โครงงานปั่นเพื่อ “ลด”และ “รด”

 ผู้จัดทำ

1. สามเณรพัทธ์            เหมาะชาติ                        ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
2. สามเณรอุดมทรัพย์   บำรุงศิลป์                         ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3. สามเณรทยากร         เชื้อหมอ                           ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

อาจารย์ที่ปรึกษา

1. อาจารย์พิทักษ์          สุขยิ่ง
2. อาจารย์พัชรีย์          ขัดศิริ

สถานศึกษา  โรงเรียนพระปริยัติธรรมานุสรณ์วัดฟ้าสวรรค์ ตำบลบ้านฟ้า  อำเภอบ้านหลวง  จังหวัดน่าน

บทคัดย่อ

            

เนื่องจากผลการสำรวจภาวะโภชนาการของสามเณรนักเรียนปัจจุบันพบว่าสามเณรนักเรียนมีน้ำหนักเกินมาตรฐานอันเนื่องมาจากสามเณรนักเรียนฉันภัตตาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ เช่น ฉันของหวาน ฉันภัตตาหารประเภทที่มีไขมันมาก ขาดการออกกำลังกายที่ถูกต้องและเต็มที่ อีกทั้งการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้งไม่เหมาะสมกับสมณสารูปสามเณรนักเรียนและครูที่ปรึกษาเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย จึงมีแนวคิดว่า “เห็นสมควร ให้มีอุปกรณ์หรือที่สำหรับให้สามเณรนักเรียนได้ออกกำลังกายในที่อันสมควรและอยู่กับที่”ดังนั้นจึงประดิษฐ์จักรยานปั่นเพื่อสุขภาพ สำหรับให้สามเณรนักเรียนได้ปั่นออกกำลังกายเพื่อลดปัญหาภาวะน้ำหนักเกิน มีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ แข็งแรง ตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
ผลการศึกษา จากที่สามเณรนักเรียนได้ศึกษาปัญหา และหาแนวทางการแก้ปัญหาเกี่ยวกับภาวะน้ำหนักเกินของสามเณรนักเรียน จึงได้สร้างนวัตกรรมที่ใช้ในการออกกำลังที่เหมะสมสมณสารูปของสามเณร โดยนำวัสดุเหลือใช้ในท้องถิ่นควบคู่กับการใช้เทคโนโลยี เพื่อดึงดูดความสนใจและเพิ่มศักยภาพของเครื่องออกกำลังกาย
เป้าหมาย ในการจัดทำโครงโดยมีเป้าหมายเพื่อที่จะให้สามเณรนักเรียน มีทักษะในการทำงานได้ลงมือปฏิบัติ มีความคิดสร้างสรรค์ และแก้ไขปัญหาภาวะน้ำหนักเกินของสามเณรนักเรียน โดยใช้เครื่องออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสมณสารูปและทันสมัย เพื่อที่จะดึงดูดความสนใจให้สามเณหันมาออกกำลังกายมากขึ้นและได้เผยแพร่ความรู้ วิธีการทำ หลักการใช้จักรยานเพื่อสุขภาพ สู่ชุมชน

กิตติกรรมประกาศ

 โครงงาน ปั่นเพื่อ “ลด”และ“รด” สำเร็จลุล่วงได้ด้วยความกรุณาของผู้จัดการโรงเรียน ผู้อำนวยการโรงเรียน อาจารย์พิทักษ์ สุขยิ่ง และอาจารย์พัชรีย์  ขัดศิริ ที่ได้ให้คำปรึกษา คำแนะนำให้กำลังใจจนโครงงานชิ้นนี้สำเร็จสมบูรณ์ ผู้จัดทำขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้
ขอขอบพระคุณโครงการ เทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชนุมารี โดยการสนับสนุนจากสถาบันกวดวิชา We TUTORIAL SCHOOL BY THE BRAIN ที่ได้ให้ทุนอุดหนุนในการทำโครงงานครั้งนี้
ขอขอบคุณผู้ร่วมงาน คณะครูและนักเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรมานุสรณ์วัดฟ้าสวรรค์ ทุกท่านที่ได้เสียสละเวลา แรงกาย แรงใจและเป็นกำลังใจที่ดีเสมอมา

 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

จากแบบรายงานภาวะโภชนาการของนักเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรมานุสรณ์วัดฟ้าสวรรค์ ทั้งหมด 29 รูป พบว่ามีสามเณรนักเรียนที่มีภาวะโภชนาการเกิน 5 รูป ตามแบบรายงานภาวะโภชนาการของนักเรียน ในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตาม
พระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี

จากปัญหาที่เกิดขึ้น โรงเรียนได้นโยบายในการส่งเสริมให้สามเณรนักเรียนดูแลและควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรรฐาน สามเณรจึงมีแนวคิดในการหาอุปกรณ์ในการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสมณสารูป จึงได้คิดค้นเครื่องออกกำลังกายโดยการนำจักรยานที่ชำรุดแล้วมาออกแบบเป็นเครื่องออกกำลังอยู่กับที่และได้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการวัดระยะการปั่นจักรยานเพื่อนำมาคำนวณการแคลอรี่ที่เผาผลาญในการออกกำลังกายในแต่ละครั้ง

วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินการ

1. เพื่อแก้ไขปัญหาภาวะโภชนาการของสามเณรนักเรียนที่น้ำหนักเกินมาตรฐาน
2. เพื่อให้สามเณรนักเรียนได้เรียนรู้การออกแบบและสร้างนวัตกรรมเพื่อประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
3. เพื่อนำไปใช้กับการทางด้านเกษตรช่วยในการลดการใช้พลังงาน ตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และเผยแพร่สู่ชุมชน

