โครงงานนับจำนวนคนเข้าใช้บริการห้องสมุด

ที่มาและความสำคัญ

ปัจจุบันเทคโนโลยีมีความสำคัญมากในชีวิตประจำวันเพื่อให้สะดวกสบายมากขึ้นในการดำรงชีวิตเทคโนโลยีได้เจริญก้าวหน้าอย่างมาเพื่อพัฒนาให้มีความสะดวกสบายของมนุษย์สมัยนี้เทคโนโลยีมาการมาประใช้ในชีวิตประจำวันของเราทุกๆด้าน เช่น การสื่อสารผ่านทางโทรศัพท์มือถือปัจจุบันระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการดำเนินงาน ทำให้การเข้าถึงข้อมูลมีความรวดเร็ว การติดต่อสื่อสารมีประสิทธิภาพ และช่วยประหยัดต้นทุนในการดำเนินงานด้านต่างๆ ของหน่วยงานที่เชื่อมต่อในระบบอินเทอร์เน็ต เช่น การรับส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การมีเว็บไซต์สำหรับเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ เป็นต้น แม้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศจะมีประโยชน์และสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเสี่ยงสูง และอาจก่อให้เกิดภัยอันตรายหรือสร้างความเสียหายต่อการปฏิบัติราชการได้เช่นกัน

ดังนั้น โรงเรียนนัทบุรีวิทยา พระปริยัติธรรม จึงจัดทำโครงงานนี้ขึ้นมาเพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โรงเรียนนัทบุรีวิทยาพระปริยัติธรรมมีห้องสมุดของโรงเรียนในเมื่ออยากทราบจำนวนคนเข้าใช้บริการห้องสมุด ว่ามี่นักเรียนสามเณรเข้าใช้บริการห้องสมุดกี่คนต่อวันเพื่อบันทึกสถิติว่ามีคนเข้าใช้ประมาณกี่คนต่อ วัน/เดือน/ปี

วัตถุประสงค์

1.  เพื่อทราบจำนวนสามเณรที่เข้าใช้บริการห้องสมุด เเละบันทึกสถิติในคอมโดยdata
2. เพื่อนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เเละมาปรับใช้ภายในโรงเรียน

วัสดุอุปกรณ์

1.กล้อง  1 ตัว     

2.รีเรย์   1 ตัว

3.sansor เเสง  3 ตัว

4. หลอดไฟ

5. sansor อินฟาเรต

  6. สวิตซ์ 2ตัว 

7.Gogoboard

8.Raspberry pi

ผังโครงสร้าง

หลักการทำงาน

โครงงานนี้จะมีเชนเชอร์ทั้งหมด 5 ตัว สวิตซ์ 2 ตัวเชนเชอร์ประตูจะมี 2 เชนเชอร์ สวิตซ์ 2 ตัว โดยหลักทำงานเมื่ิอโดนเชนเชอร์ ตัวที่ 3 ท่ีทำงานสอดคล้องกับกล้องที่ส่งภาพถ่ายผ่านทาง telegram เมื่อโดนเชนเชอร์ 3 กล้องจะถ่ายภาพส่งภาพถ่ายผ่านทาง telegramจะทำให้ประตูเปิดเเล้วไปโดนสวิตซ์ตัวที่ 5 จะทำให้ประตูเปิดค้างเป็นเวลา 3 วินาทีเมื่อประตูปิดประตูจะโดนสวิตซ์ตัวที่ 4 เเลัวประตูจะหยุดทำงานเเละ เชนเชอร์ 6 ก็คลายกับเชนเชอร์ตัวที่ 3 เเต่จะไม่มีกล้องถ่ายภาพ  เชนเชอร์นับจำนวนจะทำงานสอดคล้องกับหลอดไฟเเละเชนเชอร์เเสงเมื่อโดนเชนเชอร์ตัวที่ 1 ไปหารเชนเชอร์ตัวที่ 2 จะทำให้นับจำนวนเกิดขึ้นเเละเเสดงผลผ่านทาง  Ggoboard  ตามจำนวนคนที่เข้าใช้เเละเมื่อโดนเชนเชอร์ตัวที่ 2 ไปหาเชนเชอร์ตัวที่ 1 จะนับลดตามคนที่ออกหลอดไฟจะทำงานก็ต่อเมื่อมีคนเข้า 1 คนเเต่จะขึ้นอยู่ที่เชนเชอร์เเสงถ้าเชนเชอร์เเสงมากกว่า 500 จะทำให้หลอดไฟไม่ทำงาน ถ้าเชนเชอร์น้อยกว่า 500 จะทำให้หลอดไฟทำงาน

