โครงงานแบบจำลองบ้านป้องกันดิน หิน ถล่มและน้ำท่วม
ระดับ มัธยมศึกษาตอน ปลาย
ประเภท โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและชุมชน

ผู้จัดทำ

นางสาวสายสุนีย์ สายชลศรีจินดา
นางสาวรุ่งไพลิน พะแหละหน่อแฮะ
นางสาวอาภากร บุญประสิทธฺ์
อาจารย์ที่ปรึกษา:

นางนิภาพร เกิดไทย
นายอิทธิพล ต๊ะศรี

สถานศึกษา :

โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร

ความเป็นมา

จากสถานการณ์ “ดินถล่ม” ที่ปัจจุบันจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสภาวะอากาศที่ผันแปร และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติของมนุษย์ เป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดดินถล่มที่รุนแรงและมีอัตราเพิ่มมากขึ้นนอกเหนือจากการเกิดโดยธรรมชาติ ซึ่งการเกิดดินถล่มในประเทศไทย มีปัจจัยหลักคือ ฝนตกหนักต่อเนื่อง มีปริมาณน้ำฝนสะสมเป็นจำนวนมาก ผนวกกับปัจจัยทางสังคมเรื่องจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น แต่ปริมาณทรัพยากรธรรมชาติมีจำกัด ทำให้ชุมชนบางแห่งต้องขึ้นไปใช้ประโยชน์ที่ดินบนที่สูงชัน ทั้งการสร้างที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน มีการตัดไหล่เขาเป็นเส้นทางคมนาคม ตัดไม้เพื่อสร้างบ้าน แต่ไม่ได้มีการป้องกันดินไหล เมื่อฝนตกหนัก หน้าดินที่ขาดสิ่งยึดเกาะทำให้ดินโคลนไหล ดินถล่ม หรือน้ำป่าไหลหลาก แต่ละครั้งเกิดความสูญเสียทั้งชีวิตที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน แม้ภาครัฐจะเร่งช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทันต่อเหตุการณ์ และหลังเกิดเหตุการเยียวยาก็มักใช้เวลานาน (มูลนิธิชัยพัฒนา) ผู้จัดทำจึงได้จัดทำแบบจำลองบ้านป้องกันดิน หินถล่มและน้ำท่วม โดยการนำความรู้ในการอบรมการใช้งานบอร์ดสมองกลฝังตัว KidBright และบอร์ด iKB-1 ร่วมกับเซ็นเซอร์ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในการจัดทำโครงงานนี้ขึ้น เพื่อให้สามารถป้องกันบ้านจากภัยพิบัติดินถล่มและน้ำท่วม และยังสามารถแจ้งเตือนระดับน้ำที่ถึงเกณฑ์ที่จะท่วมผ่านทางแอพพลิเคชั่น Line ของผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านและผู้ที่สามารถมาช่วยเหลือได้ผู้จัดทำจึงจัดทำแบบจำลองบ้านป้องกันดิน หินถล่มและน้ำท่วมเพื่อป้องกันผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านและแจ้งเตือนเฝ้าระวังภัยน้ำท่วมได้

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)

โครงงานอุโมงค์ฆ่าเชื้อสู้ภัยโควิด
ระดับ มัธยมศึกษาตอน ต้น
ประเภท โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและชุมชน

ผู้จัดทำ

นางสาวรักษิณา เสจาน
นางสาววิลาสินี แซ่ย่าง
เด็กหญิงบุญญาลักษณ์ รักสีขาว

อาจารย์ที่ปรึกษา:

นางสาวสมฤทัย ไชยขันธ์
นางกรรณิการ์ สีนวลตา

สถานศึกษา :

โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร

ความเป็นมา

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในปีการศึกษา 2564 ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเรียนการสอนในโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร ทั้งการจัดการเรียนการสอนและการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โรงเรียนได้มีมาตรการในการป้องกันและเฝ้าระวังนักเรียนโดยทุกเช้าจะมีการวัดอุณหภูมิ พ่นยาฆ่าเชื้อ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ในระยะเริ่มต้นโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทรได้ใช้ที่พ่นยาบรรจุน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ฉีดพ่นให้นักเรียนและผู้มาติดต่อราชการ และบุคลากรเป็นผู้กดปุ่มเปิดเครื่องพ่นยาให้ ซึ่งต้องมีผู้ดูแลประจำจุดตลอดเวลา ทำให้เสียกำลังคนในการทำงาน เพื่อลดการใช้กำลังคนในการทำงานของระบบการเฝ้าระวังการแพร่ระบาด ทางผู้จัดทำโครงงานจึงคิดพัฒนาระบบการทำงานในส่วนนี้ขึ้น และเพิ่มการทำงานแจ้งเตือนจำนวนผู้ใช้ระบบผ่านแอพลิเคชัน line ให้กับผู้เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำสถิติประจำวันในระบบการเฝ้าระวังด้วย โดยการจัดทำโครงงานครั้งนี้ได้นำความรู้จากการอบรมการใช้งานบอร์ดสมองกลฝังตัว Kidbright มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทางโรงเรียนและผู้ที่มีความสนใจนำระบบนี้ไปใช้ประโยชน์

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)

 โครงงาน เปิดล่ะกะปิด
ระดับ มัธยมศึกษาตอน ปลาย
ประเภท โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและชุมชน

ผู้จัดทำ

นางสาวพิมพกานต์ สายพฤกษ์
นางสาวพรรณวดี เพิ่มพูล
นางสาวขวัญจิรา วงศ์ษาสิงห์

อาจารย์ที่ปรึกษา:

นางพิทย์ระมัย วรสาร
นายณัฐดนัย เครือวัลย์

สถานศึกษา :

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๔ จังหวัดอำนาจเจริญ

ความเป็นมา

โลกในศตวรรษที่ ๒๑ ถือเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีความ แตกต่างจากศตวรรษที่ ๑๙ และ ๒0 อย่างสิ้นเชิง เศรษฐกิจ อุตสาหกรรมในอดีต ได้ถูกแทนที่ด้วยเศรษฐกิจและบริการ ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ความรู้และวัตกรรม และไม่ว่าจะหันไปทางใด ก็จะเห็นการนาเทคโนโลยีไปใช้ในการเพิ่มผลผลิต เป็นยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษย์ ทำให้การดำเนินชีวิตเปลี่ยนแปลงไป ทั้งทางด้านสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมจากสภาพปัญหา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๔ จังหวัดอำนาจเจริญ มีการนำเทคโนโลยีด้านพลังงานฟฟ้ามาใช้ในการอำนวยความสะดวกให้เกิดขึ้นในโรงเรียน แต่ในขณะเดียวกันก็มีปัญหาด้านการใช้ทคโนโลยี เช่น การลืมเปิด-ปิดไฟ ในสถานที่ต่างในโรงเรียน เช่น หอประชุม ห้องเรียนจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้น คณะผู้จัดทำโครงงานจึงมีแนวคิดที่อยากจะอำนวยความสะดวกและลดภาระการเปิด – ปิดไฟ เปิดใช้เฉพาะในจุดที่มีการใช้งาน จึงได้ศึกษารูปแบบคำสั่ง ออกแบบสร้างแบบจำลองอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ควบคุมการเด – ปิดไฟฟ้าโดยอัตนมัติ เพื่อช่วยให้โรงเรียนประหยัดค่าใช้จ่ายและพลังงานไฟฟ้าให้เกิดประสิทธิภาพและให้เกิดความคุ้มค่าในอนาคต

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)

โครงงานเครื่องแยกเหรียญอัตโนมัติ
ระดับ มัธยมศึกษาตอน ต้น
ประเภท โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและชุมชน

ผู้จัดทำ

เด็กชายรุ่งตะวัน ทาคำวงษ์
นางสาวเกษสุดา ทวะชารี
นางสาวนันธิดา สาแก้ว

อาจารย์ที่ปรึกษา:

นางสาวพรพิมล ไพรสณฑ์
นายชูศักดิ์ กมลฤกษ์

สถานศึกษา :

