โครงงานสมองกลฝังตัว

  • หน้าหลัก
  • อิคคิวซัง
    • ปีการศึกษา 2562
    • ปีการศึกษา 2561
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
    • ปีการศึกษา 2558
    • ปีการศึกษา 2557
    • ปีการศึกษา 2556
  • ทสรช.
    • ปีการศึกษา 2562
    • ปีการศึกษา 2561
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
  • สถานพินิจ
    • ปีการศึกษา 2562
  • โรงเรียนคนพิการ
    • ปีการศึกษา 2562
  • มหาวิทยาลัย
    • ปีการศึกษา 2560
    • ปีการศึกษา 2559
  • STEM ปี 2560
  • Show&Share2022
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อศึกษาและดูแลสิ่งแวดล้อม
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อการเกษตรอัจฉริยะ
    • โครงงานสิ่งประดิษฐ์เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและชุมชน
    • โครงงานลิฟต์
    • รายชื่อผู้เข้าแข่งขันอื่นๆ

Author Archives: hrh

BC40 โครงงานระบบนับและคัดแยกไข่ไก่อัตโนมัติ โรงเรียนปิยชาติพัฒนาฯ จังหวัดนครนายก

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “ระบบนับและคัดแยกไข่ไก่อัตโนมัติ”

ผู้จัดทำ

  1. นายวีระพงศ์ วงษ์พระจันทร์             ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
  2. นายพงศกร กันหา                            ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
  3. นางสาวฐนิชา สุวรรณปัญญา          ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวรุ่งรัตน์ จีรวิทย์ขจร

สถานศึกษา: โรงเรียนปิยชาติพัฒนา ในพระราชูปถัมภ์ฯ  ตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก

บทนำ

โครงงานเรื่อง เครื่องนับและคัดแยกขนาดไข่ไก่อัตโนมัติมีจุดมุ่งหมาย คือ ประดิษฐ์เครื่องนับจำนวนและคัดแยกขนาดไข่ไก่ ที่สามารถนับและคัดแยกภายในเล้าไก่ เพื่อช่วยให้การนับและคัดแยกไข่ไก่ได้ดีตามมาตราฐาน ในโครงงานนี้ประกอบไปด้วยเครื่องนับและคัดแยกไข่ไก่ เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ของโครงงาน

คณะผู้ทำโครงงานสังเกตพบปัญหาในเรื่องของการนับจำนวนของไข่ไก่และการคัดแยกไข่ไก่ หลังจากนั้นจึงนำปัญหาดังกล่าวมาปรึกษาและหาวิธีการแก้ไขปัญหา จึงได้จัดทำโครงงานเรื่องนี้ขึ้นมาและในผลของการดำเนินงาน เครื่องนับและคัดแยกไข่ไก่อัตโนมัติสามารถนับจำนวนและคัดแยกไข่ไก่ให้ได้ตามขนาดเบอร์ตามมาตราฐานได้จริงได้จริง สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของโครงงานที่ได้กำหนดไว้

 

BC39 โครงงานเครื่องคัดน้ำหนักของผลมะม่วง โรงเรียนปิยชาติพัฒนาฯ จังหวัดนครนายก

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “เครื่องคัดน้ำหนักของผลมะม่วง “

ผู้จัดทำ

  1. นายณัฐพล            พิมพา                 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
  2. นายพลาธิป           มีบุบผา               ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
  3. นางสาวนวรัตน์     หมีนาค                ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นางสาวรุ่งรัตน์  จีรวิทย์ขจร

สถานศึกษา: โรงเรียนปิยชาติพัฒนา ในพระราชูปถัมภ์ฯ  ตำบลพรหมณี  อำเภอเมืองนครนายก  จังหวัดนครนายก