CODE คำสั่งการทำงาน

ผลของการทดสอบ

ใช้ได้จริง

รูปการทำงาน

วีดีโอผลงาน

คณะผู้จัดทำโครงงาน

1.  ส.ณ.ณัฐวัฒน์  เลิศเตชะพัฒน์

อาจารย์ที่ปรึกษา

นาย ศิวะนันท์  บัวนิติสกุล                                   สอนวิชา การงานอาชีพ

โทรศัพท์                              E-mail

โรงเรีนนันทบุรีวิทยาพระปริยัติธรรม

ที่อยู่ของโรงเรียน             วัดช้างค้ำวรวิหาร  ตำบลในเวียง  อำเภอ เมือง  จังหวัด น่าน

โครงงาน GoGo Board พาเดิน

ที่มาและความสำคัญ

เนื่องด้วยอุปกรณ์ช่วยหัดเดิน(๔ขา) ในปัจจุบันนี้ ในระหว่างที่ผู้ใช้ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าเสร็จแล้วจะต้องยกอุปกรณ์ช่วยหัดเดินไปข้างหน้าทั้งสี่ขาขึ้นและในระหว่างที่ยกขึ้นนั้นผู้ใช้จะต้องพยุงตัวด้วยตัวเองนั้นอาจจะส่งผลทำให้ผู้ใช้ล้มลงได้ในขณะที่ยกอุปกรณ์ช่วยหัดเดิน จึงมีแนวคิดที่ว่า “ จะเดินไปข้างหน้าได้อย่างไรโดยใช้อุปกรณ์ช่วยหัดเดินในการพยุงตัวแต่ไม่ต้องยกอุปกรณ์ช่วยหัดเดินขึ้น ”

ดังนั้นผู้จัดทำโครงงานได้เกิดแนวคิดที่จะทำช่วยเพิ่มความสะดวกในการหัดเดินของผู้ป่วยที่มีปัญหาในเรื่องการเดินเพื่อที่จะอำนวยความสะดวก

วัตถุประสงค์

ผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านการเดินและผู้สูงอายุได้ใช้อุปกรณ์ช่วยในการหัดเดินได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และสามารถนำไปใช้ประโยชน์สำหรับทางการแพทย์โดยใช้ Raspberry Pi ในการส่งข้อมูลของผู้ป่วยเกี่ยวกับการก้าวเดินและระยะทางการเดินในแต่ละช่วงเวลา

วัสดุอุปกรณ์

  1.วอล์คเกอร์

 2. สวิต 3. gogo board และ Raspberry Pi

 4. มอเตอร์และล้อ 5.แบตเตอรี่6.เซ็นเซอร์

ผังโครงสร้าง

หลักการทำงาน

      ใช้วอล์คเกอร์(4ขา) ในการพยุงตัว เมื่อก้าวท้าวข้างใดข้างหนึ่งผ่านเซ็นเซอร์มอเตอร์ทั้งสองจะหมุนไปข้างหน้าเป็นระยะทางหนึ่ง และเมื่อก้าวท้าวอีกข้างผ่านเซ็นเซอร์มอเตอร์ทั้งสองจะหมุนไปข้างหน้าเป็นระยะทางหนึ่ง โดยจะทำงานสลับกันไปเรื่อยๆเมื่อเราก้าวท้าวเดิน เมื่อเจอสิ่งกรีดขวางสามรถกดปุ่มเลี้ยวซ้ายหรือขวาได้ตามต้องการและความปลอดภัยในเครื่องช่วยเดินมีมอเตอร์เกียร์ทดรอบและยังมีปุ่มปิดเปิดมอเตอร์สั่งให้มอเตอร์หยุดได้ตลอดเวลา และยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์สำหรับทางการแพทย์โดยใช้ Raspberry Pi ในการส่งข้อมูลของผู้ป่วยเกี่ยวกับการก้าวเดินและระยะทางการเดินในแต่ละช่วงเวลา