กระบวนการดำเนินงาน

หลักการทำงาน

เมื่อผู้ออกกำลังกายต้องการที่จะปั่นจักรยาน ผู้ออกกำลังกายจะต้องใส่น้ำหนักตัว  บนหน้าจอ บอร์ด KidBrigth ซึ่งค่ากลางที่เราตั้งไว้เท่ากับ 40 โดยผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 40 กก. ให้กดเซ็นเซอร์1 เพื่อเป็นการเพิ่มน้ำหนัก และผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่า 40 กก.ให้กดเซ็นเซอร์ 2 เพื่อเป็นการลดน้ำหนัก  จากนั้นเลือกความฝืด (METs คือ ค่าพลังงานที่ใช้ในการออกกำลังกาย)  โดยกดสวิตซ์ที่1 และเมื่อผู้ออก กำลังกายต้องการที่จะปรับระดับความฝืด (METs คือ ค่าพลังงานที่ใช้ในการออกกำลังกาย) ให้กดเซ็นเซอร์ 3 และ 4 เพื่อเป็นการเพิ่มและลด ระดับความฝืด ตามลำดับ  จากนั้นกดสวิตซ์2 เพื่อเป็นการเริ่มจับเวลา ในการออกกำลังกาย เมื่อผู้ออกกำลังกายต้องการที่จะหยุด ให้กด สวิตซ์ที่ 2 จะมีค่าการเผาผลาญพลังงาน แคลอรี่ขึ้นบนหน้าจอ ของ KidBrigth เมื่อสิ้นสุดการทำงานให้กดสวิตซ์ที่1 เพื่อรีเซ็ตค่าความฝืด ให้กลับมา อยู่ในระดับ 3 และเมื่อนำจักรยานไปติดกับปั้มน้ำแบบชัก ออกกำลังกายก็สามารถรถน้ำผักและอออกกำลัง กายไปพร้อมๆกันได้อีกด้วย

ผลการดำเนินงาน

1. สามเณรที่มีน้ำหนักเกินมารตราฐานทั้ง 5 รูป ได้ทดลองใช้จักรยานเพื่อสุขภาพในการออกกำลังกาย โดยทำการออกกำลังกายสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 3 วัน วันละ 1-2 ชั่วโมง ควบคู่กับการประทานอาหารถูกหลักโภชนาการ เช่นอาหารที่ปราศจากแป้ง น้ำตาล และไขมัน เพื่อลดน้ำหนัก สามารถลดน้ำหนักได้จริง ในระยะเวลา 5 เดือน ตามสถิติ ดังตารางต่อไปนี้

จากการทดลองใช้จักรยานเพื่อสุขภาพ สามเณรทั้งหมด 5 รูป ผลปรากฏว่าภายใน 5 เดือน สามเณรมีน้ำหนักลดลงร้อยละ 19.06

2. สามเณรได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) เทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (KIdBright) เพื่อที่จะช่วยออกแบบและสร้างนวัตกรรมจักยานเพื่อสุขภาพมีประสิทธิภาพและเกิดความทันสมัยมากยิ่งขึ้น สามารถศึกษาข้อมูลและออกแบบปั้มน้ำโดยใช้ท่อ PVC เป็นส่วนประกอบ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
3. สามเณรนักเรียนได้นำเอาจักรยานเพื่อสุขภาพไปประยุกต์ใช้กับการเกษตร โดยการติดตั้งปั้มน้ำกับจักรยาน เป็นการปั่นเพื่อลดน้ำหนักและรดน้ำพืชผักสวนครัวได้ เพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้า และลดการใช้เชื้อเพลิงน้ำมัน และนำความรู้ต่างๆเผยแพร่สู่ชุมชนให้สามารถนำไปใช้ภายในครัวเรือนได้เพื่อลดต้นทุนในการเกษตร

 ประโยชน์ที่ได้รับและการเผยแพร่

1. สามเณรนักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) เทคโนโลยี(วิทยาการคำนวณ และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (KIdBright) สามารถนำความรู้มาออกแบบและสร้างนวัตกรรมจักรยานเพื่อสุขภาพ เพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆภายโรงเรียนและในชีวิตประจำวันได้
2. สามเณรทั้งหมด 5 รูปที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ได้ทดลองใช้จักรยานเพื่อสุขภาพ สามารถลดน้ำได้หนักได้จริง และยังเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก ปลอดภัย เหมาะสำหรับสามเณรเนื่องจากออกกำลังกายในที่ที่อันสมควร ไม่เป็นโลกวัชชะ
3. ในการจัดกระบวนการเรียนรู้ในการออกแบบและสร้างนวัตกรรมจักรยานเพื่อสุขภาพ สามเณรนักเรียนใช้หลักการทางพระพุทธศาสนาและหลักการทางวิทยาศาสตร์ ในการทำงานจนสำเร็จ ซึ่งการดำรงชีวิตในปัจจุบันนี้ ต้องอาศัยหลักการของพระพุทธศาสนาและหลักการทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้จึงจะดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
4. สามเณรนักเรียนสามารถสืบค้นข้อมูลในการออกแบบและสร้างเครื่องปั้มน้ำโดยใช้ท่อPVC แทนการใช้เครื่องปั้มน้ำที่เป็นโลหะ นำไปติดตั้งกับจักรยานเพื่อสุขภาพในการปั่นเพื่อลดน้ำหนักและปั่นเพื่อปั้มน้ำรดน้ำพืชผักได้
5. จากการสร้างนวัตกรรมจักรยานเพื่อสุขภาพสามเณรนักเรียนสามรถถ่ายทอดความรู้ในการสร้างปั้มน้ำโดยใช้ท่อ PVC และติดตั้งกับจักรยานสู่ชุมชนให้นำไปใช้ในครัวเรือน เพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้า และลดการใช้เชื้อเพลิงน้ำมัน

 ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะ

          ปัญหาอุปสรรค

          –  สามเณรนักเรียนเกิดความท้อแท้ท้อถอย ขาดกำลังใจ ในการระหว่างการดำเนินงานบางทีอยากจะละทิ้งเป้าหมาย สาเหตุ คือ สามเณรนักเรียนยังขาดกระบวนการในการแก้ปัญหาอย่างเป็นขึ้นตอน อีกทั้งยังขาดความเข้าใจในการเขียนโปรแกรมลงในบอร์ด KIDBRIGHT

          ข้อเสนอแนะ

          โครงงานจักรยานเพื่อสุขภาพเป็นโครงงานที่น่าสนใจที่สามเณรได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และได้ลงมือปฏิบัติจริงโดยมีกระบวนการแก้ปัญหาอย่างเป็นขั้นตอน ซึ่งเป็นการฝึกฝนทักษะในการดำรงชีวิต โดยใช้หลักทางพระพุทธศาสนาควบคู่กับหลักการทางวิทยาศาสตร์

แนวทางการพัฒนาต่อเนื่อง

          ทางโรงเรียนมีแนวทางที่จะสร้างแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีและการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยการให้ให้สามเณรนักเรียนได้เรียนรู้การออกแบบสร้างนวัตกรรมที่สามารถแก้ปัญหาต่างๆภายในชีวิตประจำวันโดยการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ควบคู่ และถ่ายทอดหลักการใช้งานสู่ชุมชนเพื่อที่นำเอาไปใช้ในครัวเรือน เพื่อความสะดวกและลดต้นทุนในการซื้ออุปกรณ์สำเร็จรูป นอกจากนี้สามรถเป็นแหล่งการเรียนรู้สำหรับโรงเรียนหรือหน่วยงานที่มีความสนใจเข้ามาศึกษา