บทนำ

ในประเทศไทยจะมีการปลูกมะม่วงอย่างแพร่หลายทั่วภูมิภาค แต่พบว่าการส่งออกมะม่วงไปต่างประเทศนั้นมีเพียงร้อยละ 1.7 เท่านั้นส่วนร้อยละ 98 เป็นการบริโภคในประเทศเท่านั้น สถานการณ์การผลิตและการตลาดมะม่วงไทย ข้อมูลจากศูนย์สารสนเทศการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการเกษตร ระบุว่า ในปี พ.ศ. 2557 มีพื้นที่ปลูกมะม่วงทั่วประเทศ 2,131,590 ไร่ ผลผลิต 3,308,230 ตัน พบว่ามูลค่าส่งออกมะม่วงในตลาดโลก 170,460.64 ล้านบาท ไทยได้มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่อันดับที่ 9 โดยประเทศที่มีการส่งออกมากที่สุดคือ เม็กซโก 22.64% รองลงมาคือ อินเดีย 20.25% บราซิล13.18% ปากีสถาน 6.94% เนเธอร์แลนด์ 6.42% เปรู 5.71% เอกวาดอร์ 4.31% ฟิลลิปปินส์ 3.61% และจีน 1.31% ส่วนไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 1.55% เท่านั้น ซึ่งถือว่าเรายังสามารถขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้อีกมาก

ผู้จัดทำโครงงานได้สังเกตเห็นว่าการค้าขายผลไม้ (มะม่วง) ตามท้องตลาดมีการขายเป็นกิโลกรัม โดยแต่ละกิโลกรัมผู้ซื้อจะได้รับจำนวนผลไม้(มะม่วง) และราคาต่างกันทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดและคุณภาพของผลไม้(มะม่วง) ที่ทางผู้ผลิตหรือผู้ขายเป็นคนกำหนดจำนวนผลไม้(มะม่วง) และราคาขายโดยแบ่งระดับของผลไม้(มะม่วง) ตามคุณภาพหรือน้ำหนักของผลไม้(มะม่วง) ซึ่งทำให้มีปัญหาในเรื่องของจำนวนผลไม้(มะม่วง) และราคาซื้อขายที่ไม่ได้มาตรฐานแก่ผู้ซื้อและผู้ขาย

การที่ผู้ซื้อและผู้ขายได้จำนวนผลไม้(มะม่วง) และราคาซื้อขายที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้เกิดการซื้อขายที่ไม่เป็นธรรมได้ แต่หากใช้ Weight ชั่งน้ำหนักผลไม้(มะม่วง) อย่างเดียวอาจเกิดความไม่สะดวกสบายในการคัดแยกน้ำหนักได้  ผู้จัดทำโครงงานจึงมีแนวคิดออกแบบสมองกลฝังตัวควบคุมน้ำหนักผลไม้(มะม่วง) ในแต่ละลูกผ่านการชั่งน้ำหนัก ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงงานต้องการคัดน้ำหนักของผลไม้(มะม่วง) โดยแบ่งการคัดขนาดออกเป็น 4 ขนาด คือ ขนาดเล็กกว่ามาตรฐาน ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ และขนาดมาตรฐาน ซึ่งทำให้ผลไม้(มะม่วง) ในแต่ละลูกมีขนาดใกล้เคียงหรือเท่ากันตามขนาดที่แบ่งไว้ได้ขนาดตามที่จะขาย และสามารถนำเครื่องวัดความเข้มแสงที่ได้มาพัฒนามาปรับใช้กับโครงงาน เพื่อส่งสัญญาณระบุการผ่านของผลไม้(มะม่วง) ที่ได้รับการชั่งน้ำหนักแล้ว โดยจะมีเสียงเตือนเกิดขึ้นเมื่อผลไม้(มะม่วง) ผ่านไปแล้ว และมีการเชื่อมต่อวงจรเข้ากับจอแสดงผล LCD  เพื่อแสดงค่าน้ำหนักผลไม้(มะม่วง) แต่ละลูกได้

BNE37 โครงงานสมาร์ทไฮโดรโปนิกส์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 53 จังหวัดสกลนคร

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “สมาร์ทไฮโดรโปนิกส์”

