โครงงานสมองกลฝังตัว

  • หน้าหลัก
  • อิคคิวซัง
    • ปีการศึกษา 2562
    • ปีการศึกษา 2561
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
    • ปีการศึกษา 2558
    • ปีการศึกษา 2557
    • ปีการศึกษา 2556
  • ทสรช.
    • ปีการศึกษา 2562
    • ปีการศึกษา 2561
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
  • สถานพินิจ
    • ปีการศึกษา 2562
  • โรงเรียนคนพิการ
    • ปีการศึกษา 2562
  • มหาวิทยาลัย
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
  • STEM ปี 2560
  • Show&Share2022
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อศึกษาและดูแลสิ่งแวดล้อม
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อการเกษตรอัจฉริยะ
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและชุมชน
    • โครงงานลิฟต์
    • รายชื่อผู้เข้าแข่งขันอื่นๆ

Author Archives: hrh

BN07 โครงงานรถตัดหญ้าบังคับด้วยสมาร์ทโฟน โรงเรียนสบเมยวิทยาคม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน
“รถตัดหญ้าบังคับด้วยสมาร์ทโฟน”

ผู้จัดทำ

  1. นายอัครวิชญ์      กาวรรณ
  2. นายพลวัตน์ หนั่นต่า
  3. นายสิปปกร คำมีสว่าง

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นางสาวอรพรรณ     ทิพย์ประเสริฐ
  2. นายธนรักษ์ คำมาลา
  3. นายจิรันดร  เองศิลป์

สถานศึกษา:   โรงเรียนสบเมยวิทยาคม อำเภอสบเมย  จังหวัดแม่ฮ่องสอน

บทนำ

เนื่องด้วยโรงเรียนสบเมยวิทยาคม เป็นโรงเรียนที่มีสนามหญ้าที่กว้างมาก และการตัดหญ้าในสนามแต่ละครั้งใช้เวลานาน ใช้กำลังคนหลายคนทำให้บุคลกรในการทำความสะอาดมีแค่เพียงคนเดียว จึงทำให้พวกเราได้คิดค้นเครื่องทุ่นแรงในการตัดหญ้าให้กับภารโรงของโรงเรียนเราและนักเรียนจิตอาสา คือ “เครื่องตัดหญ้าบังคับ” ด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าวของภาคเหนือและสนามหญ้าที่กว้างของโรงเรียนจึงทำให้พวกเราคิดว่าการทำเครื่องตัดหญ้าบังคับจะช่วยทุ่นแรงได้อย่างมาก เราคิดว่าการทำเครื่องตัดหญ้าบังคับจะช่วยทุ่นแรงได้อย่างมาก

 

BN06 โครงงานเครื่องปล่อยน้ำลงก๋างโต้ง(นา)อัตโนมัติ โรงเรียนสบเมยวิทยาคม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน
“เครื่องปล่อยน้ำลงก๋างโต้ง(นา)อัตโนมัติ”

ชื่อโครงงานภาษาไทย                   ปล่อยน้ำลงนา

ชื่อโครงงานภาษาอังกฤษ             Let the water flow into the fields

ระดับการศึกษา                               มัธยมศึกษาตอนต้น

ผู้จัดทำโครงงาน

  1. นายศิวนาท มูลขำ                     ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
  2. นางสาวเสาวภา สุนทียวนา       ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
  3. นางสาวสุภัสสร มะลิชัง             ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นางสาวอรพรรณ ทิพย์ประเสริฐ
  2. นายธนรักษ์ คำมาลา
  3. นายจิรันดร เอ็งศิลป์

สถานศึกษา: โรงเรียนสบเมยวิทยาคม  อำเภอสบเมย  จังหวัดแม่ฮ่องสอน  สำนักเขตพื้นที่การมัธยมศึกษาที่ 34

