โครงงานรถไฟฟ้าอัจฉริยะ
(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นางสาวชนัญชิดา อ้วนดี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
2. นางสาวนุชนารถ ใหม่คำหล้า ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
3. นายนวิน แซ่ว่าง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

อาจารย์ที่ปรึกษา:

นายวีรศักดิ์    เป้รอด

นางสาวมติกา    ใจธรรม

สถานศึกษา :

โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารีฯ ลำปาง

บทนำ

บทคัดย่อ

เนื่องด้วยในปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีของระบบ Smart Phone ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมี Application ต่าง ๆ ออกมามากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ทำให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกสบายง่ายและรวดเร็ว โดยผ่าน Application ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดฟรี และแบบเขียนขึ้นเอง ทำให้สามารถเชื่อมโยงระหว่างกันและกันผ่านอินเตอร์เน็ต เครือข่ายในลักษณะนี้เรียกว่า The Internet of Things เรียกย่อ ๆ ว่า IOT

โครงการรถไฟฟ้าอัจฉริยะ  มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปัญหาด้านการใช้พลังงานในประเทศสร้างความสะดวกและความรวดเร็วในการเดินทาง ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมถึงการแจ้งเตือนให้กับผู้ที่ใช้งานหรือผู้ที่ขับขี่รถไฟฟ้าอัจฉริยะที่อยู่ในระยะที่เป็นอันตรายต่อการชนกับสิ่งกีดขวางรอบข้าง เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้รวดเร็ว และลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยคณะผู้จัดทำได้ทำการทดลอง และออกแบบรถไฟฟ้าอัจฉริยะซึ่งสามารถแจ้งเตือนการเกิดการชนกับสิ่งกีดขวางรอบข้างได้ โดยมีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวทำหน้าที่ในการสำรวจว่ามีสิ่งกีดขวางอยู่รอบข้างไหม ถ้ามีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวก็จะส่งข้อมูลไปยัง Raspberry Pi 3 จากนั้น Raspberry Pi 3 ก็จะส่งไปยัง KidBright แล้ว KidBright ก็จะส่งค่าไปยังโมดูลเสียงเพื่อส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ใช้งาน

หลักการทำงานของรถไฟฟ้าอัจฉริยะ คือ เริ่มแรกเราจะทำการสตาร์ทรถเพื่อจ่ายไฟจากแบตลิเธียม ไปยังระบบควบคุมการทำงานและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆของรถ  พออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ของรถได้รับกระแสไฟฟ้าแล้วจะทำการจ่ายข้อมูลไปยัง Raspberry Pi 3 และตัวคอลโทล เพื่อทำการควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ และเมื่อรถไฟฟ้าเข้าใกล้สิ่งกีดขวางในระยะที่ไม่ปลอดภัยหรือเกิดการชนกับสิ่งกีดขวางที่อยู่รอบข้าง เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวจะส่งข้อมูลไปยัง Raspberry Pi 3 จากนั้น Raspberry Pi 3 ก็จะส่งไปยัง KidBright แล้ว KidBright ก็จะส่งค่าไปยังโมดูลเสียงเพื่อส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ใช้งาน

คำสำคัญ                  

          Application  คือ โปรแกรมประเภทหนึ่ง ที่เราเรียกว่าโปรแกรมประยุกต์ โปรแกรม

เหล่านี้จะถูกออกแบบมาให้ทำงานเฉพาะด้าน เช่น พิมพ์เอกสาร, คำนวณ, ตกแต่งรูปภาพ เป็นต้น จากอดีตนั้นโปรแกรมเหล่านี้ทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว เราจึงมักเรียกชื่อเต็ม ๆ ว่า Application แต่เมื่อมีการพัฒนา Smartphone ขึ้นมา Application ก็ได้พัฒนา และไปใช้งานบนโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย และนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า “App” นั่นเอง

Kid – Bright คือ เป็นบอร์ดสมองกลฝังตัวที่สามารถทำงานตามชุดคำสั่ง โดยสามารถสร้างชุดคำสั่งผ่านโปรแกรม KidBright IDE บนคอมพิวเตอร์ ที่ใช้งานง่าย เพียงใช้การลากบล็อกคำสั่งมาวางต่อกัน (Drag and Drop) ช่วยลดความกังวลเรื่องการพิมพ์ชุดคำสั่งผิด ชุดคำสั่งที่ถูกสร้างดังกล่าวจะถูกส่งไปที่บอร์ด KidBright ให้ทำงานตามที่โปรแกรมไว้

