในระดับที่ 1 ระดับน้ำปกติ จะมี Lineและไซเรนในการแจ้งเตือน ระดับที่ 2 เฝ้าระวังและเตรียมอพยพ จะมี Line และเสียงออดในการแจ้งเตือน และระดับที่ 3 อพยพของออกจากพื้นที่ จะมี Line ไซเรนและเสียงออดในการแจ้งเตือน ซึ่งในระดับนี้ออดและไซเรนจะทำงานพร้อมกันตลอดอยู่เวลา

BN01 โครงงานเครื่องคัดแยกขยะอัจฉริยะ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตอารีย์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “เครื่องคัดแยกขยะอัจฉริยะ”

ผู้จัดทำ

  1. นายชูชัย     แสงช้าง                           ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 6/1
  2. นางสาวพิชญา     จันทร์แดง              ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 5/1
  3. นางสาวณัฐวรา     แซ่ม้า                    ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 5/1

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายวีรศักดิ์     เป้รอด
  2. นางสาว มติกา   ใจธรรม

สถานศึกษา:  โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารี ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

บทนำ

ปัจจุบันมีการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการพัฒนาระบบระบบ เช่นระบบของ Smart Phone มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วมี Application Line ออกมา เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ทำให้มนุษย์สามารถสร้าง และควบคุมอุปกรณ์ได้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆได้สะดวกและรวดเร็ว เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และการออกแบบเพื่อให้สามารถเชื่อมโยงระหว่างกันและกันผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งเครือข่ายในลักษณะนี้เรียกว่า The Internet of Things หรือเรียกย่อ ๆ ว่า IOT

โครงงานเครื่องคัดแยกขยะอัตโนมัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการคัดแยกขยะแต่ละประเภทออกจากกัน ทางคณะผู้จัดทำได้ทดลองสร้างเครื่องแยกขยะในรูปแบบต่างๆรวมถึงการเลือกวัสดุในการสร้าง การออกแบบโครงสร้าง และการออกแบบระบบควบคุมการแยกขยะอัตโนมัติซึ่งมีตู้ควบคุมระบบถังขยะซึ่งสามารถเปิด – ปิดระบบด้วยอัตโนมัติโดยการทำงานของเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค

หลักการทำงานของเครื่องคัดแยกขยะอัตโนมัติ เริ่มจากเมื่อเทขยะลงในถังของเครื่องคัดแยกขยะอัตโนมัติขยะขนาดเล็กและเศษอาหารจะตกผ่านตะแกรงไปยังถังขยะทั่วไปที่อยู่ด้านล่างของเครื่อง   หลังจากนั้นเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค ตรวจจับว่ามีขยะระบบจะสั่งให้มอร์ปัดน้ำฝนและรางทำงาน ขยะจะเคลื่อนที่ไปตามรางในระยะเวลา 30 วินาที ถ้าเป็นขยะโลหะจะมีเซ็นเชอร์ตรวจจับโลหะ ขยะจะถูกปัดลงในถังขยะโลหะ ส่วนขยะที่ไม่ใช่โลหะจะเคลื่อนที่ไปตามราง ขยะที่เป็นแก้วน้ำขนาดเล็กจะลงในช่องที่ 1 และตกลงในถังขยะแก้วน้ำขนาดเล็ก แก้วกาแฟเคลื่อนไปตามรางและตกลงในช่องที่ 2 ลงในถังขยะแก้วกาแฟ ส่วนขวดน้ำพลาสติกจะเคลื่อนไปตามรางต่อ และตกลงในช่องที่ 3 ตกลงในถังขยะขวดน้ำ ขยะที่ไม่สามารถคัดแยกได้จะตกลงไปถังขยะทั่วไป ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย เมื่อขยะแต่ละชิ้นที่ตกลงไปในถังแต่ละใบจะมีการนับของเซนเซอร์อัลตร้าโซนิคแต่ละตัวในถังขยะแต่ละใบของถังขยะจะนับหนึ่งตามที่ตรวจพบว่ามีขยะหนึ่งชิ้นตกลงมา และถ้าเซนเซอร์ตรวจพบว่ามีขยะอยู่ตลอดเวลาคือถังขยะใบนั้นเต็มและจะมีการแจ้งเตือนผ่าน Application Line ทำให้ผู้ดูแลรู้ว่าเต็มถังขยะแล้ว เพื่อนำไปเทออกจากถัง และรู้จำนวนของขยะในถังด้วยว่าเท่าไร ถ้าเครื่องคัดแยกขยะมีการติดขัดระบบของเครื่องจะมีสตอปเปอร์ในการหยุดการทำงานของเครื่อง

AS18 โครงงานถุงมือช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา V.2 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 37 จังหวัดกระบี่