กิตติกรรมประกาศ

เนื่องด้วยโรงเรียนสบเมยวิทยาคม เป็นโรงเรียนลักษณะอยู่ประจำนักเรียนโรงเรียนได้น้อมนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และมีทักษะในการดำรงชีวิตอย่างพอเพียงทางโรงเรียนได้จัดทำนาแบบย่อม เพื่อให้นักเรียนได้ประสบการจริง แต่เนื่องด้วยการทำนานั้นต้องมีเวลาว่างในการให้น้ำไล่นกไล่กา และบางครั้งนักเรียนไม่มีเวลารดน้ำจึงให้พืชที่ปลูกไว้เหี่ยวซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชทำให้ไม่ได้ผลผลิตตามต้องการเสี่ยงต่อการขาดทุนด้วยเหตุนี้ผู้จัดทำจึงได้คิดพัฒนาระบบควบคุมการปล่อยน้ำอัตโนมัติขึ้นซึ่งทางโรงเรียนขอขอบพระคุณทุนสนับสนุนในการทำโครงงานจากมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยการสนับสนุนจากสถาบันกวดวิชา วี บาย เดอะเบรน ในการทำโครงงานครั้งนี้     หากผิดพลาดประการใด ทางคณะผู้จัดทำกราบขออภัยมา  ณ  ที่นี้ด้วย

 

หลักการและเหตุผล

เนื่องด้วยโรงเรียนสบเมยวิทยาคม ได้น้อมนำเอาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และมีทักษะในการดำรงชีวิตอย่างพอเพียงทางโรงเรียนได้จัดทำนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขึ้น เป็นส่วนหนึ่งที่ทางโรงเรียนได้จัดทำขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง แต่เนื่องด้วยการทำนาเป็นเป็นการปลูกพืชที่ต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ และบางครั้งนักเรียนไม่มีเวลารดน้ำจึงทำให้พืชที่ปลูกเหี่ยวซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชทำให้ไม่ได้ผลผลิตตามต้องการเสี่ยงต่อการขาดทุน  ด้วยเหตุนี้ผู้จัดทำจึงได้คิดพัฒนาระบบควบคุมการปล่อยน้ำอัตโนมัติขึ้น

วัตถุประสงค์ของโครงงาน

เนื่องจากนักเรียนไม่ค่อยมีเวลาในการรดน้ำจึงทำระบบปล่อยน้ำลงนามาเพื่อประหยัดเวลาและก้าวหน้าสู่เทคโนโลยีอีกด้วย

ปัญหาหรือประโยชน์ที่เป็นเหตุที่นำไปสู่การจัดทำโครงงานครั้งนี้

เนื่องจากทางโรงเรียนได้มีการทำนาขึ้นมาและเราก็ได้ไปถามปัญหาในการทำนาและวิธีที่ต้องการแก้ไขและทางโรงเรียนก็ได้อนุมัติในการทำโครงงานนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นคือพื้นที่ที่ทดลองมีจำกัดและผู้จัดทำโครงงานล่าช้าจึงทำให้การทดลองล่าช้าตามด้วย

ประโยชน์ของโครงงานที่คาดว่าจะได้รับ

  • สามารถควบคุมการปล่อยน้ำได้ตามต้องการ
  • ประหยัดค่าใช้จ่าย
  • ประหยัดเวลา/ ไม่ต้องเสียเวลาเดินไป เปิด- ปิด

อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดทำโครงงาน

  1. 8 Channel 5V Relay
  2. Power Line EMI Filter AC 250V 10A
  3. Bluetooth Serial Module
  4. Arduino uno r3
  5. Solenoid Valve Magnetic 12Vdc N/C Flow Switch 1/2″
  6. Non-contact Liquid Level Sensor