CODE คำสั่งการทำงาน

to main
 set i 0
 set i (0)
 forever
 [
 ifstatechange sensor1 > 500
 [
 set i i + 1
 wait 10
 beep
 sendmessage "@telegram,message" i
 show i
 if i > 1
 [
 ab,
 on
 onfor 6
 ]
 ]
 ifstatechange sensor2 > 500
 [
 set i i + 1
 wait 10
 beep
 sendmessage "@telegram,message" i
 show i
 if i > 1
 [
 ab,
 on
 onfor 6
 ]
 ]
 if sensor4 > 500
 [
 a,
 on
 onfor 6
 ]
 if sensor3 > 500
 [
 b,
 on
 onfor 6
 ]
 wait 1
 ]
end

ผลของการทดสอบ

ใช้ได้จริงปัจจุบันก็ยังใช้อยู่แต่ ตัว Raspberry Pi มีเป็นหาในการส่งข้อมูลเป็นบางครั้ง

รูปการทำงาน

วีดีโอผลงาน

คิตตามได้ผ่าน youtube คลิก ลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับ

คณะผู้จัดทำโครงงาน

สามเณร พาทิศ เหมาะชาติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓

สามเณร ศราวุธ สุขยิ่ง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

สามเณร ธนกฤต เปียสังข์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

อาจารย์ที่ปรึกษา

นายพิทักษ์ สุขยิ่ง                                  สอนวิชา คณิตศาสตร์

โทรศัพท์  0612850236                            E-mail poshtercrv@gmail.com

โรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา

ที่อยู่ของโรงเรียน              โรงเรียนพระปริยัติธรรมานุสรณ์วัดฟ้าสวรรค์ เลขที่ 1 หมู่3 ตำบลบ้านฟ้า อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน 55190

โครงงานระบบตรวจนับคนเข้าออกใช้ห้องสมุด

• ความสำคัญและที่มา

ห้องสมุด มีบทบาทต่อบุคคลต่าง ๆ มากมาย ซึ่งห้องสมุด สามารถทำประโยชน์ต่อสังคมในด้านต่าง ๆ. ด้านวัฒนธรรม ห้องสมุดเป็นที่บำรุงรักษาวัฒนธรรมของชาติหนังสือ ให้สืบทอดไปยังอนุชนรุ่นต่อไป เนื่องจากห้องสมุด เป็นแหล่งที่จัดเก็บข้อมูลทางด้านสารนิเทศ ซึ่งส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมต่างๆ และสามารถใช้บ่งบอกความเจริญก้าวหน้าของประเทศนั้นๆ อีกด้วย.

วัตถุประสงค์   

๑. เนื่องจากอยากทราบจำนวนผู้เข้าห้องสมุดในแต่ล่ะวัน/เดือน/ปี

๒. เพื่อปรับปรุง ส่งเสริม พัฒนาการรักการอ่านของเด็กนักเรียน

๓. เพื่อศึกษาพฤติกรรมการอ่านของนักเรียนเพื่อเป็นการส่งเสริมต่อไปในอนาคต

๓. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ                 

๑. นักเรียนสนใจการอ่านมากขึ้น

๒. นักเรียนได้ความรู้จากการอ่านหนังสือ 

๔. ขั้นตอน และวิธีการทำโครงงาน

๔.๑ ขั้นเตรียมการ

– วางแผนการดำเนินการ

– เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติ

– ประชุมชี้แจง นักเรียน/ครู/ผู้รับผิดชอบ/ผู้เกี่ยวข้อง

๔.๒ ขั้นตอนการดำเนินการ

– จัดทำแบบจำลองเพื่อใช้ในการทดลองในห้องสมุด

–  ติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมที่จะทำในการทดลอง

– เขียนโปรแกรมควบคุมลงอุปกรณ์

๔.๓ ขั้นตอนติดตามผล

– ดำเนินการเก็บข้อมูล

– ประเมินผลข้อมูล

– ประยุกค์วิเคราะห์ข้อมูล

วัสดุอุปกรณ์

1.รีเรย์

2.Rasberry Pi

3.Go GO Board

4.สายไฟ

5.หลอดไฟ

ผังโครงสร้าง

หลักการทำงาน

เมื่อคนเดินเข้าประตู ระบบจะทำการตรวจนับคน คือ 1

เมื่อคนเดินออกประตู ระบบจะไม่นับคน คือ 0

เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน กดสวิทช์ ระบบจะส่งข้อมูลคนเข้าทั้งหมดไปยัง telagram ของ บรรณารักษณ์