เอกสารอ้างอิง

1. ความสัมพันธ์ระหว่างพระพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ – OoCities   www.oocities.org/peera_pin/page20.html
2. วิธีคิดแบบวิทยาศาสตร์กับวิธีคิดแบบอริยสัจจ์ – Share.psu.ac.th – มหาวิทยาลัย …portal.psu.ac.th/blog/pisan-surat/4391
3. จักรยานสูบน้ำ ไม่ใช้ไฟ ไม่ง้อน้ำมัน | รักบ้านเกิด  https://www.rakbankerd.com/vdo.php?id=2278
4. KidBright  https://www.kid-bright.org/ เด็กไทยเขียนโปรแกรม คุมอุปกรณ์ สร้างโครงงานได้ตั้งแต่ 7 ขวบ ด้วย KidBright

เด็กไทยเขียนโปรแกรม คุมอุปกรณ์ สร้างโครงงานได้ตั้งแต่ 7 ขวบ ด้วย KidBright

คลิป VDO

จักรยานปั่นเพื่อ “ลด”และ“รด”

โครงงาน “ห้องเรียนอัจฉริยะ”

ผู้จัดทำ

1. สามเณรคณิศร สุขทัน                                     ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
2. สามเณรพุฒิพงศ์ พุทธา                                 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
3. สามเณรปัณณวัฒน์ สอนสมฤทธิ์                   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

อาจารย์ที่ปรึกษา

1. นายจีรวัฒน์ ปันทองมา
2. นางทรรศนาพร ปันทองมา

สถานศึกษา

โรงเรียนวัดดอนมงคลสันติสุขวิทยา ในโครงการตามพระราชด าริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี 199 หมู่ 4 ต.ดู่พงษ์ อ.สันติสุข จ.น่าน รหัสไปรษณีย์ 55210
โทรศัพท์/โทรสาร 054-767245 https://www.facebook.com/waddonmongkol

ที่มาและความสำคัญ

KidBright เป็นบอร์ดสมองกลฝังตัวที่สามารถทำงานตามชุดคำสั่ง โดยผู้เรียนสามารถสร้างชุดคำสั่งผ่านโปรแกรม KidBright IDE บนคอมพิวเตอร์ ที่ใช้งานง่าย เพียงใช้การลากบล็อกคำสั่งมาวางต่อกัน (Drag and Drop) ช่วยลดความกังวลเรื่องการพิมพ์ชุดคำสั่งผิด ชุดคำสั่งที่ถูกสร้างดังกล่าวจะถูกส่งไปที่บอร์ด KidBright ให้ทำงานตามที่โปรแกรมไว้ เช่น รดน้ำต้นไม้ตามระดับความชื้นที่กำหนด หรือเปิด-ปิดไฟตามเวลาที่กำหนด เป็นต้น
ทั้งนี้  ปัจจุบันนี้ไฟฟ้ามีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมาก แต่ก็มีผู้ที่ใช้ไฟฟ้าอย่างไม่รู้คุณค่า ทำให้เกิดปัญหาการใช้ไฟฟ้าอย่างสิ้นเปลือง ปัญหาของโครงงานนี้คือมองเห็นสามเณรบางรูปนั้นใช้ไฟในโรงเรียนไปกับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ อย่างสิ้นเปลืองมาก จึงทำให้ทางโรงเรียนต้องรับผิดชอบเสียค่าไฟฟ้าเป็นจำนวนเงินที่สูงขึ้นมาก ดังนั้น ทางผู้จัดทำเลยคิดโครงงานนี้เพื่อให้ใช้ไฟฟ้าในโรงเรียนตามความเหมาะสมให้มากยิ่งขึ้นเพื่อช่วดลดค่าใช้จ่ายในโรงเรียน

โครงงาน “แบบจำลองโรงเลี้ยงไก่อัตโนมัติ”

ผู้จัดทำ

1. สามเณรภูริทัต  บุญณะสิทธิ์                    ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
2. สามเณรภูวเดช  ขอทับกลาง                   ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3. สามเณรอดิสรณ์  ศิริโส                            ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

 อาจารย์ที่ปรึกษา

1. นายเจษฎาภรณ์  ต๊ะติ๊บ
2. นางสาวสุวิมล  อินจันทร์  

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

โรงเรียนวัดบุญยืน (พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา) ในโครงการตามพระราชดำริ     สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ได้มีการจัดการเรียนการสอนควบคู่กับการสนองงานพระราชดำริภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยในปัจจุบัน           ทางวัดบุญยืน พระอารามหลวง ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณเป็นวัดที่มีการจัดการสิ่งแวดล้อม ระดับ      ดีเยี่ยม ในการนี้ทางโรงเรียนจึงได้จัดตั้ง “โครงการธนาคารขยะขวดแลกไข่” เพื่อเป็นการจัดการขยะภายในบริเวณโรงเรียนและวัด  โดยมีการเลี้ยงไก่ไข่ และทางคณะผู้จัดทำได้ศึกษาแล้ว พบว่าการเลี้ยงไก่ไข่นั้นต้องมีการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการให้อาหาร ให้น้ำ และการเก็บไข่ เป็นต้น ดังนั้นก่อนที่จะดำเนินงานในกิจกรรมดังกล่าว คณะผู้จัดทำจึงมีแนวคิดที่จะสร้างแบบจำลอง           โรงเลี้ยงไก่ขึ้นโดยอาศัยการทำงานของ GoGo Board ควบคู่กับ Raspberry Pi

วัตถุประสงค์

1. เพื่อศึกษาการเขียนโปรแกรมและการทำงานของระบบสมองกลฝังตัว
2. เพื่อจัดทำระบบควบคุมการทำงานการเปิด-ปิดพัดลม, การให้อาหาร, การให้น้ำ และการเก็บไข่อัตโนมัติ ภายใต้คำสั่งการทำงานของ Gogo board
3. เพื่อเป็นการฝึกใช้ทักษะที่จำเป็นในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในการแก้ไขปัญหา

วัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการจัดทำโครงงาน

1. GoGo Board
2. รีเลย์
3. เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิ
4. เซ็นเซอร์น้ำฝน
5. พัดลม
6. มอเตอร์
7. ปั้มน้ำ
8. โมดูลนาฬิกา