Raspberry Pi 3 คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (ประมาณบัตรทั่วไป) ที่มีราคาถูกกว่าคอมพิวเตอร์ สามารถต่อเข้ากับจอคอมพิวเตอร์ (ผ่าน HDMI) หรือจะใช้ตัวแปลง (HDMI to VGA)  และยังรองรับเมาส์/คีย์บอร์ด/อุปกรณ์อื่นๆ ผ่านทาง USB Port อีกทั้งยังสามารถต่อสายแลน (10/100 RJ45) ได้อีกด้วย (มี Bluetooth และ Wi-Fi 802.11n Controller On-Board)

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

       เนื่องจากปัจจุบันได้เกิดปัญหาด้านการใช้พลังงานในประเทศ  ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน  โดยน้ำมันและแก๊สที่ใช้สำหรับขับเคลื่อนยานพาหนะเป็นเป้าหมายทำให้ประเทศไทยต้องใช้ปริมาณน้ำมันสูงขึ้น อีกทั้งประเทศไทยยังไม่มีการพัฒนาเรื่องพลังงานทดแทนอย่างเป็นระบบ ทำให้เกิดปัญหาน้ำมันแพง  ซึ่งผลกระทบของปัญหาน้ำมันนี้ค่อนข้างกระจายเป็นวงกว้างและสูงมาก เนื่องจากน้ำมันใช้แล้วหมดไป และแนวโน้มของน้ำมันมีท่าทีว่าจะหมดในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า

คณะผู้จัดทำจึงเห็นปัญหาที่กล่าวมา จึงคิดวิธีแก้ปัญหาเพื่อลดการใช้น้ำมันที่ใช้ในการขับเคลื่อนยานพาหนะที่ทำให้เกิดปัญหาด้านการใช้พลังงาน  จึงได้คิดค้นรถไฟฟ้าอัจฉริยะนี้ขึ้นมาเพื่อลดการใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนยานพาหนะ  และลดปัญหาด้านการใช้พลังงานในประเทศ

จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทำให้เกิดโครงงานรถไฟฟ้าอัจฉริยะ โดยมี Raspberry Pi 3 เป็นตัวควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆในการควบคุมการทำงาน รวมถึงมีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวทำหน้าที่ในการสำรวจสิ่งกีดขวางที่อยู่บริเวณรอบข้าง เพื่อส่งข้อมูลไปยัง ยัง Raspberry Pi 3 จากนั้น Raspberry Pi 3 ก็จะส่งไปยัง KidBright แล้ว KidBright ก็จะส่งค่าไปยังโมดูลเสียงเพื่อส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ใช้งาน

รถไฟฟ้าอัจฉริยะตัวนี้มีระบบการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีของ Raspberry Pi 3  มีวัตถุประสงค์เพื่อนำอุปกรณ์ Raspberry Pi 3 มาพัฒนาให้ความสามารถที่หลากหลาย อุปกรณ์ต้นแบบที่สร้างมาเพื่อลดปัญหาด้านการใช้พลังงาน และลดค่าน้ำมัน โดยโครงงานนี้ได้อธิบายวิธีการพัฒนาระบบอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถที่จะนำไปใช้เพื่อให้สนองกับความต้องการ โดยระบบที่พัฒนาขึ้นนี้สามารถตอบสนองความต้องการทั้งภาคการศึกษา

โปรแกรมภาษา C , Python และ HTML ที่เขียนขึ้นเพื่อใช้ในโครงงานนี้ ผู้จัดทำได้ศึกษาและเรียนรู้ในโครงการสิ่งประดิษฐ์สมองกลฝังตัวที่จัดขึ้น ซึ่งโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ในงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และผู้ที่มีความสนใจที่จะศึกษาต่อไป