CODE คำสั่งการทำงาน

to main
  set doss 0
  set doss (0)
  settickrate 10
  forever
  [
    ifstatechange sensor1 > 400
    [
      if sensor2 < 500
      [
        set doss doss + 1
      ]
    ]
    ifstatechange sensor2 > 500
    [
      if sensor1 < 400
      [
        off
      ]
    ]
    show doss
    if doss > 0
    [
      a,
      on
    ]
    if doss = 0
    [
      a,
      off
    ]
    ifstatechange sensor6 > 500
    [
      sendmessage "@telegram,message" doss
      set doss (0)
      a,
      off
    ]
    wait 1
  ]
end

ผลของการทดสอบ

ใช้ได้จริง มีการตรวจนับและส่งจำนวนได้ตามระบบที่เขียนมา

รูปการทำงาน

1.วางแผนที่จะทำ แล้ว ออกแบบชุดจำลองตามลักษณะทางกายภาพของห้องสมุด

2.ทำตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ แล้วลงมือเขียนโปรแกรม

3.ตรวจสอบ ทดสอบระบบและสิ่งที่ทำไว้

4.ปรับปรุงและพัฒนาตามคำแนะนำของที่ปรึกษา

คณะผู้จัดทำโครงงาน

1. ๑. สามเณรชานนท์ สมจารย์                   ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3โทรศัพท์ 098-760-1912                e-mail misaka2019@gmail.com

   ๒. สามเณร ภารกิจ ชัยพินิจ          ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่3

   โทรศัพท์098-758-4751

   ๓. สามเณร จักพงษ์ ใจมั่น                     ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3

   โทรศัพท์098-007-2348

อาจารย์ที่ปรึกษา

พระกิตติพัฒน์  สุเมธี   สอนวิชา  ธรรมวินัย

โทรศัพท์ ๐๘๙-๕๖๐๗-๔๖๗   e-mail   Assawin_35@hotmail.com

ที่อยู่ของโรงเรียน

โรงเรียนพระปริยติธรรมวัดนิโครธาราม

118 หมู่ 2 ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน

โครงงานการปิด-เปิดอุปกรณ์ไฟฟ้า ผ่านระบบเครือข่าย internet ระยะ2

ที่มาและความสำคัญ

ในปัจจุบันมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ เป็นไปอย่างรวดเร็ว และเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนเรามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เนื่องด้วยในชีวิตประจำวันของเรานั้น มีผู้คนส่วนมากที่เกิดปัญหาลืมปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน เพราะเนื่องจากรีบไปทำงาน หรือรีบไปสถานที่ต่างๆจึงทำให้ไม่ได้ปิดไฟฟ้าในบ้าน ผลกระทบที่ตามมาก็คือ ก่อให้เกิดความสิ้นเปลืองไฟฟ้าทำให้เกิดเสียเงินเยอะในการจ่ายค่าอุปกรณ์ไฟฟ้า ทางโรงเรียน นันทบุรีวิทยา พระปริยัติธรรม จึงได้จัดทำโครงงาน การปิด-เปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านระบบเครือข่ายอินเทอรเน็ต ขึ้นเพื่อแก้และลดปัญหาที่เกิดขึ้น

วัตถุประสงค์

1. เพื่อปิด-เปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้านทางไกลได้ ถึงแม้ว่าสถานที่นั่นจะอยู่ไกลเพียงใด โดยไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางกลับมาที่บ้าน และอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าของบ้าน
2. เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และการเขียนโปรแกรมสำหรับประยุกต์ใช้ในชีวิตประวันของนักเรียนสามเณรได้ได้
3. เพื่อแก้ปัญหาการหลงลืมปิดไฟภายในบ้านให้เกิดความสะดวกมากยิ่งขึ้น

วัสดุอุปกรณ์

1.GoGo board  2.Raspberypi  3.รีเรย์  4.พัดลมจำลอง  5.หลอดไฟจำลอง  6.กล้อง Webcam   7.เซ็นเซอร์แสง   8.เซ็นเซอร์อุณหภูมิ