ระยะเวลาในการจัดทำโครงงาน

ระยะเวลาที่ใช้ 6 เดือน ตั้งแต่เดือน มกราคม 2562 ถึง เดือนมิถุนายน 2562

การนำโครงงานนี้ไปปฏิบัติในโรงเรียนสบเมยวิทยาคม

ทำให้โรงเรียนได้ก้าวไปอีกขั้นของเทคโนโลยีโครงงานของพวกเราจัดทำเพื่อประหยัดเวลาประหยัดพื้นที่และสะดวกโดยจะมีเซ็นเซอร์วัดระดับน้ำและเซ็นเซอร์วัดความชื้นแล้วยังสามารถเชื่อมต่อบลูธูทได้อีกด้วยตอนนี้ทางเรายังคงต้องปรับแก้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้โครงงานสมบูรณ์แบบมากที่สุดและพวกเราก็ขอขอบคุณค่ายสมองกลฝังตัวที่ทำให้เราได้ประสบการณ์และความรู้ขอขอบคุณครับ

 

 

BN05 โครงงานเครื่องบ่นน้ำวัวอัตโนมัติ โรงเรียนสบเมยวิทยาคม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “เครื่องบ่นน้ำวัวอัตโนมัติ”

ผู้จัดทำ

  1. นายปุระชัย จันทะมา                ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
  2. นางสาวเมษิญา ตาจุมปา         ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
  3. นางสาวสุวิภา จันทรคราส        ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายจิรันดร     เองศิลป์
  2. นางสาวอรพรรณ     ทิพย์ประเสริฐ
  3. นายธนรักษ์     คำมาลา

สถานศึกษา:  โรงเรียนสบเมยวิทยาคม   อำเภอสบเมย  จังหวัดแม่ฮ่องสอน

บทนำ

เนื่องจากในปัจจุบันการเลี้ยงวัวและกระบือนั้นผู้เลี้ยงส่วนใหญ่ก็จะเลี้ยงเป็นจำนวนมากทำให้ต้องมีพื้นที่ในการเลี้ยงเป็นบริเวณกว้างซึ่งพื้นที่ที่ใช้ในการเลี้ยงจะเรียกว่า “ ฟาร์ม ” ซึ่งการทำฟาร์มกระบือหรือฟาร์มวัวนั้นต้องประสบกับปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นกระบือหรือวัวซึ่งเป็นสัตว์ที่ขี้ร้อนมาก การที่กระบือหรือวัวร้อนมากๆกระบือและวัวก็จะส่งเสียงร้องสร้างความรำคาญให้แก่ประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้ๆฟาร์มซึ่งเจ้าของฟาร์มก็ต้องพาพวกกระบือและวัวที่มากมายหลายฝูงพาไปคลายความร้อน และคลายความเครียดที่บ่อน้ำหรือสระน้ำใกล้ๆ ซึ่งจะเป็นความยากลำบากของคนที่พากระบือหรือวัวไปคลายความร้อน

ด้วยเหตุผลนี้ผู้จัดทำโครงงานได้เห็นถึงปัญหา จึงได้คิดค้นโครงงาน เรื่อง เครื่องพ่นน้ำวัว ขึ้นเพื่อความสะดวกสบายของเจ้าของฟาร์มและเพื่อคลายความร้อนความเครียดให้กับพวกกระบือและวัวรวมไปถึงการแก้ปัญหาที่กระบือและวัวส่งเสียงร้องสร้างความรำคาญให้แก่ชาวบ้านในบริเวณนั้น

BN04 โครงงานเครื่องเตือนภัยในห้องครัว โรงเรียนสบเมยวิทยาคม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “เครื่องเตือนภัยในห้องครัว”

ผู้จัดทำ

  1. นางสาวทรายทอง  สันติธานี                ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
  2. นางสาวสุดารัตน์    โชคฤทัยวัลย์         ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายจิรันดร เองศิลป์
  2. นายธนรักษ์ คำมาลา
  3. นางสาวอรพรรณ ทิพย์ประเสริฐ