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

สังคมปัจจุบันเป็นสังคมเมืองดังนั้นในสังคมโดยทั่วไปประสบปัญหาเรื่องพลังงานและปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหามลภาวะไม่ว่าจากทางอากาศ และจากขยะมูลฝอย สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจำเป็นต้องหายใจเพี่อใช้ออกซิเจนในการเผาผลาญอาหาร เมื่ออากาศที่หายใจเข้าไปเป็นอากาศเสีย ก็ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตแก่คนในชุมชน และปัญหาที่สำคัญอีกปัญหาหนึ่งคือปัญหาด้านการใช้พลังงานในประเทศ  ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน  โดยน้ำมันและแก๊สที่ใช้สำหรับขับเคลื่อนยานพาหนะเป็นเป้าหมายทำให้ประเทศไทยต้องใช้ปริมาณน้ำมันสูงขึ้น อีกทั้งประเทศไทยยังไม่มีการพัฒนาเรื่องพลังงานทดแทนอย่างเป็นระบบ ทำให้เกิดปัญหาน้ำมันแพง  ซึ่งผลกระทบของปัญหาน้ำมันนี้ค่อนข้างกระจายเป็นวงกว้างและสูงมาก เนื่องจากน้ำมันใช้แล้วหมดไปและแนวโน้มของน้ำมันมีท่าทีว่าจะหมดในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า

คณะผู้จัดทำจึงเห็นปัญหาที่กล่าวมา จึงคิดวิธีแก้ปัญหาเพื่อลดมลภาวะทางอากาศเนื่องจากยานพาหนะ และการใช้น้ำมันที่ใช้ในการขับเคลื่อนยานพาหนะที่ทำให้เกิดปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม  จึงได้คิดค้นรถไฟฟ้าอัจฉริยะนี้ขึ้นมาและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตเราจะมีรถไฟฟ้าใช้อย่างสะดวกสบายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

วัตถุประสงค์

1. เพื่อลดปัญหาด้านการใช้พลังงานในประเทศ
2. เพื่อสร้างความสะดวกและความรวดเร็วในการเดินทาง
3. เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
4. เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุจากการชนของรถกับสิ่งกีดขวางต่างๆ
5. เพื่อสร้างรถไฟฟ้าอัฉริยะ
6. เพื่อนำความรู้ที่ได้จากการอบรมไปประยุกต์ใช้กับโครงาน

ขอบเขตการศึกษาข้อมูล

          ขอบเขตด้านเนื้อหา                :         การเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C , Python และ  HTML

การออกแบบวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การเขียนโปรแกรมคอนโทร Raspberry Pi 3  และ Kidbright ให้ทำงานตามต้องการ

          ขอบเขตกลุ่มเป้าหมาย             :         นักเรียนในโครงการสิ่งประดิษฐ์สมองกลฝังตัวและผู้ที่สนใจ

          ขอบเขตด้านสถานที่ศึกษา                  :        โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารีฯ ลำปาง

          ขอบเขตระยะเวลาที่ศึกษา                   :         เดือน กันยายน 2562 – มิถุนายน 2563

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. ลดการเกิดอุบัติเหตุของผู้ที่ใช้งาน
2. อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน
3. ผู้ใช้งานสามารถรับรู้ถึงการชนของรถกับสิ่งกีดขวางรอบข้างได้
4. โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการใช้พลังงาน
5. ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
6. ผู้ที่ใช้งานสามารถเตรียมความพร้อมในการรับมือกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานเครื่องผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแผ่นเพลเทียร์
(Electrical From Peltier)
(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นางสาววีซ่า  หกขุนทด
2. นางสาวกัณญาภัค  สิทธิโชติ
3. นางสาวอรัญญา  แก้วฝ่าย

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1. นายสานิต โลบภูเขียว
2. นายณัฐพล  วงษ์ยอด
3. นางสาวปิยรัตน์  พันธุขันธุ์

สถานศึกษา : โรงเรียนราชประขานุเคราะห์ ๕๓ จังหวัดสกลนคร 

บทนำ

ที่มาและความสำคัญ

เนื่องจากในปัจจุบันมีการใช้พลังงานและทรัพยากรจากธรรมชาติอย่างสิ้นเปลืองในรูปของพลังงานไฟฟ้า พลังงานเชื้อเพลิง ที่เป็นเพราะยุคสมัยของเทคโนโลยีที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ต้องอาศัยพลังงานไฟฟ้าในบ้าน ถึงแม้จะมีแหล่งพลังงานทดแทนที่ยังคงมีอยู่ที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า แต่ในอนาคตก็ย่อมมีวันที่หมดลง และก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นมามากมายอีกด้วย