ผู้จัดทำ

1. นางสาวสุนันทา แจ่มผล
2. นางสาวธิดา ยันตะพันธ์
3. นางสาวเพ็ญนภา เสมอกาล

อาจารย์ที่ปรึกษา

1. ครูสานิต โลบภูเขียว
2. ครูนวภพ เศษเพ็ง
3. ครูณัฐพล วงษ์ยอด

สถานศึกษา:  โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 53 จังหวัดสกลนคร

บทคัดย่อ

โครงงานเรื่อง สมาร์ทไฮโดรโปรนิกส์มีที่มาจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 53 จังหวัดสกลนครเป็นโรงเรียนประจำที่ส่งเสริมให้นักเรียนที่จบ การศึกษาออกไปได้มีอาชีพติดตัวไปเพื่อการเลี้ยงชีพตัวเอง ซึ่งหนึ่งกิจกรรมที่นักเรียนให้ความสนใจและสร้างรายได้ให้กับนักเรียนคือ “การปลูกผัก” ในแต่ละวันนักเรียนจะใช้เวลาว่างและช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเพื่อไปดูแล และทางโรงเรียนได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะ ด้านอิเล็กทรอนิกส์และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จึงได้นำเอาความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมอบรมมาเพื่อช่วยในการเลี้ยงไก่เนื้อ ซึ่งมีวัตถุประสงค์คือ 1. เพื่อสร้างสมาร์ทฟาร์มปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ 2. เพื่อเกิดความสะดวกสบายในการปลูกและดูแลรักษา 3. เพื่อเพิ่มคุณภาพของผลผลิต แนวคิดในการพัฒนาคือเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ภายในสมาร์ทด้วยระบบอัตโนมัติผ่านบอร์ด Arduino โดยใช้เซนเซอร์วัดค่าอุณหภูมิและความชื้น เซนเซอร์วัดระดับน้ำโดยมีขั้นตอนในการดำเนินงาน 1. ศึกษาข้อมูล ขั้นตอนและวิธีการจัดทำสมาร์ทไฮโดรโปรนิกส์ 2. ออกแบบอุปกรณ์ควบคุมภายใน
โรงเรือนผัก 3. เขียนโปรแกรมควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ในสโรงเรือน โดยกำหนดให้เซนเซอร์วัดอุณหภูมิวัดค่าเพื่อสั่งการทำงานของพัดลม และเซนเซอร์วัดค่าความเข้มแสงเพื่อสั่งการทำงานของระบบพ่นหมอก 4. ต่อวงจรไฟฟ้า และทดลองใช้โปรแกรมควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ในโรงเรือน 5. สร้างและประกอบอุปกรณ์ใส่เข้าไปในแบบจำลองสมาร์ทไฮโดรโปรนิกส์ 6. ทดลองใช้
สมาร์ทไฮโดรโปรนิกส์ และบันทึกผลการทดลอง ซึ่งผลการทดลองพบว่าจาการศึกษาและทดสอบสมาร์ทโฮโดรโปรนิกส์พบว่า เมื่อเซนเชอร์วัดค่าอุณหภูมิได้มากกว่า หรือเท่ากับ 30 พัดลมจะทำงานเพื่อระบายอากาศภายในโรงเรือน และเมื่อเซนเชอร์วัดค่าแสงได้มากกว่า 35% เครื่องพ่นหมอกจะทำงานเพื่อเพิ่มความชื้นในโรงเรือนตามที่ได้เขียนคำสั่งลงในบอร์ด Arduino

 

BNE36 โครงงานครามราชประชา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 53 จังหวัดสกลนคร

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “ครามราชประชา”

ผู้จัดทำ

  1. นางสาวสุนันทา แจ่มผล
  2. นางสาวธิดา ยันตะพันธ์
  3. นางสาวเพ็ญนภา เสมอกาล

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. ครูสานิต โลบภูเขียว
  2. ครูนวภพ เศษเพ็ง
  3. ครูณัฐพล วงษ์ยอด