ผังโครงสร้าง

หลักการทำงาน

ระบบอัตโนมัติ= ถ้าไฟเปิด-ปิด และพัดลม เปิด-ปิด กล้อง webcamจะทำการถ่ายภาพส่งไปทางtelegram เงื่อนไขของไฟคือ ถ้ามืดกว่าค่าที่กำหนดจะทำการเปิดไฟ ถ้าสว่างเกินค่าที่กำหนดไว้ไฟก็จะปิด ส่วนพัดลมคือ ถ้าอุณหภูมิสูงกว่าค่าที่กำหนด(ร้อน)พัดลมจะเปิด และถ้าอุณหภูมิต่ำกว่าค่าที่กำหนดไว้ พัดลมก็จะปิด ส่วนระบบสั่งการผ่านเครือข่ายinternet=พิมพ์คำสั่งเปิด-ปิดไฟและพัดลมตามค่าที่เรากำหนดได้เลย หากอยู่ในระบบสั่งการ ระบบอัตโนมัติทุกอย่างจะหยุดการทำงาน จะมีแค่ระบบสั่งการเท่านั้นที่ทำงานอยู่ แต่ก่อนที่เราจะใช้ระบบสั่งการได้นั้น เราต้องพิมพ์คำสั่งที่กำหนดเอาไว้เพื่อสั่งการให้โครงงานเปลี่ยนระบบการทำงาน(กล้องwebcam จะถ่ายภาพส่งไปทางtelegramทุกขั้นตอนการทำงาน ยกเว้นคำสั่งเปลี่ยนระบบ)

CODE คำสั่งการทำงาน

to main
  set mode 0
  usecamera
  forever
  [
    if mode = 0
    [
      automode
    ]
    if mode = 1
    [
      manmode
    ]
    ifstatechange key "telegram" = "start"
    [
      set mode (1)
      if mode = 1
      [
        c,
        off
      ]
      beep
    ]
    ifstatechange key "telegram" = "stop"
    [
      set mode (0)
      if mode = 0
      [
        d,
        off
      ]
      beep
    ]
  ]
end

to automode 
   if mode = 0
  [
    c,
    on
  ]
  ifstatechange sensor1 < 500
  [
    a,
    on
    wait 5
    takesnapshot
    sendmessage "@telegram,image" "current"
    beep
  ]
  ifstatechange sensor1 > 500
  [
    a,
    off
    wait 5
    takesnapshot
    sendmessage "@telegram,image" "current"
    beep
  ]
  record sensor1 "light"
  wait 5
  ifstatechange sensor2 < 810
  [
    b,
    off
    wait 80
    takesnapshot
    sendmessage "@telegram,image" "current"
    beep
  ]
  ifstatechange sensor2 > 835
  [
    beep
    b,
    on
    wait 5
    takesnapshot
    sendmessage "@telegram,image" "current"
    waituntil [ sensor2 < 830  ]
  ]
  record sensor2 "temperature"
  wait 5

end
 

to manmode 
   if mode = 1
  [
    d,
    on
  ]
  ifstatechange key "telegram" = "onlight"
  [
    a,
    on
    wait 10
    takesnapshot
    sendmessage "@telegram,image" "current"
    beep
  ]
  ifstatechange key "telegram" = "offlight"
  [
    a,
    off
    wait 10
    takesnapshot
    sendmessage "@telegram,image" "current"
    beep
  ]
  ifstatechange key "telegram" = "onfan"
  [
    b,
    on
    wait 10
    takesnapshot
    sendmessage "@telegram,image" "current"
    beep
  ]
  ifstatechange key "telegram" = "offfan"
  [
    b,
    off
    wait 80
    takesnapshot
    sendmessage "@telegram,image" "current"
    beep
  ]

end

ผลของการทดสอบ

ใช้ได้จริง แต่ความสเถียรของอินเทอร์เน็ต มีผลต่อการทำงานของระบบสั่งการ

รูปการทำงาน

วีดีโอผลงาน

ติตตามได้ผ่าน youtube คลิก ลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับhttps://www.youtube.com/watch?v=w27kZkWGqwY&feature=youtu.be

คณะผู้จัดทำโครงงาน

1. สามเณรศุภกร จันอินทร์
2. สามเณรนริศ กุมาร

อาจารย์ที่ปรึกษา

นายศิวะนันท์ บัวนิติสกุล                    สอนวิชา การงานอาชีพ

โทรศัพท์  0815043824

โรงเรียนนันทบุรีวิทยา พระปริยัติธรรม

ที่อยู่ของโรงเรียน              วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน

โครงงานตู้ขายปากกา

โรงเรียนเชียงกลางปริยัติศึกษา  จังหวัดน่าน

ที่มาและความสำคัญ

เนื่องจากโรงเรียนเชียงกลางปริยัติศึกษา  มีห้องสหกรณ์และมีการขายอุปกรณ์ทางการเรียนเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้เรียน  แต่กำหนดเวลาให้การเปิด-ปิด เป็นเวลา  เพราะมีปัญหาด้านเจ้าหน้าที่ที่ดูแลห้องสหกรณ์ในการขายของ เพราะถ้านักเรียนต้องซื้อปากกา นอกเวลาที่สหกรณ์กำหนด ก็ไม่สามารถซื้อปากกาได้  ทำให้นักเรียนไม่มีปากกามาใช้ในการเรียนการสอน    ผู้จัดทำจึงอยากจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้  จึงได้คิดทำโครงงานตู้ขายปากกาขึ้น

วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้ได้ตู้ขายปากกา ตามเงื่อนไขที่กำหนด
2. เพื่อลดปัญหาการ ขายปากกาเวลาไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่
3. เพื่อนำเทคโนโลยีของ GoGo board มาประยุกต์ใช้

วัสดุอุปกรณ์

1.GoGo board 

2.เซอร์โวมอเตอร์  2  ตัว

3.สวิทช์   2 ตัว

4.กาวร้อน

5.อะแดปเตอร์

ผังโครงสร้าง

หลักการทำงาน

เงื่อนไขการทำงานของระบบ

1.เมื่อหยดเหรียญ ลงไปในตู้ขายปากกาโดนสวิทช์ที่ติดตรงช่องหยดเหรียญ ก็จะสั่งให้มอเตอร์ทำงานให้เปิดช่องปากกาเตรียมไว้

2.ผู้ซื้อกดสวิทช์เลือกปากกา (เมื่อกดสวิทช์เลือกปากกา มอเตอร์ก็จะปล่อยปากกาลงช่องรับปากกา

CODE คำสั่งการทำงาน

ผลของการทดสอบ

สามารถใช้งานตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้

รูปการทำงาน

ขั้นตอนที่ 1 (Plan) : วางแผนปรึกษากำหนดเป้าหมาย / ศึกษาออกแบบชุดจำลองของโครงสรา้งที่ออกแบบ

ขั้นตอนที่ 2 (Do) : ลงมือปฏิบัติตามแผน/ออกแบบการเขียนโปรแกรมควบคุม Gogo Board     นำสู่การปฏิบัติทดลองเพื่อสั่งการทำงานของอุปกรณ์ ให้ทำงานตามกระบวนการต่างๆ ที่เรากำหนดไว้

ขั้นตอนที่ 3 (Check) : ติดตามตรวจสอบแก้ไขจากผลการทดลอง / ทดลองการทำงานของโครงงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

 ขั้นตอนที่ 4 (Action): ดำเนินการปรับปรุงพัฒนาโครงงานอย่างเหมาะสมให้สามารถใช้งานได้จริงและสามารถนำสู่การไปประยุกต์ใช้ได้

วีดีโอผลงาน

คิตตามได้ผ่าน youtube คลิก ลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับ

คณะผู้จัดทำโครงงาน

สามเณรสุวพีร์        สมฤทธิ์

สามเณรภูวนาท      สิทธิ

สามเณรนันทิพัฒน์  ปาลาอาจ

อาจารย์ที่ปรึกษา

นางสาวศิวพร       จิณะแสน                                 สอนวิชา การงานอาชีพ

โทรศัพท์  0897586821                             E-mail    nong55160@gmail.com

โรงเรียนเชียงกลางปริยัติศึกษา

ที่อยู่ของโรงเรียน              551  หมู่ 13  บ้านสบกอน   ต.เชียงกลาง  อ.เชียงกลาง   จ.น่าน

โครงงานพัดลมสมุนไพรไล่ยุง (Herbal Fan)

