โครงงานสมองกลฝังตัว

  • หน้าหลัก
  • อิคคิวซัง
    • ปีการศึกษา 2562
    • ปีการศึกษา 2561
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
    • ปีการศึกษา 2558
    • ปีการศึกษา 2557
    • ปีการศึกษา 2556
  • ทสรช.
    • ปีการศึกษา 2562
    • ปีการศึกษา 2561
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
  • สถานพินิจ
    • ปีการศึกษา 2562
  • โรงเรียนคนพิการ
    • ปีการศึกษา 2562
  • มหาวิทยาลัย
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
  • STEM ปี 2560
  • Show&Share2022
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อศึกษาและดูแลสิ่งแวดล้อม
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อการเกษตรอัจฉริยะ
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและชุมชน
    • โครงงานลิฟต์
    • รายชื่อผู้เข้าแข่งขันอื่นๆ

08. โครงงาน “ราวตากผ้าอัตโนมัติ” โรงเรียนวัดนาราบวิทยา จังหวัดน่าน

Posted on May 12, 2016 by hrh Posted in projectikkq2016 .

ราวตากผ้าอัตโนมัติ

ความสำคัญและที่มา 

เนื่องจากพระหรือสามเณรที่วัดไม่ค่อยมีใครอยู่ที่วัดเพราะเรียนหนังสือเลยไม่มีใครเก็บผ้าให้เวลาฝนตก                 จึงได้มีแนวคิดทำราวตากผ้าอัตโนมัติเพราะไม่มีใครเก็บผ้าให้ในเวลาที่ฝนตก จึงเห็นปัญหาและได้คิดค้นประดิษฐ์ ราวตากผ้าอัตโนมัติ ขึ้นมาใช้งานจะได้นำเวลาส่วนที่เหลือไปใช้ในการทำงานอย่างอื่นหรือเมื่อออกไปเรียนหนังสือ ในการตากผ้าแต่ละครั้งต้องตากในที่มีแสงแดด จะทำให้ผ้าแห้งไวและไม่มีกลิ่นอับ แต่ในการตากผ้าแต่ละครั้งต้องมีคนคอยเก็บผ้าเมื่อผ้าแห้ง เมื่อฝนตกผ้าที่ตากไว้อาจเปียกได้ ดังนั้นราวตากผ้าอัตโนมัติ นั้นจะทำงานเมื่อมีฝนตกลงมาโดนที่หน้าสัมผัสของเซนเซอร์ตรวจจับฝนตก เมื่อมีฝนตกมากระทบเข้ากับหน้าสัมผัสจะ จะทำให้เครื่องเก็บผ้าทำงานเก็บผ้าที่ตากไว้เข้าที่ร่มและเมื่อฝนได้อยู่ตกจะทำให้หน้าสัมผัสที่เปียกฝนในตอนแรกนั้นแห้งลงจะทำให้ราวตากผ้าอัตโนมัติ ได้ทำการนำผ้าที่ตากอยู่หรือผ้าอาจยังไม่แห้ง นำออกมาตากใหม่ให้ผ้าที่ยังไม่แห้งนั้นแห้ง

วัตถุประสงค์

  • เพื่อสามารถเก็บผ้าที่ตากไว้เข้าในที่ร่มเมื่อฝนตกได้
  • เพื่อเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการฝึกปฏิบัติจริง
  • เพื่อให้สามเณรเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับระบบการทำงานของโกโก้บอร์ด  (  GoGo Board  )

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 

  • สามารถลดภาระในการเก็บเสื้อผ้าเวลาฝนตก
  • สามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคผิวหนังกลากเกลื้อนและมีกลิ่นเหม็น
  • สามารถนำสิ่งประดิษฐ์ไปใช้งานได้จริง และสามารถนำไปพัฒนาต่อไปได้