สถานศึกษา:  โรงเรียนราชประชานุเคราะห์  53 จังหวัดสกลนคร

บทคัดย่อ

โครงงานสมาร์ทไฮโดรโปรนิกส์มีที่มาจากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 53 จังหวัดสกลนครเป็นโรงเรียนประจำที่ส่งเสริมให้นักเรียนที่จบ การศึกษาออกไปได้มีอาชีพติดตัวไปเพื่อการเลี้ยงชีพตัวเอง ซึ่งหนึ่งกิจกรรมที่นักเรียนให้ความสนใจและสร้างรายได้ให้กับนักเรียนคือ “กิจกรรมผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติ” โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านของคนในท้องถิ่น และเป็นการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบบูรณาการ การจัดกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ ในแต่ละวันนักเรียนจะใช้เวลาในชั่วโมงเรียนและช่วงเย็นหลังเลิกเรียนเพื่อไปมัดย้อมผ้าคราม และดูแลหม้อครามให้พร้อมแก่การมัดย้อมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งมีวัตถุประสงค์คือ 1. เพื่อสร้างชุดอุปกรณ์ควบคุมหม้อ
ครามด้วยระบบอัตโนมัติ  2. เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในหม้อคราม 3. เพื่อสร้างสูตรมาตรฐานของน้ำครามโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 53 จังหวัดสกลนคร และเพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการย้อมคราม แนวคิดในการพัฒนาคือการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมการเติมออกซิเจน สี และค่า pH ในน้ำครามด้วยระบบอัตโนมัติผ่านบอร์ด Arduino โดยใช้เซนเซอร์วัดค่าสี และเซนเซอร์วัดค่า pH โดยมีขั้นตอนในการดำเนินงาน  1. ศึกษาข้อมูล ขั้นตอนและวิธีการย้อมผ้าคราม
2. ออกแบบอุปกรณ์ควบคุมหม้อย้อมคราม 3. เขียนโปรแกรมควบคุมการท างานของอุปกรณ์ของหม้อย้อมคราม 4. ทดลองใช้โปรแกรมควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ของหม้อย้อมคราม 5. สร้างและประกอบอุปกรณ์ในชุดควบคุมหม้อย้อมคราม 6. ทดลองใช้ชุดควบคุมอุปกรณ์หม้อย้อมคราม และบันทึกผลการทดลอง ซึ่งผลการทดลองพบว่าเซนเซอร์วัดค่า pH ได้ในช่วง 11 – 12 จะทำการแจ้งเตือนให้หลอดไฟติดแสดงถึงน้ำครามเหมาะสมแก่การนำมาย้อมผ้า และเซนเซอร์วัดค่าสีแสดงค่าสีแดง(R) อยู่ในช่วง 20 – 25 ค่าสีเหลือง(G) อยู่ในช่วง 18 – 21 และค่าสีน้ าเงิน(B) อยู่ในช่วง 15 – 18 จะทำการแจ้งเตือนให้หลอดไฟติดแสดงถึงน้ำครามเหมาะสมแก่การนำมาย้อมผ้า ตามที่ได้เขียนคำสั่งลงในบอร์ด Arduino

BNE35 โครงงานเครื่องคัดแยกกระดาษ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 51 จังหวัดบุรีรัมย์

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “เครื่องคัดแยกกระดาษ”

ผู้จัดทำ

  1. นางสาวสุรีพร วะดี                      ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5
  2. นางสาวปภานิช เสือจู                 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6
  3. นางสาวนารีรัตน์ สินสุนทรสิทธิ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่  6

ครูที่ปรึกษาโครงงาน : นางณุชรี อ่อนน้ำคำ

สถานศึกษา : โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 51 จังหวัดบุรีรัมย์

