โครงงานโรงเรือนอัจฉริยะ

(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นายอนุวิทย์     หมื่นแล       ม.5/1
2. นางสาวสายน้ำผึ้ง    ลุงทูน          ม.5/1
3. นางสาวสุจารี    แสนหมี่        ม.5/2

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1. นางนิภาพร เกิดไทย
2. นายอิทธิพล ต๊ะศรี

สถานศึกษา :

โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่

บทนำ

โครงงานโรงเรือนอัจฉริยะ IoT เป็นโครงงานที่ต่อยอดจากโครงงานโรงเรือนเพาะปลูกอัตโนมัติที่ควบคุมด้วยบอร์ดสมองกลฝังตัว KidBright แบบอัตโนมัติ ที่ได้จัดทำในปีการศึกษา 2561 โดยนำความสามารถของบอร์ดสมองกลฝังตัว KidBright  ที่สามารถโปรแกรมให้สั่งการผ่านระบบอินเตอร์เนต (IoT= Internet of Thing) ได้ มาพัฒนาต่อเป็นโครงงานโรงเรือนอัจฉริยะ IoT เพื่อใช้ในการเพาะปลูกอัตโนมัติ สามารถสำรวจสภาวะอากาศภายในและสั่งการระบบปั๊มภายในโรงเรือนได้ด้วยมือถือได้ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งานหรือผู้บริโภคในปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูกให้มากยิ่งขึ้น

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

04-โครงงานโรงเรือน IoT showandshare

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานระบบเตือนภัยน้ำท่วมอัจฉริยะ
(Flood Warning System)
(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นายกฤตกร  ภาคทอง
2. นายชนกานต์  พินิจใหม่
3. นายศักดิ์ดา  แพงศรี

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1. นางสาวพลอยไพลิน  นาโพธิ์ตอง

2. นางสาวสุกัญญา  คำสุทธะ

สถานศึกษา :  โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดอุดรธานี

บทนำ

การจัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์ครั้งนี้  ผู้จัดทำมีวัตถุประสงค์  คือ  1) เพื่อสร้างเครื่องมือที่ใช้สำหรับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม “ระบบเตือนภัยน้ำท่วมอัจฉริยะ  (Flood warning system)” ได้
2) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมที่มีความเหมาะสมแก่ผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน  โดยจะมีการแจ้งเตือนผ่าน  3  ช่องทาง  ได้แก่  การแจ้งเตือนผ่านทางป้ายไฟวิ่ง LED  การแจ้งเตือนผ่านทางสัญญาณไฟแจ้งเตือน  และการแจ้งเตือนผ่านระบบ Line (Line Notify)  ซึ่งมีการตั้งสมมติฐานไว้ว่า  เครื่องมือที่ใช้สำหรับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม “ระบบเตือนภัยน้ำท่วมอัจฉริยะ  (Flood warning system)” สามารถส่งการแจ้งเตือนผ่าน  3  ช่องทาง  ได้แก่  การแจ้งเตือนผ่านทางป้ายไฟวิ่ง LED  การแจ้งเตือนผ่านทางสัญญาณไฟแจ้งเตือน  และการแจ้งเตือนผ่านระบบ Line (Line Notify)  ได้สำเร็จ

สรุปผลการดำเนินการ

1. สามารถประดิษฐ์เครื่องมือที่ใช้สำหรับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม “ระบบเตือนภัยน้ำท่วมอัจฉริยะ (Flood warning system)” ได้สำเร็จ  สามารถใช้งานได้จริง  และมีประโยชน์ต่อการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม  โดยอาศัยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
2. เครื่องมือที่ใช้สำหรับการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วม “ระบบเตือนภัยน้ำท่วมอัจฉริยะ (Flood warning system)”  สามารถส่งการแจ้งเตือนผ่าน  3  ช่องทาง  ได้แก่  การแจ้งเตือนผ่านทางป้ายไฟวิ่ง LED  การแจ้งเตือนผ่านทางสัญญาณไฟแจ้งเตือน  และการแจ้งเตือนผ่านระบบ Line (Line Notify)  ได้สำเร็จ

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงาน เครื่องแจ้งเตือนการลืมปิดน้ำ
สำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน
(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำโครงงาน

1. นางสาวเกวรินทร์ ชวัชชัยปิติ
2. นางสาวศิภาพร ศรีโยธา
3. นายศุทธวีร์ ธาราวรณ์

ครูที่ปรึกษา     

1. 1. นายนคร ปราบมนตรี
   2. นายศุภชัย กวาวสาย

บทคัดย่อ
โครงงานเครื่องแจ้งเตือนการลืมปิดน้ำสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินจัดทำขึ้น เนื่องจากในคนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ไม่สามารถได้ยินเสียงพูดและเสียงปกติทั่วไป ทำให้ไม่ได้ยินเสียงที่เกิดขึ้น เช่น เสียงน้ำไหล เสียงน้ำล้นหรือเสียงการทำงานของปั้มน้ำ ผู้จัดทำ ซึ่งเป็นนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ก็ประสบกับปัญหานี้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังไม่สามารถใช้อุปกรณ์ เครื่องใช้ ที่มีการแจ้งเตือนด้วยเสียงได ผู้จัดทำจึงมีความต้องการประดิษฐ์ อุปกรณ์ที่สามารถแจ้งเตือนโดยใช้ สัญญาณไฟแจ้งเตือนหรือการแจ้งด้วยข้อความผ่านทาง LINE เมื่อมีการลืมเปิดน้ำทิ้งไว้ เพื่อให้การปฏิบัติกิจวัตรประจำวันมีความสะดวก และมีปลอดภัยมากขึ้น จึงได้นำความรู้เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และบอร์ดสมองกลฝังตัว KidBright มาใช้ในการออกแบบและจัดทำเครื่องแจ้งเตือนการลืมปิดน้ำสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน และนำมาทดลองใช้ พบว่า

1. การทำงานของระบบตรวจจับความเคลื่อนไหว ระบบตรวจจับเสียง ระบบตรวจวัดระดับน้ำ ระบบการแจ้งเตือน ระบบ IOT และระบบการทำงานตามเวลาของ
เครื่องแจ้งเตือนการลืมปิดน้ำสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยินผลการทดสอบระบบต่างๆสามารถทำงานได้ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด
2. ความพึงพอใจของผู้ที่ทดลองใช้เครื่องแจ้งเตือนการลืมปิดน้ำสำหรับผู้บกพร่องทางการได้ยิน จำนวน 20 คน พบว่า มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.24 อยู่ในระดับ มาก

Clip VDO

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

โครงงานเครื่องไล่นกอัตโนมัติ

(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นายนพณัฐ แก้วเพชร
2. นายจะเด็ด แก้วศรี

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1. นางสาวพิชญา สุภาสวัสดิ์
2. นางสาวสุไฮลาร์ ละเตะ

สถานศึกษา :

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสงขลา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ

บทนำ

ปัจจุบัน นกหลายชนิดได้สร้างความเสียหายให้กับอาคาร สินค้า และผลผลิตทางการเกษตรมากมาย ซึ่งมักจะมาอาศัยตามอาคารต่าง ๆ และถ่ายมูลไว้ ซึ่งนอกจากจะสร้างความสกปรกแก่บริเวณอาคารและส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว ยังเป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรคหลายชนิดมาสู่มนุษย์ เช่น โรคปอดอักเสบ, โรคปอดบวม และโรคไข้หวัดนก เป็นต้น ทำให้เสียสุขภาพ เงินเสีย เสียเวลาในการดูแลรักษา หรืออาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสงขลา  จัดการศึกษาให้กับผู้ที่บกพร่องทางการได้ยิน เปิดสอนระดับชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นโรงเรียนประจำ นักเรียนพักอาศัยอยู่ในโรงเรียนตลอดเวลา และประสบกับปัญหามีนกจำนวนมากมาอาศัยอยู่ในโรงเรียน โดยเฉพาะบริเวณโรงอาหาร และอาคารอเนกประสงค์ ทำให้บริเวณดังกล่าวไม่มีความสะอาด ไม่ถูกสุขลักษณะ เสื่อมโทรม และอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ และบริเวณโรงเรียนมีการปลูกพืช ดอกไม้ ผัก ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย จึงต้องหาวิธีการขับไล่ไม่ให้นกมาอาศัยอยู่

รายงานฉบัยสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)