ขั้นตอนการดำเนินงาน

1. คิดหัวข้อโครงงาน รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นของการจัดทำโครงงาน และนำเสนอโครงงานเพื่อยื่นขออนุมัติโครงการ
2. รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโครงงานอย่างละเอียด และวางแผนการทำงานอย่างเป็นระบบ
3. ศึกษาทำความเข้าใจทฤษฎี อุปกรณ์ และโปรแกรมต่างๆ ที่ต้องใช้ในการทำโครงงาน
4. ออกแบบ ทดลอง และจัดสร้าง ชิ้นงานย่อยต่างๆ ที่จะนำมาประกอบกันเป็นโครงงานจากนั้นสังเกต บันทึกผลการทำงานของชิ้นงานจัดทำรายงานโครงงานและนำเสนอโครงงาน
5. ประกอบชิ้นส่วนต่างๆ ของโครงงานเข้าด้วยกัน เป็นโครงงานที่สมบูรณ์ ตามที่กำหนดไว้
6. ทดลองและทดสอบและตรวจเช็คประสิทธิภาพการทำงานของโครงงานทั้งหมด
7. ปรับปรุงแก้ไขผลงานโครงงานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น บันทึกผลการทำงานของโครงงาน  เพื่อจัดทำรายงานโครงงาน
8. ปรับปรุง แก้ไข และรวบยอดข้อมูล รายงานโครงงานให้สมบูรณ์ จัดทำเป็นรูปเล่มโครงงาน และนำเสนอโครงงาน

แผนผังชุดแบบจำลอง

หลักการทำงาน 

การทำงานของแบบจำลองโรงเลี้ยงไก่อัตโนมัติ มี Gogo board เป็นตัวควบคุมทั้ง 4 ระบบดังนี้

1.ระบบการเปิด-ปิดพัดลม ถ้าเซ็นเซอร์อุณหภูมิมีค่ามากกว่า 900 ก็จะสั่งให้รีเลย์เปิดพัดลมโดยอัตโนมัติ และถ้าเซ็นเซอร์อุณหภูมิมีค่าน้อยกว่า 830 ก็จะสั่งให้รีเลย์ปิดพัดลมอัตโนมัติ

2. ระบบให้น้ำไก่ ถ้าเซ็นเซอร์น้ำฝนตรวจจับไม่พบน้ำบนแผ่นปริ้นตรวจจับหรือ มีค่าน้อยกว่า 500 ก็จะสั่งให้ รีเลย์ เปิดปั๊มน้ำโดยอัตโนมัติเพื่อส่งน้ำไปยังรางให้น้ำ และถ้าเซ็นเซอร์วัดความชื้น /น้ำฝนตรวจจับพบน้ำบนแผ่นปริ้นตรวจจับหรือ มีค่ามากกว่า 500 ก็จะสั่งให้รีเลย์ปิดปั๊มน้ำอัตโนมัติ

3. ระบบให้อาหาร เมื่อโมดูลนาฬิกาส่งค่าไปยัง GoGo Board (ทุก 3 ชม.) GoGo Board จะสั่งให้มอเตอร์ทำงานและหยุดอัตโนมัติ

4. ระบบการเก็บไข่ เมื่อโมดูลนาฬิกาส่งค่าไปยัง GoGo Board (ทุก 3 ชม.) GoGo Boardจะสั่งให้มอเตอร์ทำงานและหยุดอัตโนมัติ

ขอบเขตการพัฒนา

โรงเลี้ยงไก่ หรือฟาร์มไก่ต่างๆ ที่ต้องมีการเปิด – ปิด พัดลม เพื่อระบายอากาศ และการให้อาหารอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

กลุ่มประชากรตัวอย่าง

สร้างขึ้นเป็นแบบจำลองโรงเลี้ยงไก่อัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบายที่มีมากยิ่งขึ้นของเจ้าของฟาร์มที่ต้องการเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน

การประยุกต์การใช้งาน

สามารถทำงานได้โดยคนไม่ต้องมาเปิด – ปิดพัดลม, ปั๊มน้ำ รวมถึงการให้อาหารไก่

โครงงาน “Healty Chair”

ผู้จัดทำ

1. สามเณรกีรดิต           มีบุญ                  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
2. สามเณรรัชชานันท์    ขันตี                  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
3. สามเณรชนาภัทร      ใจปิง                 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางนัฐญาภรณ์ บริสุทธิ์

สถานศึกษา:  โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาวัดปรางค์ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

       เนื่องจากการนั่งเป็นเวลานานๆ หากนั่งผิดท่าก็อาจจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้อย่างเช่นการปวดหลัง ปวดไหล่ โดยเฉพาะเมื่อนั่งผิดท่าไปนานๆ ผู้นั่งจะมีอาการเมื่อยล้าตลอดเวลา และกระดูกคดงอผิดรูปถาวรทำให้ส่งผลไม่ดีต่อบุคลิกภาพและสุขภาพ ดังนั้น ผู้จัดทำโครงงานจึงได้พัฒนาโครงงาน เรื่อง Health Chair เพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพในการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ ให้ถูกตามลักษณะที่ถูกต้อง

วัตถุประสงค์

เพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพในการนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ ให้ถูกตามลักษณะที่ถูกต้อง

ประโยชน์ที่ได้รับ

ทำให้มีบุคลิกภาพและ สุขภาพที่ดีไม่มีอาการปวดหลังไม่ทำให้กระดูดผิดรูปทำให้มีความสุขในการทำงานตลอดทั้งวันเหมาะสำหรับคนที่นั่งทำงานทั้งวัน

ขั้นตอนการดำเนินงาน

ขั้นตอนที่ 1 (Plan) : วางแผนปรึกษากำหนดเป้าหมาย / ศึกษาออกแบบชุดจำลองตามลักษณะคล้ายโรงเรือน

ขั้นตอนที่ 2 (Do) : ลงมือปฏิบัติตามแผน/ออกแบบการเขียนโปรแกรมควบคุม Gogo Bright และ     นำสู่การปฏิบัติทดลองเพื่อสั่งการทำงานของอุปกรณ์ ให้ทำงานตามกระบวนการต่างๆ ที่เรากำหนดไว้

 ขั้นตอนที่ 3 (Check) : ติดตามตรวจสอบแก้ไขจากผลการทดลองและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ / ทดลองการทำงานของโครงงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

ขั้นตอนที่ 4 (Action): ดำเนินการปรับปรุงพัฒนาโครงงานอย่างเหมาะสมให้สามารถใช้งานได้จริงและสามารถนำสู่การไปประยุกต์ใช้ในโรงเรียนได้จริง

โครงงงาน “ตู้แลกเหรียญ”