ขั้นตอน และวิธีการทำโครงงาน 

  • อบรมเข้าค่ายอิคคิวซัง 1 ประจำปี 2558  จัดส่งโครงการราวตากผ้าอัตโนมัติ ออกแบบและจัดทำโมเดลราวตากผ้าอัตโนมัติ
  • คัดเลือกประชากรกลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา   (สามเณรโรงเรียนนาราบวิทยา จำนวน  92  รูป)
  • คัดเลือกเครื่องมือสำหรับประเมิณผล      (1. แบบประเมินคุณภาพ 2. แบบประเมินความพึงพอใจ)
  • การรวบรวมข้อมูล
  1. ทำหนังสือถึงผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการประเมินชิ้นงาน “ราวตากผ้าอัตโนมัติ”
  2. ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการประเมินคุณภาพและการทดสอบการทำงาน
  3. สาธิตขั้นตอนการใช้งานของเครื่องมือให้ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินการใช้งาน
  4. ผู้เชี่ยวชาญทำการประเมินคุณภาพการใช้งานของราวตากผ้าอัตโนมัติ
  5. สามเณรทำการเก็บรวบรวมข้อมูลผลการประเมินคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ
  6. ปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
  7. นำไปใช้กับสามเณรโรงเรียนนาราบวิทยา จำนวน  92  รูปกลุ่มเป้าหมาย
  • วิเคราะห์ข้อมูล

ระยะเวลาและแผนงานในการดำเนินงานโครงงาน 

ระยะเวลาที่ใช้ทั้งหมด    6   เดือน  ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558 ถึง  เดือนมกราคม 2559

แผนงานในการทำโครงงาน (ตัวอย่างตารางแผนงาน)

 

ภาพหรือแผนผังหรือไดอะแกรมหรือแนวคิด/ของผลงาน

“เมื่อเซนเซอร์วัดความชื้นสัมพัทธ์ตรวจพบว่าความชื้นในอากาศมีปริมาณเพิ่มขึ้น หรือเซนเซอร์น้ำฝนตรวจพบน้ำฝนมอเตอร์จะทำการดึงผ้าที่ตากไว้เข้าไปเก็บไว้ในที่ร่ม จนกว่า จะโดน สวิตซ์ A และเมื่อเซนเซอร์วัดความชื้นสัมพัทธ์วัดความชื้นในอากาศแล้วพบว่ามีปริมาณความชื้นลดลงจนถึง      ที่กำหนด หรือเซนเซอร์วัดปริมาณน้ำฝนตรวจไม่พบน้ำฝนแล้ว มอเตอร์จะดึงผ้ากลับออกมาตาก และหยุดเมื่อชนกับสวิตซ์ B”

code คำสั่ง

13319723_1055495134499538_20790401758509729_n13322182_1055495127832872_1516784784810870991_n

วัสดุอุปกรณ์ และงบประมาณในการทำโครงงาน (ไม่รวมค่าจ้าง)

ลำดับ                                                 รายการ จำนวนเงิน (บาท)
๑ โกโก้บอร์ด  (  GoGo Board  )                 ๑ ๓,๐๐๐
๒  Mo tor                                             ๑ ตัว ๑,๐๐๐
๓  เซนเซอร์วัดความชื้นสัมพัทธ์                   ๑ ตัว ๑๖๐
๔ ราวตากผ้า                                            ๒ ๕๐๐
๕ รางแขวนผ้า                                         ๑ ๒๐๐
๖ ฟิวเจอร์บอร์ด                                       ๓ ๓๐๐
๗ เซนเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน                         ๑ ๕๐
                                                                                                                                    รวม ๕,๒๑๐

 

การทดสอบโครงงาน และเก็บผลการทดสอบ

  • สมมติฐาน    ราวตากผ้าอัตโนมัติสามารถ ตากผ้าและเก็บเองได้ ตามสภาพภูมิอากาศ โดยใช้โกโก้บอร์ด  ( GoGo Board) ควบคุมการทำงาน
  • ตัวแปรต้น      โกโก้บอร์ด  (GoGo Board)  คอมพิวเตอร์
  • ตัวแปรตาม      ราวตากผ้าอัตโนมัติ
  • ตัวแปรควบคุม   เซ็นต์เซอร์เสง (Sensors Light) เซ็นต์เซอร์น้ำฝน (Sensors  Rain)

 

ประมวลภาพกิจกรรม

13388997_1058252880890430_565702758_o13383978_1058252890890429_1912333134_o13383702_1058252900890428_335985967_o13383593_1058252897557095_619908442_o13351168_1058252907557094_651217532_o13348806_1058252634223788_587263231_n13340531_1058252874223764_1844621050_o13334816_1058252887557096_1122915052_o13334299_1058252904223761_783197195_o