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๔ จังหวัดอำนาจเจริญ

ความเป็นมา

ในปัจจุบันพ่อค้าแม่ค้าที่ใช้เหรียญ ๑ บาท ๒ บาท ๕ บาท และ ๑- บาท ในการค้าขาย จึงเกิดปัญหาตามมาคือมีเหรียญปะปนกันจำนวนมากจึงทำให้เวลาที่จะทอนเงินให้ลูกค้ามีความล่าช้า ลูกค้าบางคนที่เร่งรีบ จึงไม่พอใจ ดังนั้นคณะผู้จัดท่จึงริเริ่มคิดและท่โครงงาน เรื่องเครื่องแยกเหรียญอัตโนมัติขึ้นมาให้สามารถแยกเหรียญ ๑ บาท ๒ บาท ๕ บาท และ ๑0 บาท เพื่อมาช่วยเอื้ออ่านวยความสะดวกในการคัดแยกเหรียญ ทำให้การแยกเหรียญนั้นไม่ยุ่งยากและเสียเวลา ง่ยต่อการใช้งาน ง่ยต่อการเก็บ ทำให้พ่อค้า แม่ค้าไม่เสียลูกค้า ลูกค้าจะประทับใจในการบริการ โดยหลักการทำงานของเครื่องแยกเหรียญอัตนมัติคือเขียนโปรแกรมลง Kid Birght เมื่อใส่เหรียญลงรางไปแล้ว เหรียญนั้น ๆ แต่ละช่องจะมีเซ็นเชอร์ตรวจจับอยู่ เมื่อตรวจจับได้แล้วแสดงผลออกมาว่ามีจำนวนเหรียญอยู่กี่เหรียญ

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)

โครงงานระบบแจ้งเตือนการขับขี่รถจักรยาน สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
ระดับ มัธยมศึกษาตอน ต้น
ประเภท โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและชุมชน

ผู้จัดทำ
นางสาววรรณวิษา ศรีมา
นางสาววรินดา สุขยานันท์
นางสาวณัชชามน ชาวบัวขาว

อาจารย์ที่ปรึกษา:
นางสาวประพิณญา ทิพย์แสง
นายพิษณุ พลเยี่ยม
นางสาวนฤมล สุวามิน

สถานศึกษา :

โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์

ความเป็นมา

ปัจจุบันการขับขี่รถจักรยานของคนในสังคมสามารถช่วยในเรื่องของการอำนวยความสะดวก ในการใช้ชีวิตไม่ว่าจะเป็น การขนส่ง การเดินทาง การประกอบอาชีพ การออกกำลังกาย เช่น ในยุคปัจจุบันคนทั่วไปหันมาออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยาน และยังมีกลุ่มคนที่มีความบกพร่อง ทางการได้ยินใช้วิธีนี้ในการออกกำลังกายด้วย แต่การขับขี่จักรยานของบุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน อาจจะเป็นอันตรายต่อตนเอง และบุคคลอื่นบนท้องถนน เพราะบุคคลที่มี ความบกพร่องทางการได้ยินไม่ได้ยินเสียงรอบข้าง ซึ่งรถจักรยานไม่มีระบบแจ้งเตือนหรืออำนวยความสะดวกในการขับขี่ คณะผู้จัดทำซึ่งเป็นบุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน จึงได้คิดค้น หาวิธีในการเตือนภัยหรืออำนวยความสะดวกในการขับขี่รถจักรยาน สำหรับบุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เพื่อให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นโดยใช้บอร์ด KidBright ในการต่อเซนเซอร์วัดระยะวัตถุที่เข้ามาใกล้ จะแจ้งเตือนโดยแสงไฟ แจ้งเตือนผ่านจอ LED และ แจ้งเตือนโดยการสั่น นอกจากนี้ยังมีเซนเซอร์วัดความดังของเสียง ถ้าด้านหลังมีเสียงแตรรถเซนเซอร์จะเตือนภัยโดยแสงไฟ และ แจ้งเตือนผ่านจอ LED ทำให้การขับขี่รถจักรยาน ของบุคคลที่มีความบกพร่องทางการได้ยินปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)

