TH  |  EN

บทความพิเศษ : เนื่องในโอกาส สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนครั้งที่ 50 ระหว่างวันที่ 1-6 พฤษภาคม 2023 

    ในฐานะเป็นองค์อุปถัมภ์ความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีไทย-จีน อันสร้างคุณูปการแก่ทั้งสองประเทศ โอกาสนี้ ทาง China Media Group ( CMG ) ภาคภาษาไทย ได้สัมภาษณ์พิเศษ ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และอดีตปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ( กระทรวง อว.ในปัจจุบัน ) และขออนุญาตนำบทความที่น่าสนใจจากการสัมภาษณ์ครั้งนี้มาเผยแพร่
     ผู้สื่อข่าวถามว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงอุปถัมภ์ความสัมพันธ์ไทย-จีนมาตลอดกว่า 4 ทศวรรษที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นคือโครงการความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
     ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ได้เล่าตัวอย่างโครงการความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ไทย-จีน ที่พระองค์ทรงอุปถัมภ์ ตามพระราชดำริฯ นับตั้งแต่ค.ศ. 2007 จนปัจจุบัน  มีสถาบันวิจัยและมหาวิทยาลัยของแคส ( CAS: Chinese Academy of Sciences ) 14 แห่งลงนามความร่วมมือ ( MoU ) กับสถาบันวิจัย / มหาวิทยาลัยไทย 12 แห่ง มีทั้งการพัฒนากำลังคนและความร่วมมือกันทำวิจัยและพัฒนาด้านวัตกรรมดังปรากฏในรูปที่1ตัวอย่างที่สำคัญ ได้แก่
     (1) โครงการ Jiangmen Underground Neutrino Observatory สถานีตรวจวัดนิวทริโนใต้ดินตั้งอยู่ที่เมืองไคผิง ( Kaiping ) เขตเจียงเหมิน มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน วัตถุประสงค์สำคัญเพื่อตรวจวัดลำดับมวลทางควอนตัมของอนุภาคนิวทริโนที่ผลิตออกมาจากโรงไฟฟ้าปรมาณู 2 แห่ง คือ หยางเจียง ( Yangjiang ) และ ไทชาน ( Taishan )   ประเทศไทยได้จัดตั้งคณะกรรมการไทย-จูโนประกอบด้วยมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ และนักวิจัยจาก 3สถาบันและคือจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ( องค์การมหาชน ) หรือ NARIT  โดยมีความร่วมมือที่สำคัญคือการออกแบบ และสร้างระบบขดลวดลดทอนสนามแม่เหล็กโลก ( Earth Magnetic Field (EMF) Shielding ) ที่รบกวนการทำงานของหน่วยตรวจวัดนิวทริโน ได้ส่งนักวิจัย นักศึกษาไปทำงานกับจูโนที่จีน ประเทศไทยได้สนับสนุนเงินจำนวน15 ล้านบาท
     ปัจจุบันอยู่ระหว่างติดตั้งและพระองค์ท่านได้เสด็จ ฯ เยี่ยมในวันที่ 3 มิถุนายน 2023 ตอนเริ่มโครงการนี้นั้น ได้เสด็จฯ เป็นองค์ประธาน ในพิธีลงนามความร่วมมือระหว่างสถาบันฟิสิกส์-พลังงานสูง ( IHEP ) ของแคส กับ มทส., จุฬาฯ  และ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือ สดร. ( NARIT ) มีมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศคามพระราชดำริฯ เป็นพยานเมื่อ 7 เมษายน 2560 ณ สถาบันฟิสิกส์พลังงานสูง กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน 

ภาพโครงการJUNO : เมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2560 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทอดพระเนตรหน่วยทวีคูณแสง ( photomultiplier tube) ณ Institute of Higher Energy Physics : IHEP ของCAS กรุงปักกิ่ง ศาสตราจารย์ Wang Yifang (คนที่2จากซ้าย), IHEP Director ถวายคำอธิบาย และมีศาสตราจารย์ ไพรัช ธัชยพงษ์ ( คนที่3จากซ้าย ) เลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารนเทศตามพระราชดำริฯ และศาสตราจารย์บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ (คนซ้ายสุด) อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมฟังด้วย ภาพจาก :https://juno.ihep.cas.cn/PPjuno/201704/t20170418_176138.html 