สถานศึกษา:  โรงเรียนสบเมยวิทยาคม อำเภอสบเมย  จังหวัดแม่ฮ่องสอน

บทนำ

ปัจจุบันแก๊สหุงต้มเป็นเชื้อเพลิงที่นิยมใช้ในครัวเรือน แต่เนื่องจากเป็นเชื้อเพลิงที่มีคุณสมบัติไวไฟ จึงติดไฟอย่างรวดเร็ว หากใช้งานอย่างไม่ถูกวิธีจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการระเบิดและเพลิงไหม้ เพื่อความปลอดภัยจึงได้คิดค้นโครงงานเรื่อง กล่องเตือนภัยในห้องครัว ขึ้นเพื่อความสะดวกสบายในการอาหารและปลอดภัยในการใช้แก๊สหุงต้ม

โครงงานเรื่อง กล่องเตือนภัยในห้องครัวมีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะลดการเกิดอันตรายของการทำอาหารในห้องครัวที่มีปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นการรั่วไหลของแก๊สและการลืมปิดแก๊สเวลาทำอาหาร โดยบางครั้งอาจตั้งหม้อหรือกระทะทิ้งไว้ แล้วเดินออกไปทำกิจกรรมอย่างอื่นแล้วก็เกิดลืมไปว่าได้ตั้งหม้อทำอาหารทิ้งไว้ ทำให้เกิดโอกาสที่จะเกิดการไหม้ของอาหาร ซึ่งสามารถก่อให้เกิดไฟลุกไหม้และเกิดอันตรายได้ จึงทำให้เราได้คิดสิ่งประดิษฐ์ที่จะช่วยเตือนไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

 

BN03 โครงงานเครื่องตรวจจับควันและฝุ่นละออง โรงเรียนสบเมยวิทยาคม จังหวัดแม่ฮ่องสอน

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “เครื่องตรวจจับควันและฝุ่นละออง”

ผู้จัดทำ

  1. นายจิณวุฒิ เจี่ยตระกูล                    ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
  2. นางสาวจุฬาลักษณ์ บุญร่วม           ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
  3. นางสาว อรณิชา      ทิพย์ชัย           ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นางสาวอรพรรณ      ทิพย์ประเสริฐ
  2. นายธนรักษ์                คำมาลา
  3. นายจิรันดร                เองศิลป์

สถานศึกษา:  โรงเรียนสบเมยวิทยาคม อำเภอสบเมย  จังหวัดแม่ฮ่องสอน

บทนำ

โครงงาน เรื่อง เครื่องตรวจจับควันและฝุ่นละออง  มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะทำให้ประชาชนอำเภอสบเมยปลอดภัยจากควันและฝุ่นละอองที่มี ปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็น ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ เศรษฐกิจ และทำให้คนเป็นโรคกันมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำงานย่อมลดลง จึงทำให้ภาคเศรษฐกิจสูญเสียรายได้จากการหยุดงาน และยังค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น แต่ปัญหาหลักที่สุดคือปัญหาด้านสุขภาพพบว่ามลพิษเหล่านี้ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจและมักทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร  โรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด หลอดลมอักเสบ โรคที่เกี่ยวกับปอด หัวใจ ติดเชื้อจากสิ่งสกปรกที่ลอยมาในอากาศ และโรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่พบบ่อย และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย เนื่องจากเยื่อบุ จมูกต้องต่อสู้กับฝุ่นละอองจำนวนมากต่อวัน จึงมีความไวต่อการกระตุ้นมากผิดปกติ

BN02 โครงงานระบบเตือนภัยน้ำท่วม โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตอารีย์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “ระบบเตือนภัยน้ำท่วม”

ผู้จัดทำ

  1. นางสาววาสนา   ปัญญาวรรณ์          ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 6/1
  2. นางสาวชนัญชิดา  อ้วนดี                 ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 5/1
  3. นางสาวนุชนารถ  ใหม่คำหล้า         ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 5/1

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายวีรศักดิ์     เป้รอด
  2. นางสาวมติกา   ใจธรรม