โครงงานแว่นตาเตือนสิ่งกีดขวางสำหรับ บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น
ระดับ มัธยมศึกษาตอน ต้น
ประเภท โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและชุมชน

ผู้จัดทำ
เด็กหญิงอแมนด้า วงศ์สรณะ
นางสาวกนกวรรณ คงมั่น
เด็กหญิงกวิตา สุดแสงจันทร์

อาจารย์ที่ปรึกษา:
นายชิดชัย สะเทียนรัมย์
นายวศิน แสงสิน
นางสาวนฤมล สุวามิน

สถานศึกษา :

โรงเรียนเศรษฐเสถียร ในพระราชูปถัมภ์

ความเป็นมา

ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ (2552) บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น ได้แก่บุคคลที่สูญเสียการเห็นตั้งแต่ระดับเล็กน้อยจนถึงตาบอดสนิท ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทดังนี้ 1.คนตาบอด หมายถึง บุคคลที่สูญเสียการเห็นมาก จนต้องใช้สื่อสัมผัสและสื่อเสียงหากตรวจวัดความชัดของสายตาข้างดีเมื่อแก้ไขแล้ว อยู่ในระดับ 6 ส่วน 60 (6/61) หรือ 20 ส่วน 200 (20/200) จนถึงไม่สามารถรับรู้เรื่องแสง 2.คนเห็นเลือนราง หมายถึงบุคคลที่สูญเสียการเห็น แต่ยังสามารถอ่านอักษรตัวพิมพ์ขยายใหญ่ด้วยอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ หรือเทคโนโลยีสิ่งอํานวยความสะดวก หากวัดความชัดเจนของสายตาข้างดีเมื่อแก้ไขแล้วอยู่ในระดับ 6 ส่วน 18 (6/18) หรือ 20 ส่วน 70 (20/70) ปัจจุบันบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น สามารถใช้ชีวิตได้โดยอาศัยไม้เท้าซึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยเดิน ช่วยนำทาง สร้างความรับรู้ในทางต่างระดับหรือสิ่งกีดขวางที่อยู่ตรงหน้า เพราะบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น ไม่อาจทราบได้ว่าทางข้างหน้ามีลักษณะเป็นเช่นไร ซึ่งทำให้เป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น ในบางรายจำเป็นต้องพึ่งพาคนอื่น จนกระทั่งตนเองไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้อย่างคนปกติ การใช้ไม้เท้าสำหรับคนตาบอดจึงช่วยแก้ปัญหาบางประการที่เกี่ยวข้องกับการเดินหรือการใช้ชีวิตประจำวันของคนตาบอดได้ โดยไม้เท้าคนตาบอดเป็น อุปกรณ์ช่วยเดิน ที่จำเป็นสำหรับคนตาบอดที่ช่วยให้การดำเนินชีวิตในสังคมนั้นง่ายขึ้นแต่การใช้ไม้เท้าในการเดินยังมีอุปสรรคเพราะยังมีบุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น บางรายเกิดอุบัติเหตุจากสิ่งกีดขวางที่อยู่ระดับเหนือเอวขึ้นไป การใช้ไม้เท้าในการเดินจะสร้างความรับรู้ในทางต่างระดับหรือสิ่งกีดขวางอยู่ระดับเอวเท่านั้นแต่ถ้ามีสิ่งกีดขวางเหนือระดับเอวขึ้นไปจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ คณะผู้จัดทำ จึงได้คิดค้นหาวิธีในการเตือนภัยหรืออำนวยความสะดวกในการเดินของบุคคล ที่มีความบกพร่องทางการเห็น เพื่อให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นโดยใช้บอร์ด KidBright ในการต่อเซนเซอร์วัดระยะวัตถุ ติดเข้ากับแว่นตา เซนเซอร์วัดระยะจะแจ้งเตือนวัตถุที่เข้ามาใกล้ โดยเสียง และ สั่น ทำให้ บุคคลที่มีความบกพร่องทางการเห็น รับรู้ได้และจะใช้ชีวิตได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)