โครงงานเรื่องขี้ ๆ ของไส้เดือน

(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นายนูรีฟุรกรณ์ สะโอง
2. นายปรเมษฐ์ หนูนุ่น

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1.นางสาวพิชญา สุภาสวัสดิ์

2. นายสมคิด โชโต

สถานศึกษา :

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสงขลา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ

บทนำ

1.1 ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

ในสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ตกต่ำลง ถือได้ว่าเป็นยุคข้าวยากหมากแพงสินค้าทั้งอุปโภคบริโภคมีราคาเพิ่มมากขึ้น ประเทศไทยมีสินค้าทางด้านการเกษตรส่งออกไปยังประเทศต่างๆก็มีต้นทุนการผลิตสูงมากขึ้น โดยเฉพาะปุ๋ยที่เป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตไม่ว่าจะเป็นเคมี ปุ๋ยอินทรีย์ที่มีการขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด สมาชิกในกลุ่มจึงเกิดแนวคิดว่าไส้เดือนสายพันธุ์ แอฟริกัน ไนท์ ครอเลอร์ ( African Night Crawler) หรือ AF  เป็นไส้เดือนขนาดใหญ่ ลำตัวมีสีน้ำตาลแดงปนเทาสามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว มีความสามารถในการย่อยสลายขยะในปริมาณมากได้อย่างรวดเร็ว เป็นไส้เดือนดินสายพันธุ์ในเขตร้อน ซึ่งจะชอบอุณหภูมิที่ค่อนข้างร้อน อาศัยอยู่บริเวณผิวดิน กินเศษซากอินทรียวัตถุที่เน่าสลายเป็นอาหาร  สามารถเป็นปุ๋ยที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืชได้ เพื่อจะได้ช่วยลดต้นทุนการผลิตได้อีกทางหนึ่ง

1.2 วัตถุประสงค์

1.2.1 เพื่อศึกษาการทำปุ๋ยจากมูลไส้เดือน ( African Night Crawler) หรือ AF

1.2.2 เพื่อศึกษาวิธีการเขียนคำสั่งบอร์ด KidBright

1.2.3 เพื่อออกแบบและสร้างระบบนิเวศที่เหมาะแก่ไส้เดือน

 1.3 สมมติฐาน

          ปุ๋ยมูลไส้เดือนสายพันธุ์แอฟริกัน ไนท์ ครอเลอร์ ( African Night Crawler) หรือ AF มีคุณภาพดีกว่าปุ๋ยอินทรีย์ชนิดอื่น

1.4 ขอบเขตของโครงงาน
          1.4.1  ระยะเวลาในการทำโครงงาน เดือนกรกฎาคม  พ.ศ. 2563 ถึง เดือนสิงหาคม 2563
          1.4.2  ขอบเขตของระบบ
1.4.2.1 การใช้เซนเซอร์ต่างๆ
1.4.2.2  มีการรดน้ำให้ความชุ่มชื้นแก่ดิน
1.4.2.3  สามารถเพิ่มจำนวนเซนเซอร์แต่ละชนิดได้ตามความเหมาะสม

1.5 ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน
          1.5.1  นักเรียนเรียนรู้ขั้นตอนการทำปุ๋ยจากมูลไส้เดือน ( African Night Crawler) หรือ AF
1.5.2  นำปุ๋ยจากมูลไส้เดือน ( African Night Crawler) หรือ AF ไปขายเป็นรายได้แก่นักเรียน
1.5.3  นําฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในปัจจุบันมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)

โครงงาน Smart farm เรื่องของดาวเรือง

(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นายพีรพล อินนุ้ย
2. นายรุชดี ปะหวัง
3. นายสุธณัติน์ ชูงาม

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1. นางสาวพิชญา สุภาสวัสดิ์

2. นางสาวสุไฮลาร์ ลาเตะ

สถานศึกษา :

โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดสงขลา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ

บทนำ

           ดอกดาวเรืองถือเป็นพืชเศรษฐกิจในชุมชน คนส่วนใหญ่มักนำมาใช้ประโยชน์ ทั้งการนำไปทำ พวงมาลัย บายศรี และนำไปตกแต่งสถานที่ เห็นได้จากวันคล้ายวันพระราชสมภพของในหลวงรชักาลที่ 9 และ มีการเพาะปลูกกันอย่างแพรห่ลาย อีกทั้งทางคณะผู้จัดทำได้ศึกษาการทา ธุรกิจค้าขายดอกดาวเรืองจึงพบเห็น ปัญหาได้เป็นอย่างดี คือ กระบวนการในการปลูกและรดน้ำ ดอกดาวเรอืงนนั้ต้องใช้เวลานานและแรงงานมาก หากจ้างแรงงานก็ต้องจ่ายค่าจ้างเพิ่มเติมทำให้ไม่คุ้มกับต้นทุน ประกอบกับลักษณะการรดน้ำ ด้วยมือคนนั้น ทำให้เกิดความไม่แม่นยำ ทางคณะผู้จัดทำจึงได้ตระหนักถึงปัญหาและความสำคัญ จึงมีความคิดที่จะนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้ไขปัญหา โดยจัดทำ Smart Farm เรื่องของดาว(เรือง) ที่สามารถรดน้ำของดอกดาวเรืองตามเวลาที่เหมาะสมและสามารถควบคุมแสงแดดได้อย่างเหมาะสม  ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในเรื่องของเวลา แรงงาน และคุณภาพของผลผลิต

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)

โครงงาน Smart Classroom for Deaf
(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ
1. นางสาววรินภรณ์  ทองจำนงค์
2. นางสาววรรณวิษา  ศรีมา
3. นางสาวปทิตตา  พลอยศรี

อาจารย์ที่ปรึกษา:
1. นางสาวพินทุมดี  สิงหเสนี
2. นางสาวนฤมล  สุวามิน
3. นางปานจรี  เคนศรี
4. นายชิดชัย  สะเทียนรัมย์
5. นายวศิน  แสงสิน

สถานศึกษา :   โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์

บทนำ

โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์ เป็นโรงเรียนที่สอนนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ทำให้ไม่สามารถใช้สัญญาณเสียงในการเปลี่ยนชั่วโมงเรียนได้ ครูจะใช้ระบบสอนเวียน จากการสังเกตมีบางวิชาที่ครูผู้สอน สอนเกินเวลาที่กำหนด และบางรายวิชาสอนไม่ถึงเวลาที่กำหนดก็ปล่อยนักเรียน นักเรียนจึงเปลี่ยนห้องเรียนไม่พร้อมกัน ทำให้การเรียนในวิชาถัดไปไม่ตรงเวลา และพบปัญหาสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ พอถึงเวลาปฏิบัติกิจกรรมร่วมกันทั้งโรงเรียน เช่น การทำความสะอาด ภาคเช้า และภาคกลางวัน นักเรียนไม่ค่อยปฏิบัติกิจกรรม หรือปฏิบัติไม่พร้อมกัน ครูเวรประจำวันกดออดสัญญาณไม่ตรงเวลา หรือลืมกดออดสัญญาณ ทำให้นักเรียนไม่ค่อยได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติกิจกรรมในช่วงเวลาที่กำหนด และเพื่อเป็นการประหยัดพลังงานไฟฟ้า จากการที่คณะผู้จัดทำได้มีโอกาสศึกษาการใช้บอร์ด KidBright ทำให้ได้แนวคิดในการประยุกต์ใช้บอร์ด KidBright ในการพัฒนาระบบ Smart Classroom for Deaf ซึ่งระบบจะแสดงสัญญาณไฟและข้อความประกาศให้นักเรียนและครูได้ปฏิบัติกิจกรรมร่วมกัน ตามเวลาที่ทางโรงเรียนกำหนด นอกจากนี้ระบบจะทำการเปิดหลอดไฟส่องสว่างอัตโนมัติ เมื่อแสงสว่างในห้องไม่เพียงพอ และจะทำการปิดหลอดไฟส่องสว่างอัตโนมัติ เมื่อแสงสว่างในห้องเพียงพอและเหมาะสม โดยครูสามารถบังคับการเปิด-ปิดของหลอดไฟส่องสว่างได้ด้วยตนเองผ่านระบบ KidBright IoT อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งระบบ Smart Classroom for Deaf นี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอนและช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าให้กับโรงเรียน

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO  

มีคำบรรยายแทนเสียง (Close Caption : CC)

โปสเตอร์ (PDF File)