สถานศึกษา:  โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารี ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

บทนำ

เนื่องด้วยในปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีของระบบ Smart Phone ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมี Application ต่าง ๆ ออกมามากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ทำให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกสบายง่ายและรวดเร็ว โดยผ่าน Application ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดฟรี และแบบเขียนขึ้นเอง ทำให้สามารถเชื่อมโยงระหว่างกันและกันผ่านอินเตอร์เน็ต เครือข่ายในลักษณะนี้เรียกว่า The Internet of Things เรียกย่อ ๆ ว่า IOT

โครงการระบบเตือนภัยน้ำท่วมและวัดปริมาณฝุ่นละออง  มีวัตถุประสงค์เพื่อสื่อสาร การแจ้งเตือนให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ ที่เสี่ยงต่อการเกิดอุทกภัยน้ำท่วม รวมถึงการแจ้งเตือนปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ  เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้รวดเร็ว และลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยคณะผู้จัดทำได้ทำการทดลอง และออกแบบเครื่องเตือนภัยน้ำท่วมซึ่งสามารถแจ้งเตือนการเกิดน้ำท่วมในระดับต่างๆได้ และได้นำเอาเทคโนโลยีของระบบ Smart Phone  โดยทำหน้าที่แทนระบบเซนเซอร์ ส่งค่าผ่าน Application Line เป็นตัวรับส่งข้อมูลของการเกิดน้ำท่วมในระดับต่างๆ และสามารถวัดปริมาณฝุ่นละอองที่เกินค่ามาตรฐานได้

ระบบเตือนภัยน้ำท่วม มีส่วนประกอบทั้งหมด 2 ส่วนคือ ส่วนของ Software โดยส่วนของ Hardware จะใช้ Kidbright เป็นอุปกรณ์ควบคุมและสั่งงานอุปกรณ์ โดยสังงานผ่าน RELAY ขนาด 10A 12V จำนวน 2 ชุด ควบคุมไซเรนขนาด 12 V จำนวน 1 ตัวและออดขนาด 12 V จำนวน 1 ตัว ทำให้สามารถสั่งงานหรือควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากได้ โดยส่งข้อมูลการเกิดน้ำท่วมในระดับต่างๆผ่าน Smart Phone ในรูปแบบของ Application Line  ได้ไม่ว่าจะอยู่จุดใด

ระบบวัดปริมาณฝุ่นละออง มีส่วนประกอบทั้งหมด 2 ส่วนคือ ส่วนของ Software โดยส่วนของ Hardware จะใช้เครื่องวัดปริมาณฝุ่นละออง เป็นตัวรับค่าว่ามีปริมาณฝุ่นละอองเท่าใด จึงส่งค่าให้ Kidbright ที่เป็นตัวแสดงผล เป็นตัวเลข

หลักการทำงานของระบบเตือนภัยน้ำท่วมอัจฉริยะ คือ เมื่อเกิดน้ำท่วม ระบบจะส่ง Line ผ่าน Smart Phone และจะมีไซเรนและเสียงออดแจ้งเตือนที่แตกต่างกันไปในน้ำระดับต่างๆด้วย โดยน้ำในระดับที่ 1 ระดับน้ำปกติ จะมี Lineและไซเรนในการแจ้งเตือน ระดับที่ 2 เฝ้าระวังและเตรียมอพยพ จะมี Line และเสียงออดในการแจ้งเตือน และระดับที่ 3 อพยพของออกจากพื้นที่ จะมี Line ไซเรนและเสียงออดในการแจ้งเตือน ซึ่งในระดับนี้ออดและไซเรนจะทำงานพร้อมกันตลอดอยู่เวลา

BN01 โครงงานเครื่องคัดแยกขยะอัจฉริยะ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตอารีย์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “เครื่องคัดแยกขยะอัจฉริยะ”