    (2) โครงการวิจัยขั้วโลก ( อาร์กติกและแอนตาร์กติก ) ความเดิมมีว่าพระองค์ท่านได้เคยเสด็จฯ เยือนทวีปแอนตาร์กติก เมื่อพฤศจิกายน พ.ศ. 2536 จึงทรงเป็นคนไทยคนแรกที่เดินทางไปยังทวีปแอนตาร์กติก และทรงพระราชนิพนธ์หนังสือ “แอนตาร์กติกา : หนาวหน้าร้อน” เป็นบันทึกการเดินทางครั้งนั้น ต่อมาทรงมีพระราชดำริว่าควรส่งนักวิจัย ไทยไปอาร์ติกและแอนตาร์กติกโดยการร่วมมือกับจีน ตั้งแต่ค.ศ.2014 – 2019ทุกปีได้มีนักวิจัยไทยเดินทางไปยังแอนตาร์กติกเพื่อทำวิจัยที่สถานีวิจัยเกรทวอลล์ สถานีวิจัยจงซาน และบนเรือซือหลง ( Xuelong ) รวม 10 คน แล้วในคณะเดินทางสำรวจของจีนชื่อ Chinese National Antarctic Research Expedition ชื่อย่อ CHINARE แต่ต้องหยุดไปชั่วคราวเพราะการระบาดของ Covid- 19 และคาดจะเริ่มต้นใหม่ในปี 2023 นี้ งานวิจัยก็มีด้าน Marine biology, Microbiology, Pollution, Oceanography, Geology และ Geodesy  นักวิจัยไทยมาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิยาลัยบูรพาสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยจปร. และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ( องค์การมหาชน ) นอกจากนี้เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2562 รัฐบาลจีนได้ทูลเกล้าฯ ถวายพื้นที่ที่สถานีวิจัยเกรทวอลล์เพื่อให้นักวิจัยของไทยที่ไปสำรวจขั้วโลกใต้ ได้ใช้ในการปฏิบัติการวิจัยห้องดังกล่าวชื่อ “China-Thailand HRH Princess Maha Chakri Sirindhorn Antarctic Joint Laboratory” ภาษาจีน  ชื่อ “中泰诗琳通公主南极联合实验 “หน่วยงานของจีนที่ทำงานร่วมกับไทยในโครงการวิจัยขั้วโลก ( อาร์กติกและแอนตาร์กติก ) คือ สำนักงานบริหารอาร์กติกและแอนตาร์กติกแห่งสาธารณรัฐประชาจีน ( Chinese Arctic and Antarctic Administration: CAA ) และสถาบันขั้ว-โลกแห่งจีน ( PRIC : Polar Research Institute of China )

ภาพสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ประทับบนเรือตัดน้ำแข็ง “เสวี่ยหลง” ของสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งประเทศจีน นครเซี่ยงไฮ้ เมื่อเดือนเมษายน 2556

ที่มา: https://www.princess-it.org/en/mou-inter-en/polar-research-en/main-project-polar-en/about-polar-research-en.html

     (3) โครงการ นักเรียนทุนรัฐบาลไทยไปศึกษา UCAS ระดับปริญญาโทและเอก ( ส่วนใหญ่ปริญญาเอก ) ตั้งแต่ปี 2552-2565 รับทุนทั้งสิ้น 44 คน สำเร็จการศึกษาโท/เอกกลับมารับราชการ 19 คน และ กำลังศึกษา 22 คน

     (4) นักเรียนทุนปี 2565 เตรียมตัวสมัครเรียนภาษาจีน 3 คน ตัวอย่างสาขาวิชา ได้แก่ microbiology , remote sensing , material and material engineering , management science and data mining ,  operation research and control engineering , robot and automation, computer sciences , nanotechnology , accelerator physics and synchrotron technology  โดยผู้ที่สำเร็จการศึกษากลับมารับราชการในมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยกรมกองต่างๆ ของรัฐบาล ปัจจุบันก็ยังมีการคัดเลือกส่งนักเรียนทุนทุกปีส่งไปยัง UCAS