ที่มาและความสำคัญ

  ทาง โรงเรียนเชียงกลางปริยัติศึกษาได้มีการจัดทำโครงงานตู้ขายปากกา ขึ้นในปีการศึกษาที่ผ่าน และเปิดให้นักเรียนได้ทำการทดลองซื้อปากกา ผ่านตู้ขายปากกา จากที่พบปัญหานักเรียนส่วนใหญ่ไม่มีเหรียญ 5 บาท จึงทำให้นักเรียนไม่ไปซื้อปากกาที่ตู้ขายปากกาและบางทีก็ต้องรอเจ้าหน้ามาขายปากกาเหมือนเดิม จากปัญหาที่กล่าวมานี้ ผู้จัดทำจึงคิดที่จะแก้ไขปัญหา โดยคิดทำโครงงานตู้แลกเหรียญขึ้นมา

วัตถุประสงค์

1. ออกแบบและสร้าง ตู้แลกเหรียญ
2. ประเมินผลการใช้งานของ ตู้แลกเหรียญ ด้วยวิธีการ ดังต่อไปนี้
   2.1  ทดสอบความแม่นยำของการตรวจสอบธนบัตร
   2.2  ทดสอบการแม่นยำของการจ่ายเหรียญให้ตรงกับธนบัตรที่ใส่

วัสดุอุปกรณ์

1. GOGO Bright                           
2. KidBright                                 
3. เซนเซอร์อินฟาเรด
4. สวิทช์
5. มอเตอร์
6. เซอร์โวมอเตอร์
7. แผ่นอะคริลิค
8. กาวร้อน
9. อะแดปเตอร์

ผังโครงสร้าง

หลักการทำงาน

             เงื่อนไขการทำงานของระบบ

1. เมื่อสอดธนบัตรใบละ 20 บาท ลงในช่องใส่ธนบัตร เซนเซอร์ตัวที่ 1 อ่านค่า แล้วสั่งให้มอเตอร์หมุนธนบัตรเข้าไป เมื่อผ่านเซนเซอร์ตัวที่ 2 และค่าของเซนเซอร์ขึ้น 2 ตัว ก็แสดงบนหน้าจอ LED ของ KidBright เป็นตัวเลข 20 และให้กดปุ่มปล่อยเหรียญ หน้าจอ LED ของ KidBright ก็จะขึ้นเป็นตัวเลข 4 เท่าจำนวนครั้งของ เหรียญที่จะปล่อย
2. เมื่อสอดธนบัตรใบละ 100 บาท ลงในช่องใส่ธนบัตร เซนเซอร์ตัวที่ 1 อ่านค่า แล้วสั่งให้มอเตอร์หมุนธนบัตรเข้าไป เมื่อผ่านเซนเซอร์ตัวที่ 2 และเซนเซอร์ตัวที่ 3 มีค่าของเซนเซอร์ขึ้น 3 ตัว ก็แสดงบนหน้าจอ LED ของ KidBright เป็นตัวเลข 100 และให้กดปุ่มปล่อยเหรียญ หน้าจอ LED ของ KidBright ก็จะขึ้นเป็นตัวเลข 20 เท่าจำนวนครั้งของ เหรียญที่จะปล่อย
3. เมื่อธนบัตรที่ใส่เข้าไปในช่อง แล้วเซ็นเซอร์อ่านค่าไม่ได้ ให้ขึ้นคำว่า Error แล้วให้มอเตอร์หมุนคืนธนบัตร
4. สามารถสอดเพิ่มธนบัตรได้ (เช่น เมื่อสอดธนบัตรใบละ 20 บาท เข้าไป 1 ครั้ง แล้วสามารถสอดธนบัตรใบละ 20 บาท เพิ่ม รวมเป็น 40 บาท และปล่อยเหรียญเท่าจำนวนเงินที่ใส่เข้าไป หรือใส่ธนบัตรใบละ 100 บาท และใบ 20 บาท รวมเป็น 120 บาท ก็จะปล่อยเหรียญเท่าจำนวนเงินที่ใส่เข้าไป)

ผลการทดสอบ

     สรุปผลการทดลอง ทั้ง 2 ชนิด คือ ใบละ 20 และใบละ 100
จากการทดสอบ สอดธนบัตรทั้ง 2 ชนิด คือ ใบละ 20 และใบละ 100 จำนวน 100 ครั้งพบว่าเซนเซอร์อ่านค่าถูกว่าเป็นธนบัตรใบละ 20 และเหรียญที่ปล่อยตรงตามจำนวน จำนวน 98 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 98 และอ่านค่าผิด จำนวน 2 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 2 และ พบว่า ระบบเซนเซอร์อ่านค่าถูกว่าเป็นธนบัตรใบละ 100 และเหรียญที่ปล่อยตรงตามจำนวน จำนวน 72 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 72 และอ่านค่าผิด จำนวน 28 ครั้งคิดเป็นร้อยละ 28 จากการทดสอบทั้งกล่าวจะเห็นได้ว่า การอ่านค่าของธนบัตรใบละ 100 ข้อผิดพลาด มากกว่าธนบัตรใบละ 20
ทดสอบ

ขั้นตอนการดำเนินงาน

ขั้นตอนที่ 1 (Plan) : วางแผนปรึกษากำหหนดเป้าหมายฝศึกษาออกแแบบชุดจำลองของโครงสร้างที่ออกแแบ

ขั้นตอนที่ 2 (Do) : ลงมือปฏิบัติตามแผน/ออกแบบการเขียนโปรแกรมควบคุม KidBrightและ GOGO Brightนำสู่การปฏิบัติทดลองเพื่อสั่งการทำงานของอุปกรณ์ ให้ทำงานตามกระบวนการต่างๆ ที่เรากำหนดไว้

ขั้นตอนที่ 3 (Check) : ติดตามตรวจสอบแก้ไขจากผลการทดลอง / ทดลองการทำงานของโครงงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

ขั้นตอนที่ 4 (Action): ดำเนินการปรับปรุงพัฒนาโครงงานอย่างเหมาะสมให้สามารถใช้งานได้จริงและสามารถนำสู่การไปประยุกต์ใช้ได้

วีดีโอผลงาน

คณะผู้จัดทำโครงงาน

สามเณรภูวนาท    สิทธิ

สามเณรฉัตรริน   มาจันทร์

อาจารย์ที่ปรึกษา
นางสาวศิวพร จิณะแสน    สอนวิชา การงานอาชีพ
โทรศัพท์ 0897586821 E-mail nong55160@gmail.com

สถานศึกษา โรงเรียนเชียงกลางปริยัติศึกษา
ที่อยู่ของโรงเรียน 551 หมู่ 13 บ้านสบกอน ต.เชียงกลาง อ.เชียงกลาง จ.น่าน