ผู้จัดทำ

  1. นายชูชัย     แสงช้าง                           ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 6/1
  2. นางสาวพิชญา     จันทร์แดง              ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 5/1
  3. นางสาวณัฐวรา     แซ่ม้า                    ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 5/1

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายวีรศักดิ์     เป้รอด
  2. นางสาว มติกา   ใจธรรม

สถานศึกษา:  โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารี ในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

บทนำ

ปัจจุบันมีการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการพัฒนาระบบระบบ เช่นระบบของ Smart Phone มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วมี Application Line ออกมา เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน ทำให้มนุษย์สามารถสร้าง และควบคุมอุปกรณ์ได้เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆได้สะดวกและรวดเร็ว เขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์และการออกแบบเพื่อให้สามารถเชื่อมโยงระหว่างกันและกันผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งเครือข่ายในลักษณะนี้เรียกว่า The Internet of Things หรือเรียกย่อ ๆ ว่า IOT

โครงงานเครื่องคัดแยกขยะอัตโนมัติ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการคัดแยกขยะแต่ละประเภทออกจากกัน ทางคณะผู้จัดทำได้ทดลองสร้างเครื่องแยกขยะในรูปแบบต่างๆรวมถึงการเลือกวัสดุในการสร้าง การออกแบบโครงสร้าง และการออกแบบระบบควบคุมการแยกขยะอัตโนมัติซึ่งมีตู้ควบคุมระบบถังขยะซึ่งสามารถเปิด – ปิดระบบด้วยอัตโนมัติโดยการทำงานของเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค

หลักการทำงานของเครื่องคัดแยกขยะอัตโนมัติ เริ่มจากเมื่อเทขยะลงในถังของเครื่องคัดแยกขยะอัตโนมัติขยะขนาดเล็กและเศษอาหารจะตกผ่านตะแกรงไปยังถังขยะทั่วไปที่อยู่ด้านล่างของเครื่อง   หลังจากนั้นเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค ตรวจจับว่ามีขยะระบบจะสั่งให้มอร์ปัดน้ำฝนและรางทำงาน ขยะจะเคลื่อนที่ไปตามรางในระยะเวลา 30 วินาที ถ้าเป็นขยะโลหะจะมีเซ็นเชอร์ตรวจจับโลหะ ขยะจะถูกปัดลงในถังขยะโลหะ ส่วนขยะที่ไม่ใช่โลหะจะเคลื่อนที่ไปตามราง ขยะที่เป็นแก้วน้ำขนาดเล็กจะลงในช่องที่ 1 และตกลงในถังขยะแก้วน้ำขนาดเล็ก แก้วกาแฟเคลื่อนไปตามรางและตกลงในช่องที่ 2 ลงในถังขยะแก้วกาแฟ ส่วนขวดน้ำพลาสติกจะเคลื่อนไปตามรางต่อ และตกลงในช่องที่ 3 ตกลงในถังขยะขวดน้ำ ขยะที่ไม่สามารถคัดแยกได้จะตกลงไปถังขยะทั่วไป ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย เมื่อขยะแต่ละชิ้นที่ตกลงไปในถังแต่ละใบจะมีการนับของเซนเซอร์อัลตร้าโซนิคแต่ละตัวในถังขยะแต่ละใบของถังขยะจะนับหนึ่งตามที่ตรวจพบว่ามีขยะหนึ่งชิ้นตกลงมา และถ้าเซนเซอร์ตรวจพบว่ามีขยะอยู่ตลอดเวลาคือถังขยะใบนั้นเต็มและจะมีการแจ้งเตือนผ่าน Application Line ทำให้ผู้ดูแลรู้ว่าเต็มถังขยะแล้ว เพื่อนำไปเทออกจากถัง และรู้จำนวนของขยะในถังด้วยว่าเท่าไร ถ้าเครื่องคัดแยกขยะมีการติดขัดระบบของเครื่องจะมีสตอปเปอร์ในการหยุดการทำงานของเครื่อง