ที่มาและความสำคัญ

ในปัจจุบันโลกมีการพัฒนาไปมาก ทั้งทางด้านเทคโนโลยีและด้านการศึกษา เช่นเดียวกันกับสิ่งมีชีวิตที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยอาศัยและดำรงชีวิตตามการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงของยุคและสมัยนั้นด้วย การดำรงชีวิตของมนุษย์จึงมีความสะดวก สบายมากขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ทั้งเรื่องการเดินทาง อาหารการการกิน เครื่องนุ่งห่ม การติดต่อสื่อสาร การรักษาพยาบาล เป็นต้น แต่ในการดำเนินชีวิตของมนุษย์นั้นไม่ได้สะดวก สบายไปทุกเรื่อง แม้ว่าจะเลือกสรรสิ่งที่ดี ให้กับตัวเองแล้ว ก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องการเจ็บป่วย โดยการเจ็บป่วยนั้นก็มีสาเหตุมาจากหลาย ๆ ประการด้วยกัน ทั้งโรคที่เกิดมาจากพันธุกรรม โรคที่เกิดมาจากเชื้อโรคต่าง ๆ และโรคที่เกิดมาจากสัตว์เป็นพาหะนำโรคมาให้ ซึ่งจากการสำรวจพบว่าปัจจุบันโรคไข้เลือดออกกำลังเป็นปัญหาด้านสาธารณสุขและการแพทย์ของประเทศไทย เพราะแต่ละปีมีผู้ป่วยจากทุกภาคเป็นจำนวนมากส่วนใหญ่เป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี และโรคนี้มักระบาดมากในฤดูฝน โดยมี “ยุงลาย” เป็นพาหะนำโรคมาสู่คน โดยเชื้อไวรัสเด็งกี่ (Dengue virus) ผู้ป่วยที่ถูกยุงกัดจะได้รับเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรือมีอาการไข้อ่อนๆ ในขณะที่ผู้ป่วยประมาณ 5% มีอาการรุนแรงโดยมีไข้เฉียบพลันภายใน 3 – 14 วันหลังได้รับเชื้อ มีอาการปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ มีผื่นตามร่างกาย และยังไม่มีวัคซีนหรือวิธีการรักษาโดยเฉพาะ (กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข (2544).)
ดังนั้นจากการที่ทางคณะผู้จัดทำประสบกับปัญหาในเวลาที่เข้าห้องน้ำแล้วมียุงจำนวนมาก ทำให้เวลาที่สามเณรเข้าใช้ห้องน้ำมักจะถูกยุงกัด และห้องน้ำตามสถานที่ต่าง ๆ บางแหล่งก็จะมียุงจำนวนมากเช่นกัน ทำให้เสี่ยงอันตรายต่อการเป็นโรคไข้เลือดออก อีกทั้งในห้องน้ำก็ยังมีกลิ่นอับชื้น จึงทำให้เกิดความรู้สึกว่าห้องน้ำไม่น่าใช้และไม่อยากเข้าห้องน้ำนั้น
ด้วยเหตุผลข้างต้นทางคณะผู้จัดทำจึงได้ศึกษาหาแนวคิดจากอินเตอร์เน็ตแล้วนำมาประยุกต์ใช้ในการทำพัดลมสมุนไพรไล่ยุงที่สามารถนำไปไล่ยุงได้จริง เพื่อที่จะสามารถช่วยลดปัญหาปริมาณยุงจำนวนมากในห้องน้ำ แถมยังสามารถช่วยลดกลิ่นอับชื้นในห้องน้ำ ให้มีกลิ่นหอมจากสมุนไพรที่นำมาใช้ทั้งไล่ยุงและยังสามารถขจัดกลิ่นอับชื้นในห้องน้ำได้อีกด้วย และยังช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นโรคไข้เลือดออกและโรคอื่น ๆ ที่จะตามมาอีก รวมไปถึงทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีในการเข้าใช้ห้องน้ำ อีกทั้งยังนำพัดลมไล่ยุงนี้ไปติดตามสถานที่อื่น ๆ ที่ประสบปัญหานี้ได้เช่นกันไม่ว่าจะเป็น วัด หรือ ชุมชนที่มีห้องน้ำสาธารณะให้ใช้บริการ เป็นต้น

วัตถุประสงค์

๑) เพื่อเป็นการนำสมุนไพรมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์
๒) เพื่อให้ลดปริมาณยุงในห้องน้ำ และกลิ่นอับในห้องน้ำ