บทคัดย่อ

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 51 จังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดตั้งโครงการเรื่องการคัดแยกขยะและจัดการขยะมูลฝอย โดยมีฐานการเรียนรู้คือ ฐานธนาคารขยะ รณรงค์ให้นักเรียนมีจิตสำนึกในการทิ้งขยะ จัดการขยะ ขยะประเภทกระดาษนั้น เป็นขยะที่มีปริมาณมากที่สุด และขยะแต่ละประเภทมีมูลค่าที่แตกต่างกัน จึงได้ศึกษาหาข้อมูลเรื่องขยะรีไซเคิลและคิดค้น โครงงานเรื่อง เครื่องคัดแยกประเภทกระดาษ โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการจัดการขยะจากกระดาษ โดยใช้เครื่องคัดแยกกระดาษ ที่ประดิษฐ์จากเครื่องถ่ายเอกสารเก่า  ใช้ระบบสมองกล มี KidBright เป็นตัวควบคุม  ใช้เซ็นเซอร์ sensor ตรวจจับความเคลื่อนไหวด้วยรังสีอินฟราเรด  เป็นที่ตรวจจับสีของกระดาษ  และอุปกรณ์อื่นๆ คือ 1.เครื่องถ่ายพิมพ์เก่าที่เสียแล้ว 2. มอเตอร์ DC 6 โวลต์ 3. สายไฟจัมเปอร์

ขั้นตอนการทำงาน 1.คณะจัดทำศึกษารวบรวมข้อมูลของอุปกรณ์ 1.1 ตัวเซนเซอร์แยกกระดาษ 1.2 การทำงานของ KidBright 1.3 ศึกษาวิจัยกระดาษรีไซเคิล 2. จัดซื้ออุปกรณ์ในการทำงาน 3.ต่ออุปกรณ์เพื่อเตรียมพร้อมในการทำงาน 4.เขียนโปรแกรมในการควบคุมอุปกรณ์ทดลองซอฟท์แวร์และฮาร์ตแวร์ 5.ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องคัดแยกกระดาษและทดสอบการทำงาน 6.เก็บผลการทดลองและตรวจสอบคุณภาพและต้นทุน 7.จัดทำรูปเล่มโครงงาน การทำงานของระบบเครื่องคัดแยกกระดาษ มีดังนี้ 1.ใส่กระดาษที่ยังไม่ได้แยกประเภทลงในเครื่องแยกกระดาษ 2.เซนเซอร์ตรวจจับกระดาษที่เป็นสีและกระดาษขาว 3.ถ้าเป็นกระดาษขาวมอเตอร์จะหมุนดันกระดาษไปด้านบน ถ้าเป็นกระดาษสีมอเตอร์จะหมุนให้กระดาษไปแนวปกติ

จากการทดลองใช้ระบบคัดแยกกระดาษ อัตราการการคัดแยกประเภทกระดาษนั้น สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์

จากการทดลองสังเกตที่ปริมาณกระดาษที่คัดแยกประเภทแล้วกับระยะเวลาที่ทำงาน เครื่องคัดแยกประเภทกระดาษสามารถทำงานได้อย่างเหมาะสมตามคุณภาพ ประหยัดเวลา ประหยัดงบประมาณ

BNE33 โครงงานระบบฉีดน้ำในโรงเลี้ยงไก่ไข่ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 50 จังหวัดขอนแก่น

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “ระบบฉีดน้ำในโรงเลี้ยงไก่ไข่”

ผู้จัดทำ

  1. นายปริวัตน์ แสนบุญ
  2. นายอัมรินทร์ ตรุษดี
  3. นายพิพัฒน์ แก้วคำบัง

สถานศึกษา:  โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 50 จังหวัดขอนแก่น

บทนำ

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 50 ได้มุ่งเน้นให้นักเรียนได้มีทักษะชีวิต และเนื่องด้วยทางกลุ่มอาชีพ เลี้ยงไก่ไข่ ได้เจอปัญหาเรื่องการตายของไก่ไข่ที่มีจำนวนมากขึ้น และการวางไข่ของไก่ไข่ได้มีจำนวนที่ลด น้อยลงและส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่กลุ่มอาชีพเลี้ยงไก่ไข่ จึงได้มีการคิดหาวิธีการแก้ปัญหาว่าทำไมไก่ถึง ตายและจำนวนไข่ไก่จึงมีจำนวนลดลงและไม่ได้คุณภาพ ต้นเหตุมาจากส่วนไหนหรือเกี่ยวกับการลดอุณหภูมิ ความร้อนมากเกินไปจึงทำให้เกิดการตายกับไก่ในโรงเลี้ยง ทางกลุ่มจึงได้คิดหาวิธีและแนวทางการแก้ปัญหาใน การควบคุมอุณหภูมิในโรงเลี้ยงไก่ไข่ เพื่อให้ไก่สามารถวางไข่ได้มากยิ่งขึ้นและช่วยลดการตายของไก่ไข่