AS18 โครงงานถุงมือช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา V.2 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 37 จังหวัดกระบี่

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน
“ถุงมือช่วยเหลือผู้พิการทางสายตา V.2”

ผู้จัดทำ

  1. เด็กหญิงชาลิสา     เหมนแก้ว     ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
  2. นางสาวนัตยา      แสงแก้ว          ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
  3. นางสาวกัญญารัตน์   จิตรานนท์  ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

อาจารย์ที่ปรึกษา   

  1. นายนพดล  พุทธพฤกษ์
  2. นางสาวตัสนีม หลังปุเต๊ะ

ชื่อสถาบัน                 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๗ จังหวัดกระบี่

สถานที่ติดต่อ              11  หมู่ 7 ตำบลเขาพนม  อำเภอเขาพนม  จังหวัดกระบี่  81140

เบอร์โทรติดต่อ 075-689030

บทนำ

คณะผู้จัดทำได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการใช้ชีวิตของผู้พิการทางสายตาจึงคิดโครงงานถุงมือช่วยผู้พิการทางสายตาอัจฉริยะ เพื่อช่วยบรรเทาอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการทางสายตาโดยนำเทคโนโลยีในยุคของ THAILAND 4.0 ในการคิดคำนวณและควบคุมการทำงานของเครื่องถุงมือช่วยผู้พิการอัจฉริยะโดยวิธีการแจ้งเตือนเมื่อจะเข้าใกล้วัตถุที่จะสัมผัสประมาณ 0.5-1 เมตร จะแจ้งเตือนโดยการสั่นให้ผู้พิการทางสายตารับรู้ถึงวัตถุที่จะสัมผัสพร้อมระบบเสียงที่จะแจ้งเตือนให้ผู้พิการทราบว่าควรไปในทิศทางใด แม้ว่าถุงมือสำหรับผู้พิการทางสายตาจะไม่สามารถใช้ทดแทนในการมองเห็นได้แต่มันก็ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเดินทางไปในสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัวโดยไม่ต้องกังวลว่าจะเดินชนถูกสิ่งของที่อยู่ใกล้ ๆ และสิ่งของที่ก่อให้เกิดอันตราย

จากการทดลองถุงมือช่วยผู้พิการทางสายตา สรุปได้ว่าถุงมือช่วยเหลือผู้พิการทางสายและตรวจจับสิ่งกีดขวางขณะที่ผู้พิการทางสายตาแกว่งมือและแสดงผลออกมาในรูปแบบของการสั่นสะเทือนและมีเสียงแจ้งเตือน ซึ่งเครื่องมือจะทำตามเงื่อนไขที่ผู้จัดทำต้องการเพื่อให้บรรลุตามจุดประสงค์และเป้าหมาย เหตุผลที่เครื่องมือสามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางได้นั้น เนื่องจากผู้พิการทางสายตาแกว่งมือไปโดนสิ่งกีดขวางทำให้เข้าใกล้รัศมีของ Ultrasonic sensor ทำให้เครื่องตรวจจับเกิดการทำงานขึ้น และถ้าหากผู้พิการทางสายตาต้องการความช่วยเหลือสามารถกดปุ่มขอความช่วยเหลือได้โดยจะมีแสงไฟและเสียงแจ้งเตือนให้ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงทราบและสามารถติดตามผู้พิการทางสายตาได้ด้วยเพราะมี GPS ในการติดตาม

AS15 โครงงานระบบเปิดปิดไฟอัตโนมัติ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง จังหวัดพัทลุง

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “ระบบเปิดปิดไฟอัตโนมัติ”

ผู้จัดทำโครงงาน

  1. นายโกสิทธิ์ แกนสังข์               ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
  2. เด็กชายพงษ์สิทธิ์ แท่นด้วง     ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
  3. เด็กชายสุริยะ หนวดงาม          ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายชนาเมธ แซ่เตียว
  2. นางสาวอุบลวรรณ เมืองแก้ว