โรงเรียนราชประขานุเคราะห์ ๕๓ จังหวัดสกลนคร เป็นโรงเรียนประเภทอยู่ประจำ มีการใช้ไฟฟ้าภายในโรงเรียนเป็นจำนวนมาก โดยประกอบไปด้วยอาคารสำนักงาน อาคารเรียน บ้านพักครู หอพักนักเรียนชาย และนักเรียนหญิง ซึ่งค่าไฟฟ้าสูงในแต่ละเดือน ที่เป็นผลมาจากการใช้พลังงานไฟฟ้า นอกเหนือจากนั้นยังมีการใช้เชื้อเพลิงในการหุงต้มอาหารให้กับนักเรียนเป็นประจำทุกวัน ๆ ละ 3 มื้อ ถือเป็นการใช้พลังงานสิ้นเปลืองอีกประเภทหนึ่ง โดยการใช้พลังงานเชื้อเพลิงที่สูญเสียไปในรูปของพลังงานความร้อนสามารถนำพลังงานความร้อนเหล่านั้นกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในครัวเรือนทั่วไปได้ โดยอาศัยการใช้แผ่นเพลเทียร์มาช่วยในการผลิตกระแสไฟฟ้าแทนที่จะสูญเสียพลังงานไป

ดังนั้นผู้จัดทำจึงทำโครงงานเรื่อง เครื่องผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแผ่นเพลเทียร์ (Electrical from Peltier) เพื่ออาศัยคุณสมบัติเฉพาะของแผ่นเพลเทียร์มาผลิตกระแสไฟฟ้าตามหลักการกำเนิดไฟฟ้าจากค่าความต่างศักย์ ที่ช่วยสร้างพลังงานหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้ และเป็นการลดใช้พลังงานสิ้นเปลืองให้กับโลกได้ด้วย

วัตถุประสงค์

๑. เพื่อออกแบบและสร้างเครื่องผลิตและเก็บพลังงานไฟฟ้าจากแผ่นเพลเทียร์

๒. ประเมินประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องผลิตและเก็บพลังงานไฟฟ้าจากแผ่นเพลเทียร์ดังรายละเอียดต่อไปนี้

2.1 ความสามารถในการผลิตไฟฟ้าจากแผ่นเพลเทียร์

2.2 ความสามารถในการจัดเก็บพลังงานไฟฟ้าและสามารถนำไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้า

สมมิฐาน

1. เครื่องผลิตและเก็บพลังงานไฟฟ้าจากแผ่นเพลเทียร์สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้
2. ช่วยลดค่าใช้จ่ายจากเครื่องใช้ไฟฟ้าได้

ขอบเขตของโครงงาน

1. สามารถผลิตไฟฟ้ากระแสตรงได้เท่านั้น
2. สามารถใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นโวลต์ต่ำ

นิยามศัพท์

เครื่องผลิตพลังงานไฟฟ้าจากแผ่นเพลเทียร์ (Electrical from Peltier) เป็นการนำเอาพลังงานความร้อนที่สูญเสียจากการใช้เชื้อเพลิงประเภทแก๊สหุงต้มนำกลับมาใช้ใหม่โดยเป็นการผลิตกระแสไฟฟ้า นำมาจัดเก็บไว้ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าตามบ้านเรือนทั่วไป เป็นการใช้พลังงานที่เกิดความคุ้มค่าและเหมาะสม ลดการใช้พลังงานไฟฟ้าให้กับโรงเรียนหรือบ้านเรือน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. ได้เครื่องผลิตและเก็บพลังงานไฟฟ้าจากแผ่นเพลเทียร์
2. สามารถนำเอาพลังงานไฟฟ้ามาใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้
3. นำพลังงานสิ้นเปลืองมาเป็นพลังงานทดแทนที่คุ้มค่าและเหมาะสม