 

BNE32 โครงงานเครื่องอบแห้งอัจฉริยะแบบ 2 in 1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน
” เครื่องอบแห้งอัจฉริยะแบบ 2 in 1″

ผู้จัดทำ

  1. นายศักดา ดีแสง
  2. นางสาวอรณิช แสนเกิ้น
  3. นางสาวกัญติกา จรัสแผ้ว

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายคมกริช บุตรอุดม
  2. นายฐิติคุณ ยาวะโนภาส

สถานศึกษา: โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

บทนำ

โครงงานเรื่อง เครื่องอบแห้งอัจฉริยะแบบ 2 in 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและออกแบบเครื่องอบแห้งอัจฉริยะแบบ 2 in 1 และเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเครื่องอบแห้งอัจฉริยะแบบ 2 in 1

เครื่องอบแห้งอัจฉริยะแบบ 2 in 1 ควบคุมการทำงานโดยใช้โปรแกรม KidBright โดยกำหนดเงื่อนไข 1) ถ้าอุณหภูมิน้อยกว่าหรือเท่ากับ 60 องศา หลอดไฟจะทำงาน แต่ถ้าอุณหภูมิมากกว่า 61 องศา หลอดไฟจะไม่ทำงาน 2) ถ้าอุณหภูมิน้อยกว่า 60 องศา พัดลมจะไม่ทำงาน แต่ถ้าอุณหภูมิมากกว่าหรือเท่ากับ 60 องศาและความชื้นมากกว่า 15 พัดลมจะทำงาน 3) สามารถตรวจสอบอุณหภูมิและความชื้นในอากาศ โดยผ่าน App KidBright ซึ่งการตากโดยใช้เครื่องอบแห้งอัจฉริยะแบบ 2 in 1 ได้เร็วกว่าการตากแบบดั้งเดิมจาก 5 วัน เหลือ 2 วัน และสามารถทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนดได้ จึงได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ถูกหลักอนามัย

จากการศึกษาพบว่า การออกแบบและสร้างเครื่องอบแห้งอัจฉริยะแบบ 2 in 1 และประสิทธิภาพของเครื่องอบแห้งอัจฉริยะแบบ 2in1 สามารถตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานของอุปกรณ์ได้ ตามเงื่อนไขที่ออกแบบและสามารถเขียนโปรแกรม kidbright ควบคุมการทำงานได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดได้

BNE31 โครงงานถังเพาะถั่วงอกคอนโดระบบน้ำวนแบบอัตโนมัติประหยัดน้ำ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน
“ถังเพาะถั่วงอกคอนโดระบบน้ำวนแบบอัตโนมัติประหยัดน้ำ”

ผู้จัดทำ

  1. นายสัจจา ชัยนามล
  2. นายอนุวัฒน์ หนองประทุม

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นายคมกริช บุตรอุดม
  2. นางสาวฐิติมา ผ่องแผ้ว
  3. นายภีศเดช วิชัด
  4. นายฐิติคุณ ยาวะโนภาส

สถานศึกษา: โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

บทนำ

โครงงาน เรื่อง ถังเพาะถั่วงอกคอนโดระบบน้ำวนแบบอัตโนมัติประหยัดน้ำ มีวัตถุประสงคเ์พื่อออกแบบและสร้างถังเพาะถั่วงอก
คอนโดระบบน้ำวนแบบอัตโนมัติประหยัดน้ำ และทดสอบประสิทธิภาพการทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนดและสามารถส่งการแจ้งเตือนผ่าน Line เมื่อถึงระยะเวลาเก็บผลผลิต