สถานศึกษา: โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

บทคัดย่อ

การทำโครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาระบบเปิด  – ปิด เครื่องใช้ไฟฟ้าอัตโนมัติที่สามารถทำงานได้โดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้โดยไม่ต้องใช้สวิตซ์ ใช้การสั่งงานโดยบอร์ด KidBright ซึ่งเป็นสมองกลฝังตัวรูปแบบหนึ่ง ผ่านโปรแกรม KidBright IDE เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น ทำให้สามารถบริหารจัดการด้านพลังงานให้มีประสิทธิภาพสูงโดยไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายของผู้ใช้ และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของโรงเรียน โดยใช้ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและเซ็นเซอร์ตรวจวัดความเข้มแสง และใช้ระบบควบคุมการเปิด-ปิดพัดลมอัตโนมัติโดยการตั้งเวลาและใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิจากการทดสอบการทำงานของระบบ พบว่า สามารถใช้งานได้จริง โดยในการจัดทำโครงงานในครั้งนี้ได้พัฒนาต่อยอดให้สามารถควบคุมการเปิด – ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ โดยอัตโนมัติได้เช่นกัน เช่น กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้สำหรับหอนอน ห้องเรียน ห้องน้ำของโรงเรียน และอาจนำไปใช้ในอาคารบ้านเรือนหรือสำนักงานได้ และสามารถใช้เป็นต้นแบบในการพัฒนาหรือประยุกต์ให้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้ต่อไป

 

AS14 โครงงานระบบเปิดปิดน้ำอัตโนมัติ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง จังหวัดพัทลุง

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “ระบบเปิดปิดน้ำอัตโนมัติ”
Automatic switch on-off system of water

ผู้จัดทำโครงงาน

  1.  นายณัฐกิตธ์   ด้วงดล               ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
  2.  นางสาวจันทการต์ บุญณากร   ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
  3.  เด็กชายนที  พุทธพิทักษ์         ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายประดิษฐ์  สุรสีห์เรืองชัย
  2. นางสาวอุบลวรรณ เมืองแก้ว

สถานศึกษา: โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง

ความสำคัญและที่มา

โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง จัดการศึกษาให้กับผู้ด้อยโอกาส 10 ประเภท เปิดสอนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นโรงเรียนประจำ นักเรียนพักอาศัยอยู่ในโรงเรียนตลอดเวลา และประสบกับปัญหาเรื่องระบบน้ำในโรงเรียน  โดยเฉพาะที่หอนอนนักเรียน  เนื่องจากเป็นระบบปะปาภายใน  ต้องควบคุมการปิดเปิดตามเวลาที่โรงเรียนกำหนด  นั่นคือเปิดน้ำเวลา   05.00 น. ถึง  10.00 น. เวลา 11.00 น.ถึง 14.00 น.  และ17.00 น  ถึง  19.30 น.  อีกทั้งระบบสูบน้ำปะปาหลักมักเสียบ่อยครั้งทำให้เกิดปัญหาในการใช้น้ำสำหรับปฎิบัติกิจกรรมประจำวันของนักเรียน   และเป็นปัญหาอย่างยิ่งในเวลากลางคืนที่นักเรียนต้องใช้ห้องน้ำที่หอนอน   เพราะน้ำมีปริมาณจำกัด  จึงได้คิดหาทางแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ  โดยใช้การออกแบบและเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเกิดความสุขสำหรับทุกคน

จากการสืบค้นข้อมูล พบว่า ได้มีการใช้วิธีต่าง ๆ และระบบน้ำสำรองโดยใช้กลไกการเปิด-ปิดน้ำอัตโนมัติเป็นวิธีหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน

« Previous Page
Next Page »

Meta

  • Log in
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org

CyberChimps WordPress Themes

© โครงงานสมองกลฝังตัว