โครงงาน “ตู้ขายปากกา  เวอร์ชั่น 2”

ที่มาและความสำคัญ

ทางโรงเรียนเชียงกลางปริยัติศึกษา ของเราได้จัดทำโครงงานตู้ขายปากกาขึ้น ในปีการศึกษาที่ผ่านมา เพื่อนำไปใช้แก้ไขปัญหาเจ้าหน้าที่ห้องสหกรณ์ของโรงเรียนไม่เปิดห้อง จากการนำตู้ขายปากกานำไปใช้จริง ผู้จัดทำพบปัญหาการทำงานของระบบตู้ขายปากกา คือ 1. เมื่อหยอดเหรียญ 1 บาท หรือ 2 บาท ลงไป บางครั้งเครื่องก็อ่านค่าของเหรียญได้ และทำการจ่ายปากา (เนื่องจากเรากำหนดค่าของปากกา คือ ต้องหยอดเหรียญ 5 บาท เท่านั้น) 2.เมื่อหยอดเหรียญลงไปแล้ว กดปุ่มกดเลือกปากกาแล้ว ปากกาไม่จ่าย จากปัญหาข้างต้นผู้จัดทำเลยต้องการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของตู้ขายปากกาให้มีประสิทธิภาพการทำงานให้แม่นยำขึ้น จึงได้จัดทำโครงงานตู้ขายปากกาเวอร์ชั่น 2 ขึ้น

วัตถุประสงค์

1. เพื่อให้ได้ตู้ขายปากกา ตามเงื่อนไขที่กำหนด
2. เพื่อลดปัญหาการ ขายปากกาเวลาไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่
3. เพื่อนำเทคโนโลยีของ GoGo Bright และ KidBright มาประยุกต์ใช้

วัสดุอุปกรณ์

1. GOGO Bright
2. KidBright
3. เซนเซอร์อินฟาเรด
4. สวิทช์
5. มอเตอร์
6. อะแดปเตอร์
7. แผ่นอะคริลิค
8. กาวร้อน

หลักการทำงาน

เงื่อนไขการทำงานของระบบ

1. เมื่อหยอดเหรียญ 1 บาท ผ่านเซ็นเซอร์ ครบ 5 เหรียญ ก็แสดงบนหน้าจอ LED ของ KidBright เป็นตัวเลข 5 ผู้ซื้อสามารถเลือกกดปุ่มปากกา สีแดง และสีน้ำเงินได้
2. เมื่อหยอดเหรียญ 5 บาท ผ่านเซ็นเซอร์ ก็หน้าจอ LED ก็แสดงบนหน้าจอ LED ของ KidBright เป็นตัวเลข 5 ผู้ซื้อสามารถเลือกกดปุ่มปากกา สีแดง และสีน้ำเงินได้
3. เมื่อผู้ซื้อหยอดเหรียญ 2 บาท และ เหรียญ 10 บาท ตู้จะทำการคืนเงินให้
4. ถ้าไม่หยอดเหรียญเมื่อกดปุ่มเลือกเลือกปากกา ก็ไม่สามารถปล่อยมาปากกาให้ผู้ซื้อ
5. สามารถหยอดเหรียญ 1 บาท และเหรียญ 5 บาท รวมกันได้ และแสดงหน้าจอ LED เป็นตัวเลข 5 ตัวเลข 10 ตัวเลข 15 ตัวเลข 20 เมื่อผู้ซื้อกดปุ่มปากกา สีแดง และสีน้ำเงิน ค่าของตัวเลขบนหน้าจอ LED ก็จะลดค่าที่ละ 5 จนกว่าจะมีค่าเป็น 0
6. เมื่อหยอดเหรียญไม่ครบตามจำนวนค่าของปากกาที่ กำหนดค่าปากกา คือ 5 บาท ก็ไม่สามารถกดเลือกปากกาได้
   

ขั้นตอนการดำเนินงาน

ขั้นตอนที่ 1 (Plan) : วางแผนปรึกษากำหหนดเป้าหมายฝศึกษาออกแแบบชุดจำลองของโครงสร้างที่ออกแแบ

ขั้นตอนที่ 2 (Do) : ลงมือปฏิบัติตามแผน/ออกแบบการเขียนโปรแกรมควบคุม KidBrightและ GOGO Brightนำสู่การปฏิบัติทดลองเพื่อสั่งการทำงานของอุปกรณ์ ให้ทำงานตามกระบวนการต่างๆ ที่เรากำหนดไว้

ขั้นตอนที่ 3 (Check) : ติดตามตรวจสอบแก้ไขจากผลการทดลอง / ทดลองการทำงานของโครงงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

ขั้นตอนที่ 4 (Action): ดำเนินการปรับปรุงพัฒนาโครงงานอย่างเหมาะสมให้สามารถใช้งานได้จริงและสามารถนำสู่การไปประยุกต์ใช้ได้

วีดีโอผลงาน

คณะผู้จัดทำโครงงาน

สามเณรสุวพีร์    สมฤทธิ์

สามเณรพัฒชรพล   สุขอยู่

อาจารย์ที่ปรึกษา

นางสาวศิวพร จิณะแสน     โทรศัพท์ 0897586821         E-mail nong55160@gmail.com

สถานศึกษา โรงเรียนเชียงกลางปริยัติศึกษา

ที่อยู่ของโรงเรียน 551 หมู่ 13 บ้านสบกอน ต.เชียงกลาง อ.เชียงกลาง จ.น่าน

โครงงาน “เครื่องนับเหรียญอัตโนมัติ”

ผู้จัดทำ

1. สามเณรณัฐพงษ์ ศรีสวัสดิ์     ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
2. สามเณรธีรัช ปัญญาวงค์        ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
3. สามเณรนพรัตน์   คำพาบ      ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

อาจารย์ที่ปรึกษา: นายสุรชัย   ฟองนันตา

โรงเรียนพระปริยัติศาสนาภิพัฒน์ วัดเมืองราม   จังหวัดน่าน

เนื่องด้วยในแต่ละวันสหกรณ์ร้านค้าและสหกรณ์ออมทรัพย์ของโรงเรียนพระปริยัติศาสนาภิพัฒน์ วัดเมืองราม มีสามเณรนำเงินมาซื้อของโดยได้รับเหรียญหลายประเภทและเป็นจํานวนมากซึ่งเสียเวลาในการใช้บุคลากรคัดแยกและนับจํานวนอีกทั้งยังอาจเกิดความผิดพลาดในการนับจํานวนขึ้นได้ ทางผู้จัดทําโครงงานจึงได้คิดประดิษฐ์เครื่องแยกและนับเหรียญขึ้น เพื่อคัดแยกเหรียญแต่ละประเภทออกจากกัน แสดงจํานวนเหรียญหรือจํานวนเงินของเหรียญแต่ละประเภท แสดงจํานวนเงินรวม และแจ้งการทํางานผ่านระบบเครือข่าย (IoT) ซึ่งโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ในการช่วยลดเวลาการทํางานและลดข้อผิดพลาดจากการ จากการนับด้วยบุคลากร ช่วยให้ปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารนําไปใช้กับร้านค้าทั่วไป หรือผู้ที่สนใจได้อีกด้วย