หลักการทำงานของถังเพาะถั่วงอกคอนโดระบบน้ำวนแบบอัตโนมัติประหยัดน้ำ ถูกควบคุมการทำงานบอร์ด KidBright การเขียนโปรแกรม KidBright IDE เพื่อสั่งงานใหอุปกรณ์ทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนด คือเริ่มต้นการทำงาน KidBright จะทำการต้ังค่าเวลาในบอร์ด เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด KidBright จะสั่งงานให้มอเตอร์ปั๊มน้ำทำงาน ปั๊มน้ำ จากถัง B มารดถั่วงอกที่ถัง A คร้ังละ 3 ลิตรเป็นระยะเวลา 10 วินาทีทุก ๆ 2 ชั่วโมง เมื่อครบตามที่กำหนด KidBright จะสั่งให้มอเตอร์ปั๊มน้ำหยุด การทำงาน หลังจากน้ัน KidBright จะสั่งงานให้น้ำวนซ้า ตามเงื่อนไขที่กำหนด เป็นระยะเวลา 3 วัน และเมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด KidBright จะส่งการแจ้งเตือนให้มาเก็บผลผลิตผ่าน Line และ KidBright ก็จะสั่งหยุดการทำงาน

จากการศึกษาพบว่า  ผลที่เกิดจากการเขียนโปรแกรม KidBright IDE เมื่อใช้ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่ออกแบบเป็นถังเพาะถั่วงอกคอนโดระบบน้ำวนแบบอัตโนมัติประหยัดน้ำโปรแกรมสามารถทำงานได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด

 

 

BNE30 โครงงานเครื่องช่วยอำนวยตวามสะดวกในการฝึกเดิน โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน
“เครื่องช่วยอำนวยตวามสะดวกในการฝึกเดิน”

ผู้จัดทำ

1. นางสาวจันทกานต์ ไตรยวงค์
2. นางสาวพวงผกา ผิวทอง

อาจารย์ที่ปรึกษา

1. นายคมกริช บุตรอุดม
2. ดร.ฐิติมา ผ่องแผ้ว

สถานศึกษา:  โรงเรียนศึกษาสงเคราะหธวัชบุรี  อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด

บทนำ

โครงงานระบบสมองกลฝังตัว เรื่อง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการฝึกเดินมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างออกแบบและสร้างอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการช่วยฝึกเดิน จากการสำรวจปัญหาพบว่า ปัญหาการเคลื่อนไหวร่างกายที่เป็นไปอย่างยากลำบากจำเป็นต้องใช้ที่ช่วยพยุงในการเดิน ซึ่งที่ช่วยพยุงปกติจะต้องยกและค่อย ๆ ขยับ ในผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรงไม่สามารถยกได้และเดินไปสักระยะหนึ่งก็เหนื่อยหรือหมดแรงในการเดิน จึงเกิดแนวคิดในการจะแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยจะออกแบบอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการฝึกเดินโดยไม่ต้องยกและถ้าหากหมดแรงระหว่างทางสามารถมีเบาะนั่งบังคับได้ และมีปุ่มฉุกเฉินเมื่อต้องการความช่วยเหลือ
แนวคิดและหลักการ ผู้จัดทำได้นำบอร์ด  KidBright เป็นอุปกรณ์ควบคุมการทำงานจากการเขียนโปรแกรม KidBright เพื่อสั่งงาน
อุปกรณ์ให้ทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนด คือเมื่อเริ่มต้นการทำงาน

โหมดที่ 1 คือ “โหมดฝึกเดิน”  มีเซนเซอร์ตรวจจับข้อเท้า 2 ตัวหากเซนเซอร์ทั้ง 2 ตัวตรวจพบข้อเท้าทั้ง 2 ข้าง KidBright จะสั่งให้มอเตอร์ทำงานล้อเลื่อนไปข้างหน้า หากไม่เป็นไปตามเงื่อนไขจะไม่มีการสั่งงานใด ๆ