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1) สามารถลดปริมาณยุงในห้องน้ำให้น้อยลง
2) สามารถกำจัดกลิ่นอับในห้องน้ำได้
3) การนำสมุนไพรมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์และเพิ่มมูลค่าให้กับพืชสมุนไพร
4) ได้ใช้ความรู้ที่ได้เรียนมาให้เกิดประโยชน์

วัสดุอุปกรณ์

๑. PIR Sensor
๒. พัดลมระบายอากาศ
๓. Arduino UNO R3
๔. Relay โมดูล 5VDC
๕. Power Supply AV-DC
๖. สายไฟเดินไฟ
๗. ตระแกรงเหล็ก
๘. เจลหอมปรับอากาศ
๙. รวมราคาสินค้าทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน

ผังโครงสร้าง

หลักการทำงาน

CODE คำสั่งการทำงาน

to main
  set Area1_wet (100)
  set Area1_dry (3)
  set Area2_wet (100)
  set Area2_dry (3)
  set Area3_wet (100)
  set Area3_dry (3)
  set Area4_wet (100)
  set Area4_dry (3)
  set Area5_wet (100)
  set Area5_dry (3)
  set Area6_wet (100)
  set Area6_dry (3)
  set Area7_wet (100)
  set Area7_dry (3)
  set Area8_wet (100)
  set Area8_dry (3)
  forever
  [
    check_time1  check_sensor
  ]
end

to check_sensor 
   ifelse sensor1 < Area1_dry  and sensor2 < Area2_dry 
  [
    a,
    on
  ] [
    if sensor1 > Area1_wet  and sensor2 > Area2_wet 
    [
      a,
      off
    ]
  ]
  ifelse sensor3 < Area3_dry  and sensor4 < Area4_dry 
  [
    b,
    on
  ] [
    if sensor3 > Area3_wet  and sensor4 > Area4_wet 
    [
      b,
      off
    ]
  ]
  ifelse sensor5 < Area5_dry  and sensor6 < Area6_dry 
  [
    c,
    on
  ] [
    if sensor5 > Area5_wet  and sensor6 > Area6_wet 
    [
      c,
      off
    ]
  ]
  ifelse sensor7 < Area7_dry  and sensor8 < Area8_dry 
  [
    d,
    on
  ] [
    if sensor7 > Area8_wet  and sensor8 > Area8_wet 
    [
      d,
      off
    ]
  ]

end
 

to check_time1 
   if hours = 6  and minutes = 0   or hours = 18  and minutes = 0  
  [
    if sensor1 < Area1_wet  and sensor2 < Area2_wet 
    [
      a,
      off
    ]
    if sensor3 < Area3_wet  and sensor4 < Area4_wet 
    [
      b,
      on
    ]
    if sensor5 < Area5_wet  and sensor6 < Area6_wet 
    [
      c,
      on
    ]
    if sensor7 < Area7_wet  and sensor8 < Area8_wet 
    [
      d,
      off
    ]
    wait 9000
    abcd,
    off
  ]

end

ผลของการทดสอบ

รูปการทำงาน

วีดีโอผลงาน

คณะผู้จัดทำโครงงาน

๑) ชื่อ-สกุล สามเณรหัสรุจภ์ ชำนาญ       ระดับชั้น   มัธยมศึกษาปีที่ ๕
๒) ชื่อ-สกุลสามเณรนรเศรษฐ์ ไทยทวี      ระดับชั้น   มัธยมศึกษาปีที่ ๕
๓) ชื่อ-สกุลสามเณรปริวัฒน์ เพ็งรัตน์       ระดับชั้น   มัธยมศึกษาปีที่ ๓

อาจารย์ที่ปรึกษา

ชื่อ-สกุล นางสาวพนิดา เล้าประเสริฐ               สอนวิชา วิทยาศาสตร์                                                       ชื่อ – สกุล นายสายชล ระมั่งทอง

โทรศัพท์  094-6828678                       E-maillaowprasert_2015@hotmail.com

โรงเรียนวัดไผ่ดำ แผนกสามัญศึกษา

ที่อยู่ของโรงเรียน

1 หมู่ 4 ตำบลทองเอน   อำเภออินทร์บุรี   จังหวัดสิงห์บุรี    รหัสไปรษณีย์ 16110