โครงงาน “เครื่องวัดการงอตัวไปข้างหน้า”

(ความยืดเยียดของกล้ามเนื้อ)

ผู้จัดทำ

1.  สามเณรวสุรัตน์     แปงไชย   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
2. สามเณรเจษฏา       ตรีมูล       ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

อาจารย์ปรึกษา:          นายศิวะนันท์  บัวนิติสกุล

โรงเรียนนันทบุรีวิทยา พระปริยัติธรรม  จังหวัดน่าน

เทคโนโลยีหมายถึงสิ่งที่มนุษย์พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ เทคโนโลยีเป็นการประยุกต์นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้และก่อให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติแก่มวลมนุษย์   เทคโนโลยีเป็นการนำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในการประดิษฐ์สิ่งของต่างๆให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในปัจจุบันได้นำเอาความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ในด้านการดูแลรักษาสุขภาพ เบื้องต้น อาทิในการออกกำลังกายก็จะมีเครื่องมือวัดอัตราการทำงานของหัวใจ เครื่องมือวัดความดันโลหิต  เครื่องชั่งน้ำนัก ที่วัดส่วนสูงระบบอัตโนมัติเครื่องมือทดสอบการออกกำลังกายเพื่อนำผลที่ได้มาจำแนกว่าบุคคลนั้นสามารถออกกำลังกายได้ในเวลากี่นาที ต่อครั้ง และสามารถระบุประเภทการออกกำลังกายได้ว่าการออกกำลังกายประเภทไหนที่เหมาะสมกับวัยของตนเอง

คณะผู้จัดทำโครงงานการงอตัวไปข้างหน้า(ความยืดเยียดของกล้ามเนื้อ) ขึ้นเพื่อเป็นเครื่องที่วัดความยืดหยุ่นของกลุ่มกล้ามเนื้อบริเวณต้นขาด้านหลัง หลังส่วนล่าง เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยให้การออกกำลังกายของเราได้อย่างเหมาะสมกับสภาพร่างกายของเราให้ดียิ่งขึ้นและ ได้เรียนรู้การประยุกต์ใช้การใช้สมองกลฝังตัว KidBright ในการควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ   และเพื่อการพัฒนาการใช้โปรแกรม KidBright  ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

โครงงาน “นับจำนวนคนเข้า-ออก ห้องสมุด”

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

เนื่องจากในปัจจุบันมีจำนวนประชากรเพิ่มมากขึ้นและมีความเป็นไปได้สูงที่ทาง ผู้ให้บริการในด้านต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า ห้องสมุด โรงพยาบาล ฯ ย่อมอยากรู้จำนวนคนเข้าออกและจำนวนคนที่อยู่ภายในอาคารเพื่อที่จะได้พัฒนาหรือปรับปรุงสถานที่ที่ให้บริการของตัวเองให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและปัจจุบันเทคโนโลยี Internet of Things กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเนื่องในยุคโลกาภิวัตน์ ทางคณะผู้จัดทำได้มีความคิดว่าควรจะนำเทคโนโลยีส่วนนี้มาประยุกต์ใช้ใน โรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา จังหวัดแพร่ มีห้องสมุดในโรงเรียนเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ บริการในการสืบค้นข้อมูลในด้านต่างๆ ซึ่งแต่ละวันมีนักเรียนเข้าใช้บริการจำนวนวันละประมาณ 100 กว่ารูป ดังนั้นเพื่อเป็นการจัดเก็บข้อมูลจำนวนนักเรียนสามเณรและผู้ที่มาใช้บริการห้องสมุดในแต่ละวัน เดือน ปี ให้มีจำนวนที่แน่นอนและสามารถนำมาเป็นข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียนต่อไป

วัตถุประสงค์

1. ศึกษาการเขียนโปรแกรมและการทำงานของระบบสมองกลฝังตัว
2. ศึกษาการทำโครงงานวิทยาศาสตร์สิ่งประดิษฐ์
3. เพื่อบันทึกสถิติการเข้าห้องสมุดในแต่ละวัน สัปดาห์ เดือน  เพื่อให้รู้ว่ามีผู้เข้ารับบริการห้องสมุดจำนวนที่แน่นอนเป็นการเก็บข้อมูลสารสนเทศของโรงเรียน
4. เสริมสร้างความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ พัฒนากระบวนการคิด การกล้าแสดงออก
5. สามารถนำโครงงานไปประยุกต์ใช้ได้จริง

วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ทำโครงงาน

1.  GoGo Board                                          2.  Raspberri Pi                                             3.  Relay

4.  ไม้                                                           5.  Clock module                                        6. PIR motion sensor

7. Infrared sensor                                     8. หลอดไฟ                                                  9. Adaptor & USB wire

10.  Micro SD                                      11.  Web camera                                             12.   สายไฟจัมเปอร์สายแพร

ผังโครงสร้าง

เงื่อนไขการทำงานของระบบ

การติดตั้งระบบ(แบบจำลอง)

1. ติดตั้ง GoGo Board และ Raspberry PI บนโครงสร้างที่เตรียมไว้ เสียบสาย micro USB  ให้เรียบร้อย แฟลชเมโมรี่การ์ดและลงระบบปฏิบัติการของ Pi ให้เรียบร้อย
2. เสียบสาย INPUT SENSOR บนบอร์ดดังนี้
   พอร์ตที่ 1 : Infrared sensor ติดตั้งบริเวณผนังทางเข้า โดยยิงเซนเซอร์จากอีกฝั่งไปชนกับอีกฝั่งหนึ่ง
   พอร์ตที่ 2 : Motion  Sensor ใช้ตรวจจับการเคลื่อนไหวภายในห้องสมุด
   พอร์ตที่ 3 : Button ปุ่มจำลองในการส่งข้อความแจ้งเตือนผ่านสมาร์ทโฟนเมื่อถึงเวลาที่กำหนด
   พอร์ต I2C : GoGo Clock Module ส่งข้อมูลเวลาให้บอร์ด
3. เสียบสาย OUTPUT 5V บนบอร์ดดังนี้
   พอร์ต A : ต่อกับ Relay เพื่อควบคุมหลอดไฟ