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานเครื่องเสียงตามสายอัจฉริยะ

ผู้จัดทำ

1. นางสาวสุนันทา  แจ่มผล
2. นางสาวเพ็ญนภา  เสมอกาล
3. นางสาวธิดา  ยันตะพันธ์

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1. นายสานิต โลบภูเขียว
2. นายณัฐพล  วงษ์ยอด
3. นางจิตรฤทัย  ดีโท

สถานศึกษา : โรงเรียนราชประขานุเคราะห์ ๕๓ จังหวัดสกลนคร 

บทนำ

ที่มาและความสำคัญ

เนื่องจากในปัจจุบันเสียงตามสายยังเป็นการกระจายข่าวสารที่ดีทางหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นระบบกระจายเสียงสาธารณะของหมู่บ้าน ระบบเสียงประกาศภายในอาคาร ซึ่งระบบกระจายเสียงเหล่านี้ถูกพัฒนาให้ก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบกระจายเสียงทางไกลอัตโนมัติ หอกระจายข่าวแบบไร้สายอัตโนมัติ หรือหอกระจายข่าวแบบตามสายอัตโนมัติ ซึ่งง่ายต่อการติดตั้งและการดูแล

โรงเรียนราชประขานุเคราะห์ ๕๓ จังหวัดสกลนคร เป็นโรงเรียนประเภทอยู่ประจำ ในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์มีผู้ปกครองนักเรียนมาติดต่อขอเยี่ยมบุตรหลานอยู่ประจำ ซึ่งการติดต่อเยี่ยมมีขั้นตอนคือต้องไปแจ้งกับครูเวรประจำวันที่ศาลาเยี่ยมญาติในการประชาสัมพันธ์หาบุตรหลานให้มาพบ ปัญหาตามมาในบางกรณีคือกรณีไม่พบครูเวรที่ศาลาเยี่ยมญาติ หรือกรณีจำชื่อ-สกุล บุตรหลานไม่ได้ ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการมาเยี่ยมบุตรหลาน

ดังนั้นผู้จัดทำจึงทำโครงงานเรื่อง เครื่องกระจายเสียงอัจฉริยะ เพื่ออำนวยความสะดวกในการติดต่อประชาสัมพันธ์หาบุตรหลาน โดยใส่ข้อมูลชื่อ-สกุล ชื่อเล่น ระดับชั้น ชื่อหอพัก ในระบบคอมพิวเตอร์ ณ จุดประชาสัมพันธ์ เพียงแค่กรอกข้อมูลและกดตรงรายชื่อระบบจะประชาสัมพันธ์ให้อัตโนมัติ

วัตถุประสงค์

๑. เพื่อออกแบบและสร้างเครื่องกระจายเสียงอัจฉริยะ

๒. ประเมินประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องกระจายเสียงอัจฉริยะดังรายละเอียดต่อไปนี้

2.1 ความสามารถในการประชาสัมพันธ์ด้วยระบบกรอกข้อมูลได้

3. เพื่อความสะดวกสบายของครูเวรประจำวันและผู้ปกครองนักเรียน

สมมติฐาน

1. เครื่องเสียงตามสายอัจฉริยะสามารถทำงานโดยการประกาศเป็นเสียงตามสายได้เมื่อมีการให้คำสั่งการทำงาน
2. คณะครูและผู้ปกครองมีความพึงพอใจในระบบการให้บริการเครื่องเสียงตามสายอัจฉริยะ

ขอบเขตของโครงงาน

1. สามารถประชาสัมพันธ์ได้โดยการกรอกข้อมูลบุคคลลงในโปรแกรม
2. สถานที่ในการทดลอง และเก็บข้อมูลคือบริเวณโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๓ จังหวัดสกลนคร

นิยามศัพท์

1. เครื่องกระจายเสียง หมายถึง เสียงตามสายในการประกาศแจ้งข้อมูลข่าวสารในโรงเรียน เช่น การประชาสัมพันธ์ตามหานักเรียน
2. อัจฉริยะ หมายถึง ระบบของเสียงตามสาย สามารถประกาศได้เองเมื่อมีการใส่ข้อมูลของตัวบุคคลหรือนักเรียนลงไปในโปรแกรม