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน
“ถุงมือช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา V.2”

ผู้จัดทำ

  1. เด็กหญิงชาลิสา     เหมนแก้ว     ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
  2. นางสาวนัตยา      แสงแก้ว          ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
  3. นางสาวกัญญารัตน์   จิตรานนท์  ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

อาจารย์ที่ปรึกษา   

  1. นายนพดล  พุทธพฤกษ์
  2. นางสาวตัสนีม หลังปุเต๊ะ

ชื่อสถาบัน                 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๗ จังหวัดกระบี่

สถานที่ติดต่อ              11  หมู่ 7 ตำบลเขาพนม  อำเภอเขาพนม  จังหวัดกระบี่  81140

เบอร์โทรติดต่อ 075-689030

บทนำ

คณะผู้จัดทำได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการใช้ชีวิตของผู้พิการทางสายตาจึงคิดโครงงานถุงมือช่วยผู้พิการทางสายตาอัจฉริยะ เพื่อช่วยบรรเทาอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการทางสายตาโดยนำเทคโนโลยีในยุคของ THAILAND 4.0 ในการคิดคำนวณและควบคุมการทำงานของเครื่องถุงมือช่วยผู้พิการอัจฉริยะโดยวิธีการแจ้งเตือนเมื่อจะเข้าใกล้วัตถุที่จะสัมผัสประมาณ 0.5-1 เมตร จะแจ้งเตือนโดยการสั่นให้ผู้พิการทางสายตารับรู้ถึงวัตถุที่จะสัมผัสพร้อมระบบเสียงที่จะแจ้งเตือนให้ผู้พิการทราบว่าควรไปในทิศทางใด แม้ว่าถุงมือสำหรับผู้พิการทางสายตาจะไม่สามารถใช้ทดแทนในการมองเห็นได้แต่มันก็ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัวโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเดินชนถูกสิ่งของที่อยู่ใกล้ ๆ และสิ่งของที่ก่อให้เกิดอันตราย

จากการทดลองถุงมือช่วยผู้พิการทางสายตา สรุปได้ว่าถุงมือช่วยเหลือผู้พิการทางสายและตรวจจับสิ่งกีดขวางขณะที่ผู้พิการทางสายตาแกว่งมือและแสดงผลออกมาในรูปแบบของการสั่นสะเทือนและมีเสียงแจ้งเตือน ซึ่งเครื่องมือจะทำตามเงื่อนไขที่ผู้จัดทำต้องการเพื่อให้บรรลุตามจุดประสงค์และเป้าหมาย เหตุผลที่เครื่องมือสามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางได้นั้น เนื่องจากผู้พิการทางสายตาแกว่งมือไปโดนสิ่งกีดขวางทำให้เข้าใกล้รัศมีของ Ultrasonic sensor ทำให้เครื่องตรวจจับเกิดการทำงานขึ้น และถ้าหากผู้พิการทางสายตาต้องการความช่วยเหลือสามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือได้โดยจะมีแสงไฟและเสียงแจ้งเตือนให้ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงทราบและสามารถติดตามผู้พิการทางสายตาได้ด้วยเพราะมี GPS ในการติดตาม

AS15 โครงงานระบบเปิดปิดไฟอัตโนมัติ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง จังหวัดพัทลุง

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “ระบบเปิดปิดไฟอัตโนมัติ”

ผู้จัดทำโครงงาน

  1. นายโกสิทธิ์ แกนสังข์               ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
  2. เด็กชายพงษ์สิทธิ์ แท่นด้วง     ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
  3. เด็กชายสุริยะ หนวดงาม          ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายชนาเมธ แซ่เตียว
  2. นางสาวอุบลวรรณ เมืองแก้ว

สถานศึกษา: โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

บทคัดย่อ

การทำโครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบเปิด  – ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติที่สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้โดยไม่ต้องใช้สวิตซ์ ใช้การสั่งงานโดยบอร์ด KidBright ซึ่งเป็นสมองกลฝังตัวรูปแบบหนึ่ง ผ่านโปรแกรม KidBright IDE เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น ทำให้สามารถบริหารจัดการด้านพลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของโรงเรียน โดยใช้ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและเซ็นเซอร์ตรวจวัดความเข้มแสง และใช้ระบบควบคุมการเปิด-ปิดพัดลมอัตโนมัติโดยการตั้งเวลาและใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิจากการทดสอบการทำงานของระบบ พบว่า สามารถใช้งานได้จริง โดยในการจัดทำโครงงานในครั้งนี้ได้พัฒนาต่อยอดให้สามารถควบคุมการเปิด – ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ โดยอัตโนมัติได้เช่นกัน เช่น กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้สำหรับหอนอน ห้องเรียน ห้องน้ำของโรงเรียน และอาจนำไปใช้ในอาคารบ้านเรือนหรือสำนักงานได้ และสามารถใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาหรือประยุกต์ให้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้ต่อไป