การทำงานของระบบ

1. การนับจำนวนคน เมื่อมีคนเดินผ่าน ณ ทางเข้า ซึ่งตัดกับทางเดินของแสงอินฟราเรด ทำให้ค่าสัญญาณ   เปลี่ยน บอร์ดจะนับ 1, 2,3 ไปเรื่อยๆและ สั่งเปิดใช้งานไปเมื่อมีคนอยู่ และเมื่อมีคนออก ระบบ จะทำให้ค่า สัญญาณ เปลี่ยน บอร์ดจะลดจำนวนลงตามจพนวนคนออก เมื่อไม่มีผู้คนอยู่ในห้องสมุดแล้ว ระบบ จะทำการ ปิดไฟในห้องสมุด อัตโนมัติ และ ห้องสมุดจะปิด เวลา 17.30 น. Pi จะแจ้งจำนวนผู้เข้าห้องสมุดผ่าน  เทเลแกรมแอพพลิเคชั่น ในวันนั้นๆ และ จำนวนคนจะถูกรีเซ็ตเป็น 0 เพื่อนับใหม่ในวันถัดไป
2. เมื่อครบ 1 อาทิตย์ ระบบจะส่งค่าของจำนวนผู้เยี่ยมชมทั้งหมดในอาทิตย์นั้นๆ และคิดค่าเฉลี่ยให้
3. เมื่อมีผู้เข้าใช้บริการห้องสมุด จะใช้ Motion Sensor ตรวจจับ หากมีคนเข้าจะเปิดไฟค้างไว้ แต่ถ้าไม่มีคนอยู่ในห้องสมุด ระบบจะปิดไฟอัตโนมัติ เพื่อประหยัดพลังงาน
4. ระบบจะบันทึกกราฟของจำนวนผู้เข้าชมใน 1 วัน ไว้เป็นสถิติ และ จะช่วยเปรียบเทียบได้ว่า วันที่มีคนมาเยี่ยมชมมากที่สุด และ น้อยที่สุด ซึ่งสามารถนำไปดำเนินการทางสถิต และเอามาเก็บรวบรวมได้ เพื่อเป็นสถิติ

CODE คำสั่งการทำงาน

ผลของการทดสอบ

สามารถใช้งานตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ระบบนับจำนวนคนเข้าออกห้องสมุด สามารถทำงานตามคำสั่งของ Algorithm ของโปรแกรมที่เขียนได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ โดยการทดสอบการควบคุมการนับในแบบต่างๆแล้วพบว่าการส่งข้อมูล Telegram จะขึ้นอยู่กับคุณภาพของสัญญาณอิเตอร์เน็ตและความเสถียรของ Sever ของ Telegram เอง

รูปการทำงาน

ขั้นตอนที่ 1 (Plan) : วางแผนปรึกษากำหนดเป้าหมาย / ศึกษาออกแบบชุดจำลองของโครงสรา้งที่ออกแบบ

ขั้นตอนที่ 2 (Do) : ลงมือปฏิบัติตามแผน/ออกแบบการเขียนโปรแกรมควบคุมระบบการทำงาน   นำสู่การปฏิบัติทดลองเพื่อสั่งการทำงานของอุปกรณ์ ให้ทำงานตามกระบวนการต่างๆ ที่เรากำหนดไว้

ขั้นตอนที่ 3 (Check) : ติดตามตรวจสอบแก้ไขจากผลการทดลอง / ทดลองการทำงานของโครงงานให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

ขั้นตอนที่ 4 (Action): ดำเนินการปรับปรุงพัฒนาโครงงานอย่างเหมาะสมให้สามารถใช้งานได้จริงและสามารถนำสู่การไปประยุกต์ใช้ได้

วีดีโอผลงาน

คิตตามได้ผ่าน youtube คลิก ลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับ

คณะผู้จัดทำโครงงาน

1. สามเณรสุรเดช      กอนสัน
2. สามเณรณรงชัย      ธรรมโหร
3. สามเณรณัฐพล        จ่อแก้ว

ครูที่ปรึกษาโครงงาน

1. นายอนันต์  จินดาคำ
2. นางสาวเบญจมาศ  หงษ์ห้า

สถานศึกษา

โรงเรียนพุทธโกศัยวิทยา   จังหวัดแพร่   16 ถนนเจริญเมือง ตำบล ในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่   54000

โครงงาน “ตู้อบสมุนไพร”

ผู้จัดทำ

1. สามเณรนวล ดวงแก้ว
2. สามเณรอชิตพล คำปัญจะ
3. สามเณรธนากร ชัยวงค์

ครูที่ปรึกษา

1. พระใบฎีกาพิพัฒน์ อภิวฑฺฒโน
2. นางสาวสริตา เมืองมูล

โรงเรียนร้องแหย่งวิทยาคม พระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จังหวัดแพร่

โครงงานตู้อบสมุนไพร มีจุดมุ่งหมายเพื่อออกแบบ สร้างตู้อบสมุนไพรอัจฉริยะไว้ใช้ในโรงเรียน และเพื่อประเมินผลการใช้งานของตู้อบใบชาอัจฉริยะ ด้วยวิธีการควบคุมอุณหภูมิภายในตู้ให้มีความเหมาะสม ต่อคุณภาพของใบชา และสามารถควบคุม ดูการทำงานของตู้อบใบชาผ่านโทรศัพท์มือถือได้ ซึ่งการสร้างตู้อบ สมุนไพรในครั้งนี้ มีระดับความพึงพอใจมากที่สุด โดยมีวัสดุที่ใช้ และประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ เหมาะสม แก่การใช้งาน โดยประสิทธิภาพของตู้อบสมุนไพร มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับดี การทำงานของมอเตอร์ การทำงานของพัดลมระบายอากาศ และคุณภาพของใบชา มีประสิทธิภาพในการทำงานระดับดี ส่วนประสิทธิภาพ การทำงานของโปรแกรม และประสิทธิภาพของการควบคุมอุณหภูมิภายในตู้ ยังอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากโครงงานนี้ยังเป็นโครงงานใหม่ ที่ต้องอาศัยการทดลองให้คงที่ ทั้งการทำงานของโปรแกรม และคุณค่าของใบชาที่ได้ จึงควรมีการพัฒนาทดสอบคุณค่าทางสมุนไพรของใบชา เพื่อเปรียบเทียบกับผลผลิตที่ได้ จากตู้อบสมุนไพร เพื่อประโยชน์ต่อการศึกษาต่อไป