โหมดที่ 2 คือ “โหมดบังคับ”  ถ้าหากหมดแรงกดสวิตซ์ที่ 3 เปลี่ยนโหมดเป็นโหมดบังคับ เบาะจะลงมา ตำแหน่งที่เหมาะสมกับการนั่ง กดสวิตซ์ที่ 1 เลี้ยวซ้าย กดสวิตซ์ที่ 4 เลี้ยวขวา กดสวิตซ์ที่ 1กับที่ 4 พร้อมจะกัน เดินหน้า กดสวิตซ์ที่ 3 กับที่ 4 พร้อมกันจะถอยหลัง

โหมดที่ 3 คือ “โหมดฉุกเฉิน”  เมื่อผู้ใช้ต้องการความช่วยเหลือให้กดสวิตซ์ที่ 2 KidBright จะสั่งงานให้แจ้งเตือนไปยัง
แอปพลิเคชั่น LINE

ผลจากการศึกษาพบว่า สามารถออกแบบและสร้างอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการช่วยฝึกเดินให้ทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนดได้ถูกต้อง

 

BN24 โครงงานเครืองทำความสะอาดบ้านอัตโนมัติ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 55 จังหวัดตาก

Posted on September 12, 2019 by hrh Posted in ทสรช ปีการศึกษา 2561 .

โครงงาน “เครื่องทำความสะอาดบ้านอัตโนมัติ”

ผู้จัดทำ

  1. นายท่อ แซ่ว่าง
  2. นายชาติชาย แซ่กือ
  3. นายประวิตร ทองสุระวิโรจน์

อาจารย์ที่ปรึกษา

  1. นางสาวอ้อมใจ แรงเขตกิจ
  2. นายอรรนพ ไชยเรือน

สถานศึกษา: โรงเรียนราชประชานุเคราะห์55  จังหวัดตาก

บทนำ

การพัฒนาและปฏิรูปการศึกษา จะต้องยึดหลักการมีส่วนร่วม การพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีและความต้องการของทุกภาคส่วนในสังคม มีความสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวหน้าไปมากกว่าเดิม เพื่อให้การผลิตภัณฑ์ทางด้านวิศวกรรมเป็นที่ยอมรับและเกิดความมั่นคงยั่งยืนในระบบการศึกษาของไทย การพัฒนาทางด้านการทำความสะอาดบ้านที่ทำงาน โดยไม่ต้องใช้มนุษย์มาทำความสะอาดบ้านในแต่ละครั้ง แต่จะใช้หุ่นยนต์ในการทำความสะอาดบ้านแทน เพราะเป็นการเพิ่มความสะดวกให้กับมนุษย์ในยุคสมัยนี้ และเพื่อเป็นการพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีของประเทศอีกด้วย ที่สามารถช่วยให้มนุษย์ได้ใช้เวลาในส่วนนี้ไปพัฒนาในส่วนอื่น ๆ ให้มีความก้าวหน้าขึ้นอีกด้วย

ผู้จัดทำโครงงานจึงมีแนวคิด และเห็นความสำคัญที่เกิดขึ้น จึงเกิดความสนใจที่จะแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้น โดยการสร้างหุ่นยนต์กวาดถูอัตโนมัติมาเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยรักษาความสะอาดในครัวเรือนหรือในอาคารต่าง ๆ

หุ่นยนต์กวาดถูอัตโนมัติ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้ความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตสามารถทำความสะอาดกวาดและถูได้ในเครื่องเดียว เพราะสิ่งสกปรกจะถูกดูดเข้าเครื่อง ไม่ได้ถูกปัดไปปัดมาเหมือนกับการถูบ้าน โดยใช้ผ้าถูปกติแต่เครื่องสามารถวิ่งไปมาและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อย่างชาญฉลาดทุกพื้นที่ในห้องที่เครื่องสามารถวิ่งเข้าถึง เพื่อขจัดสิ่งสกปรกภายในบ้านและในห้องต่าง ๆ

« Previous Page
Next Page »

Meta

  • Log in
  • Entries feed
  • Comments feed
  • WordPress.org

CyberChimps WordPress Themes

© โครงงานสมองกลฝังตัว