 

AS14 โครงงานระบบเปิดปิดน้ำอัตโนมัติ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง จังหวัดพัทลุง

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “ระบบเปิดปิดน้ำอัตโนมัติ”
Automatic switch on-off system of water

ผู้จัดทำโครงงาน

  1.  นายณัฐกิตธ์   ด้วงดล               ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
  2.  นางสาวจันทการต์ บุญณากร   ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
  3.  เด็กชายนที  พุทธพิทักษ์         ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายประดิษฐ์  สุรสีห์เรืองชัย
  2. นางสาวอุบลวรรณ เมืองแก้ว

สถานศึกษา: โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

ความสำคัญและที่มา

โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง จัดการศึกษาให้กับผู้ด้อยโอกาส 10 ประเภท เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นโรงเรียนประจำ นักเรียนพักอาศัยอยู่ในโรงเรียนตลอดเวลา และประสบกับปัญหาเรื่องระบบน้ำในโรงเรียน  โดยเฉพาะที่หอนอนนักเรียน  เนื่องจากเป็นระบบปะปาภายใน  ต้องควบคุมการปิดเปิดตามเวลาที่โรงเรียนกำหนด  นั่นคือเปิดน้ำเวลา   05.00 น. ถึง  10.00 น. เวลา 11.00 น.ถึง 14.00 น.  และ17.00 น  ถึง  19.30 น.  อีกทั้งระบบสูบน้ำปะปาหลักมักเสียบ่อยครั้งทำให้เกิดปัญหาในการใช้น้ำสำหรับปฎิบัติกิจกรรมประจำวันของนักเรียน   และเป็นปัญหาอย่างยิ่งในเวลากลางคืนที่นักเรียนต้องใช้ห้องน้ำที่หอนอน   เพราะน้ำมีปริมาณจำกัด  จึงได้คิดหาทางแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ  โดยใช้การออกแบบและเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเกิดความสุขสำหรับทุกคน

จากการสืบค้นข้อมูล พบว่า ได้มีการใช้วิธีต่าง ๆ และระบบน้ำสำรองโดยใช้กลไกการเปิด-ปิดน้ำอัตโนมัติเป็นวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน

ANE09 โครงงานพัดลมอัตโนมัติปรับระดับตามอุณหภูมิ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 54 จังหวัดสกลนคร

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน
“พัดลมอัตโนมัติปรับระดับตามอุณหภูมิ
“

ผู้จัดทำโครงงาน

  1. นายจักรกรินทร์        มงคลมาตย์                    ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
  2. นางสาวกัลยาณี        ศรีสุวงศ์                        ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
  3. นางสาวมณีรัตน์       ทองสมุทร์                      ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นางพิทย์ระมัย          วารสาร
  2. นางสาววัชราภรณ์    แดงอาจ
  3. นายสิทธิพล               ใจตรง

สถานศึกษา: โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๔ จังหวัดอำนาจเจริญ

หลักการและเหตุผล

พัดลมติดผนังเป็นพัดลมที่นิยมใช้กันโดยทั่วไป ตามห้องประชุม ห้องเรียน หรือห้องต่างๆ เพราะมีข้อดีคือไม่กีดขวางพื้นที่ด้านล่างของห้อง    ซึ่งในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๔ จังหวัดอำนาจเจริญ จะมีพัดลมติดผนังตามห้องเรียน ห้องประชุม และเรือนนอน  บางห้องก็จะมีพัดลมจำนวนหลายเครื่อง  เมื่อต้องการปรับระดับของพัดลมก็ต้องลุกไปกดสวิตซ์ทีละเครื่อง  หากวันใดอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อยๆก็ต้องปรับอุณหภูมิบ่อยๆ เช่นกัน ทำให้ไม่สะดวกในการลุกขึ้นไปเปิดพัดลม

ผู้จัดทำโครงงานจึงเล็งเห็นปัญหาของการปรับระดับของพัดลม จึงได้ศึกษาหาวิธีการแก้ปัญหาในการปรับระดับของพัดลมโดยการคิดค้นประดิษฐ์พัดลมอัตโนมัติปรับระดับตามอุณหภูมิขึ้น

 

ANE08 โครงงานสมาร์ทฟาร์ม Evap โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 53 จังหวัดสกลนคร

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “สมาร์ทฟาร์ม Evap”

ผู้จัดทำ

  1. เด็กหญิงอภิสรา ศรีมุกดา
  2. เด็กหญิงชลาทร พันทา
  3. เด็กชายวุฒิชัย เฮืองหล้า