วีดิทัศน์

https://youtu.be/_28qicwt9Jc

แนวคิดทางวิทยาศาสตร์ที่นำมาใช้

ฝน เกิดจากอนุภาคของไอน้ำขนาดต่างๆในก้อนเมฆเมื่อมีขนาดใหญ่ขึ้นจนไม่สามารถลอยตัวอยู่ในก้อนเมฆได้ก็จะตกลงมาเป็นฝน  ฝนจะตกลงมายังพื้นดินได้นั้นจะต้องมีเมฆเกิดในท้องฟ้าก่อน  เมฆมีอยู่หลายชนิด  มีเมฆบางชนิดเท่านั้นที่ทำให้มีฝนตก เราทราบแล้วว่าไอน้ำจะกลั่นตัวเป็นเมฆก็ต่อเมื่อมีอนุภาคกลั่นตัวเล็กๆอยู่เป็นจำนวนมากเพียงพอและไอน้ำจะเกาะตัวบนอนุภาคเหล่านี้รวมกันทำให้เกิดเป็นเมฆ  เมฆจะกลั่นตัวเป็นน้ำฝนได้ก็ต้องมีอนุภาคแข็งตัว(Freezing nuclei) หรือเม็ดน้ำขนาดใหญ่ซึ่งจะดึงเม็ดน้ำขนาดเล็กมารวมตัว กันจนเป็นเม็ดฝน สภาวะของน้ำที่ตกลงมาจากท้องฟ้า อาจเป็นลักษณะของฝน ฝนละออง หิมะหรือลูกเห็บ ซึ่งเรารวมเรียกว่าหยาดน้ำฟ้า (Precipitation) ซึ่งจะตกลงมาในลักษณะไหน ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของอากาศในพื้นที่นั้นๆ หยาดน้ำฟ้าต้องเกิดจากเมฆ แต่เมื่อมีเมฆไม่จำเป็นต้องมีหยาดน้ำฟ้าเสมอไป

แสงอาทิตย์   ประกอบด้วยรังสีที่เห็นด้วยตาและไม่เห็น รังสีที่ไม่เห็นด้วยตาที่สำคัญคือ ultraviolet-A (UVA) และ ultraviolet-B (UVB) รังสี UV นี้จะทำให้เกิดผลเสียต่อผิวหนังคือ suntan, sunburn, และ sun damage ปัจจัยที่ทำให้เราได้รับรังสีเพิ่มขึ้นได้แก่ ลม การสะท้อนรังสีจากน้ำ ทราย และหิมะ แม้กระทั่งวันที่มีเมฆมากก็มีรังสี UV เล็ดรอดออกมา

รังสี UVC.  เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นสั้นที่สุด แต่ให้พลังงานสูงสุดและมีอำนาจทำลายสูงสุด รังสีนี้จะถูกโอโซนที่ชั้นบรรยากาศดูดซึมเกือบหมด แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือชั้นโอโซนถูกทำลายจากสายเคมีทำให้รังสีนี้มายังโลกมากขึ้น

รังสี UVB   จะมีความยาวคลื่นมากกว่ารังสี UVC แต่ให้พลังงานต่ำกว่า UVCดังนั้นจะทำลายผิวหนังน้อยกว่า จะมีปริมาณเพียงร้อยละ 5 ของรังสีที่หลุดมายังผิวโลก รังสี UVB เมื่อกระทบผิวหนังเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการผิวไหม้จากแดด ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าผู้ที่มีผิวไหม้บ่อยจะมีโอกาศเกิดมะเร็งไฝมากกว่าผู้อื่น

รังสี UVA.  เป็นรังสีที่มีความยาวคลื่นมากที่สุดเป็นรังสีที่เป็นต้นเหตุของการเสื่อมของผิวหนัง และเกิดมะเร็ง ประมาณร้อยละ95 ของรังสี UV ที่มายังผิวโลกจะเป็นรังสี UVA รังสีนี้จะทำลายชั้นผิวหนังแท้

 

 

« 09. โครงงาน “เครื่องรดน้ำในโรงเพาะเห็ดอัตโนมัติ” โรงเรียนวัดนาราบวิทยา จังหวัดน่าน
07. โครงงาน “เครื่องบินบังคับสำรวจต้นไม้ในโรงเรียน” โรงเรียนวัดน้ำไคร้นันทชัยศึกษา จังหวัดน่าน »

Meta

  • Log in
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org

CyberChimps WordPress Themes

© โครงงานสมองกลฝังตัว