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. ได้เครื่องเสียงตามสายอัจฉริยะ
2. เครื่องเสียงตามสายอัจฉริยะมีประสิทธิภาพสามารถทำงานแทนคนได้
3. เกิดความสะดวกสบายแก่คณะครูในโรงเรียน

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานเปิด-ปิดผ้าม่านผ่านมือถือและความเข้มของแสง
(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นางสาวทิพเนตร   พรมเวียง        ม.5/2
2. นางสาวชุติกาญจน์   บัวนาค      ม.5/2
3. นายสุทธิพงษ์     สิงหา                ม.5/2

อาจารย์ที่ปรึกษา: นางพิทย์ระมัย  วรสาร และนายสิทธิพล  ใจตรง

สถานศึกษา :โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 54 จังหวัดอำนาจเจริญ

บทนำ

เนื่องจากอาคารเรียนของห้องเราหันหน้าไปทางทิศตะวันออก และหันหลังไปทางทิศตะวันตก ทำให้มีแสงแดดส่องเข้ามานห้องเรียนตอนเช้า และตอนบ่าย บางวันก็มีแสงแดดจ้าสลับกับท้องฟ้ามืดครึ้ม ทำให้ต้องคอยเปิดปิดผ้าม่านหลายๆรอบ ทำให้เสียสมาธิในการเรียน และไม่ได้รับความสะดวกสบาย

ผู้จัดทำโครงงานจึงได้คิดประดิษฐ์อุปกรณ์ เปิด-ปิด ผ้าม่านมือถือและความเข้มของแสงขึ้นมา

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF)

โครงงานปรับระดับพัดลมอัตโนมัติตามอุณหภูมิ V2

(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นายอนุวัฒน์      หมนดี               ม.5/2
2. นางสาววิไลวรรณ  ศรีวะวงศ์       ม.5/2

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1.นางสาววัชราภรณ์   แดงอาจ

2.นายสิทธิพล  ใจตรง

สถานศึกษา :โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 54 จังหวัดอำนาจเจริญ

บทนำ

พัดลมติดผนังเป็นพัดลมประเภทหนึ่งที่นิยมใช้ทั่วไปตามห้องประชุม ห้องเรียน หอนอน และห้องต่างๆ เพราะมีข้อดีคือไม่กีดขวางพื้นที่ด้านล่างของห้อง และในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์มีการใช้พัดลมติดผนังในจำนวนมาก เมื่อต้องปรับระดับของพัดลมก็ต้องลุกไปกดสวิตซ์ทีละเครื่องหากวันใดอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อยๆก็ต้องปรับอุณหภูมิบ่อยๆ ซึ่งทำให้ไม่สะดวกสบายเท่าที่ควรหรือในบางครั้งอาจก็อาจจะลืมปิดพัดลมหลังใช้งาน

ผู้จัดทำโครงงานจึงเล็งเห็นปัญหาของการปรับระดับพัดลมและลืมปิดพัดลมหลังใช้งานจึงได้ประดิษฐ์อุปกรณ์ปรับระดับพัดลมอัตโนมัติตามอุณหภูมิขึ้นและต่อยอดจากคราวที่แล้วสามารถเปิด –  ปิดพัดลมได้อัตโนมัติ

รายงานฉบับสมบูรณ์  (PDF File)

Clip VDO 

โครงงานถุงมือช่วยสื่อสารสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน
(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นายศักดา  ดีแสง
2. นางสาวอรณิช แสนเกิ้น
3. นางสาวภัทรธิดา สุวิมลชัยกุล

อาจารย์ที่ปรึกษา:  นายคมกริช  บุตรอุดม และ นางสาวฐิติมา  ผ่องแผ้ว

สถานศึกษา : โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ธวัชบุรีจังหวัดร้อยเอ็ด

บทนำ

โครงงานระบบสมองกลฝังตัว เรื่องถุงมือช่วยสื่อสารสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและสร้างถุงมือช่วยสื่อสารสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน

หลักการทำงานของถุงมือช่วยสื่อสารสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน ควบคุมการทำงานโดยใช้การเขียนโปรแกรมภาษาซี และนำบอร์ด Arduino UNO มาเป็นอุปกรณ์ควบคุมการทำงานของถุงมือช่วยสื่อสารสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน โดยบอร์ด Arduino UNO ทำการตรวจเช็คเงื่อนไขที่กำหนด (1) ถ้าอัตราเร่งเชิงมุมแกน x น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.50rad/s²  มากกว่าหรือเท่ากับ 0.31rad/s² และอัตราเร่งเชิงมุมแกน y มากกว่าหรือเท่ากับ -0.83 rad/s²  และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.50 rad/s² และ อัตราเร่งเชิงมุมแกน z มากกว่าหรือเท่ากับ -0.50 rad/s² และน้อยกว่าหรือเท่ากับ -0.20 rad/s² Arduino UNO จะสั่งงานให้ลำโพงเล่นเสียง “สวัสดี”(2) ถ้าค่าความต้านทานเซนเซอร์ตัวที่ 2 มากกว่าหรือเท่ากับ 620 kΩ และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 670 kΩ และอัตราเร่งเชิงมุมแกน z มากกว่าหรือเท่ากับ 0.19 rad/s² และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.60 rad/s² และอัตราเร่งเชิงมุมแกน y มากกว่าหรือเท่ากับ 0.50 rad/s² และน้อยกว่าหรือเท่ากับ -0.30 rad/s² Arduino UNO จะสั่งงานให้ลำโพงเล่นเสียง “ขอบคุณค่ะ” (3) ถ้าค่าความต้านทานเซนเซอร์ตัวที่ 1 มากกว่าหรือเท่ากับ 790 kΩ น้อยกว่าหรือเท่ากับ -835 kΩ และอัตราเร่งเชิงมุมแกน y มากกว่าหรือเท่ากับ 0.90 rad/s² และค่าความต้านทานเซนเซอร์ตัวที่ 2 มากกว่าหรือเท่ากับ 640 kΩ และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 670 kΩ และอัตราเร่งเชิงมุมแกน y มากกว่าหรือเท่ากับ -0.19 rad/s² และน้อยกว่าหรือเท่ากับ -0.09 rad/s²   Arduino UNO จะสั่งงานให้ลำโพงเล่นเสียง “สบายดีไหม” (4) ถ้าอัตราเร่งเชิงมุมแกน x น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1.10 rad/s² และมากกว่าหรือเท่ากับ 0.80 rad/s² และค่าความต้านทานเซนเซอร์ตัวที่ 1 มากกว่าหรือเท่ากับ 745 kΩ และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 810 kΩ และค่าความต้านทานเซนเซอร์ตัวที่ 2 มากกว่าหรือเท่ากับ 710 kΩ และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 750 kΩ Arduino UNO จะสั่งงานให้ลำโพงเล่นเสียง “ช่วยด้วย” (5) ถ้าอัตราเร่งเชิงมุมแกน x น้อยกว่าหรือเท่ากับ 0.25 rad/s² และมากกว่าหรือเท่ากับ 0.10 rad/s²และค่าความต้านทานเซนเซอร์ตัวที่ 1 มากกว่าหรือเท่ากับ 720 kΩ และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 765 kΩ และค่าความต้านทานเซนเซอร์ตัวที่ 2 มากกว่าหรือเท่ากับ 680 kΩ และน้อยกว่าหรือเท่ากับ 719 kΩ Arduino UNO จะสั่งงานให้ลำโพงเล่นเสียง “โชคดีนะ”
จากการศึกษาพบว่า การออกแบบและสร้างถุงมือช่วยสื่อสารสำหรับผู้พิการทางการได้ยิน สามารถทำตามเงื่อนไขที่ออกแบบและเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมการทำงานได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โคงงานอุปกรณ์ช่วยจัดการน้ำในนาข้าว IoT
แบบเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว

(ม. ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นายสัจจา   ชัยนามล
2. นางสาวกัญติกา  จรัสแผ้ว
3. นางสาวอาภาวี  เพ็งรัตน์