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. ครูสานิต โลบภูเขียว
  2. ครูจิตรฤทัย ดีโท
  3. ครูณัฐพล วงษ์ยอด

สถานศึกษา  โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 53 จังหวัดสกลนคร

บทคัดย่อ

โครงงานเรื่อง สมาร์ทฟาร์ม Evap มีที่มาจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 53 จังหวัดสกลนคร เป็นโรงเรียนประจำที่ส่งเสริมให้นักเรียนที่จบการศึกษาออกไปได้มีอาชีพติดตัวไปเพื่อการเลี้ยงชีพตัวเอง ซึ่งหนึ่งกิจกรรมที่นักเรียนให้ความสนใจและสร้างรายได้ให้กับนักเรียนคือ “การเลี้ยงไก่เนื้อ” ในแต่ละวันนักเรียนจะใช้เวลาว่างและช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเพื่อไปดูแลโรงเรือนไก่ และทางโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะด้านอิเล็กทรอนิกส์และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จึงได้นำเอาความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมอบรมมาเพื่อช่วยในการเลี้ยงไก่เนื้อ  ซึ่งผลการทดลองพบว่าเมื่อเซนเซอร์วัดค่าอุณหภูมิได้ในช่วง 25 – 27 องศาเซลเซียส พัดลมจะทำงานจ านวน 1 ตัว อุณหภูมิช่วง 28 – 31 องศาเซลเซียส พัดลมจะทำงาน 2 ตัว อุณหภูมิช่วง 32 – 38 องศาเซลเซียส พัดลมจะทำงาน 3 ตัว และเมื่ออุณหภูมิสูงกว่า 39 องศาเซลเซียส พัดลมจะทำงาน 4 ตัว สมาร์ทฟาร์ม Evap จะทำการให้อาหารไก่วันละ 2 ครั้งในเวลา 07.00 น. และ 17.00 น. เป็นเวลา 10 วินาที และให้อาหารน้ำไก่ทุกครั้งที่ระดับน้ำลดลงต่ำกว่าเซนเซอร์
ตามที่ได้เขียนคำสั่งลงในบอร์ด Arduino

ANE07 โครงงาน ระบบป้อมยามอัตโนมัติ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 51 จังหวัดบุรีรัมย์

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “ระบบป้อมยามอัตโนมัติ”

ผู้จัดทำ

  1. เด็กหญิงอัมราภรณ์  ชื่นชม               ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่  3
  2. เด็กชายเดวิด  ฮ้ารดวิค                     ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2
  3. เด็กชายโรเบิร์ต  ประกิงรัมย์              ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2

อาจารย์ที่ปรึกษา: นางณุชรี อ่อนน้ำคำ

สถานศึกษา : โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๑ จังหวัดบุรีรัมย์

บทนำ

ในโลกยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ชีวิตของมนุษย์ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีในการใช้ชีวิตประจำวันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะดำเนินกิจกรรมใดๆ ก็ตามมักจะมีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง  ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน สามารถผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์มากขึ้น
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 51 จังหวัดบุรีรัมย์  ได้เข้าร่วมโครงการโรงเรียนปลอดภัย จึงตระหนักถึงความปลอดภัยเรื่องต่างๆในโรงเรียน อาทิเช่น การจราจรหรือการขับขี่ยานพาหนะในโรงเรียน  โรงเรียนของเราจะจัดเส้นทางการเดินรถเพียงทางเดียวหรือเรียกว่า one way  รณรงค์ให้คณะครู บุคลากร และนักเรียน  มีจิตสำนึกในการปฏิบัติตามกฎจราจรของโรงเรียน ในการศึกษาของคณะผู้จัดทำ เกี่ยวกับการจราจรปลอดภัย ซึ่งเกิดปัญหาที่มีรถเป็นจำนวนมาก เดินทางเข้าออกโรงเรียน และไม่ทำตามกฎจราจร ไม่มีการบันทึกข้อมูล เนื่องจากเวลาของบุคลากรมีไม่เพียงพอและแก้ไขปัญหาได้ไม่ทันท่วงที
จากปัญหาดังกล่าวและการใช้ประโยชน์ของไมโครคอนโทรลเลอร์และระบบ Internet of Things (IOT) จึงคิดที่จะนำความรู้เรื่องเทคโนโลยีเกี่ยวกับระบบสมองกลฝังตัวมาปรับใช้ โดยการจัดตั้งโครงงาน ระบบป้อมยามอัตโนมัติ

 

« Previous Page
Next Page »

Meta

  • Log in
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org

CyberChimps WordPress Themes

© โครงงานสมองกลฝังตัว