อาจารย์ที่ปรึกษา: 1. นายคมกริช บุตรอุดม 2. นางสาวฐิติมา ผ่องแผ้ว    

สถานศึกษา: โรงเรียนศึกษาสงห์เคราะห์ธวัชบุรี

บทนำ

โครงงานระบบสมองกลฝังตัว เรื่อง อุปกรณ์ช่วยจัดการน้้าในนาข้าว IoT แบบเปียกสลับแห้งแกล้งข้าวมีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและสร้างอุปกรณ์ช่วยจัด
การน้้าในนาข้าว IoT แบบเปียกสลับแห้งแกล้งข้าวหลักการท้างานของอุปกรณ์ช่วยจัดการน้้าในนาข้าว IoT แบบเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว ได้น้าอุปกรณ์
บอร์ด KidBright มาเป็นอุปกรณ์ควบคุมการท้างานจากการเขียนโปรแกรม เพื่อสั่งงานให้อุปกรณ์ท้างานตามเงื่อนที่ก้าหนด คือ เริ่มต้นการท้างาน KidBright จะท้าการตั้งค่าเวลาและวันที่ในบอร์ด เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนด KidBright จะสั่งงานให้ ultrasonic sensor วัดระดับน้้าในท่อดูน้้า โดยวัดเป็น 5 ช่วงระยะเวลา คือระยะเตรียมดิน ระยะต้นกล้า ระยะแตกกอ ระยะการตั้งท้อง และระยะสุกแก่ ถ้าตรงตามเงื่อนที่ก้าหนดจะส่งค่าไปยัง บอร์ด kidBright เพื่อแสดงผลบนจอ LED และส่งการแจ้งเตือนไปยังแอพพลิเคชั่น Line ในสมาร์ทโฟนได้
จากการศึกษาพบว่า การออกแบบและสร้างอุปกรณ์ช่วยจัดการน้้าในนาข้าว IoT แบบเปียกสลับแห้งแกล้งข้าว สามารถตรวจสอบเงื่อนไขการท้างานของอุปกรณ์ได้ตามเงื่อนไขที่ออกแบบและสร้างโปรแกรมkidBright ควบคุมการท้างานได้รงตามวัตถุประสงค์ที่ก้าหนด

โปสเตอร์  (ไฟล์ PDF) 

รายงานฉบับสมบูรณ์ (ไฟล์ PDF)

คลิป VDO

โครงงานแจ๊คเก็ตปรับอุหณภูมิ

(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นางสาวสุธิดา จรนนท์ ชั้น ม.6

1. นางสาวเกศราภรณ์ อมกระโทก ชั้น ม.6

1. นางสาวอนงนาฎ หมั่นเขตกิจ ชั้น ม.6

อาจารย์ที่ปรึกษา:

นายปริญญา เทวโรจน์ ตำแหน่ง พนักงานราชการ

สถานศึกษา :

1. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๒๕
   โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๐ จังหวัดขอนแก่น

บทนำ

1. สภาพอากาศของประเทศไทยเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว จึงทำให้ร่างกายล้ม

1. ป่วยได้ง่ายมาก เสี่ยงให้เกิดอื่นๆตามมา เราจึงคิดค้นเสื้อที่จะปรับอุณหภูมิสามารถปรับได้ทั้งร้อน

1. ทั้งหนาว สามารถปรับอุณหภูมิได้ตามที่เราต้องการ

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานเรือเก็บขยะ เวอร์ชั่น 2

(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นายอัมรินทร์ ตรุษดี ชั้น ม.๖

1. นายปริวัฒน์ แสนบุญ ชั้น ม.๖

1. นางสาวจารุวรรณ หมื่นพรม ชั้น ม.๕

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1. นายปริญญา เทวโรจน์ ตำแหน่ง พนักงานราชการ

1. นายธนวัฒน์ ไชยหาเทพ ตำแหน่ง ครูอัตราจ้าง

สถานศึกษา :

1. โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๐ จังหวัดขอนแก่น

1. ที่ตั้ง ๑๐๑ หมู่ ๑๑ ต าบลโนนสมบูรณ์ อ าเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น

1. โทรศัพท์ ๐๔๓-๒๖๗๒๒๓ โทรสาร ๐๔๓-๒๓๔๑๖๕

1. E-mail : teejarb@hotmil.com

บทนำ

1. ต้องการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการลดปริมาณขยะทั้งในแม่น้ าล าคลองและในบริเวณพื้นที่ให้กับโรงเรียนและชุมชน

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)