     นอกจากนี้ยังมีทุนระดับปรัญญาโททีจากมหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง ( AnJiaotong University : XJTU ) สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ทูลเกล้าฯถวายปีละ 3 ทุนใน 9 สาขา เช่น Mechanical Engineering , Power Engineering and Engineering Thermophysics , Electronic Science and Technology , Information and Communication Engineering , Management Science and Engineering ตั้งแต่ปี 2554-65 มีนักศึกษา 12 รุ่น รวม 30 คน สำเร็จการศึกษา 23 คน อยู่ระหว่างศึกษา 6 คน ลาออก 1 คนผู้สำเร็จการศึกษาแล้วทำงานบริษัทเอกชน ภาครัฐ มหาวิทยาลัยและศึกษาต่อระดับปริญญาเอก ปัจจุบันยังคัดเลือกส่งไปทุกปี

ภาพ : ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีให้สัมภาษณ์กับ China Media Group ( CMG )

ภาพ : ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีให้สัมภาษณ์กับ China Media Group ( CMG )

     ผู้สื่อข่าวถามถึงต้นปีที่แล้ว พระองค์ทรงเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจในโครงการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของประเทศไทยกับหน่วย งานของสาธารณรัฐประชาชนจีน ด้านการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์ขั้วโลก โครงการนี้ช่วยไทยได้ศึกษาวิจัยด้านขั้วโลก และองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องอย่างไร

     ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์  ระบุว่า โครงการความ-ร่วมมือไทย-จีน ตามพระราชดำริฯ นับตั้งแต่ค.ศ. 2007 จนปัจจุบันนั้นได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของจีนและไทยหลายหน่วยงานแล้ว  เมื่อกลางปีที่แล้ว วันที่ 19 สิงหาคม 2565 ณ วังสระปทุมพระองค์ท่านประทับเป็นประธาน ในการลงนามต่ออายุ MoU บางโครงการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ( ออนไลน์ ) มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ เป็นผู้ประสานงาน ดังนี้

     เรื่องที่ 1  โครงการความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยวิทยาศาสตร์ขั้วโลก ( โครงการวิจัยขั้วโลกอาร์กติกและแอนตาร์กติก )

ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นในข้อ1  ฝ่ายจีนมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติจีน ( H.E. Wang Guanghua ) เข้าร่วมในพิธีและถวายรายงานด้วย มีผู้ลงนามได้แก่ผู้บริหารสถาบันวิจัยขั้วโลกแห่งจีน ( PRIC ) และผู้บริหารหน่วยงานไทย 5 แห่ง ได้แก่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ( องค์การมหาชน ) หรือ NARIT

     เรื่องที่ 2 โครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ฝ่ายจีนมี

     อธิการบดี (Professor Li Shu-Shen)มหาวิทยาลัยแห่งสภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน (UCAS: University of Chinese Academy of Sciences) เข้าร่วมในพิธีและถวายรายงานด้วย ผู้ลงนามฝ่ายจีนได้แก่ รองอธิการบดี ( Dr. Wu Jun ) ของ UCAS ฝ่ายไทยได้แก่เลขาธิการ ก.พ. ( ดร.ปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ )

     การลงนามนี้ช่วยให้ความร่วมมือดำเนินการดังกล่าวไว้ในข้อ 1 ให้ต่อเนื่องก้าวหน้าต่อไปอย่างดียิ่งที่อยากกล่าวไว้ด้วยว่าในการร่วมทำวิจัยนั้น เช่น JUNO และขั้วโลก รวมทั้งโครงการความร่วมมือไทย-จีน อื่น ๆ มีนักศึกษาระดับโทและเอกของมหาวิทยาลัยไทยหลายแห่งเข้าร่วมโครงการด้วยจนจบปริญญาโทและเอกของมหาวิทยาลัยไทยด้วย

     ผู้สื่อข่าวถาม:ด้านโครงการดาราศาสตร์ พระองค์ทรงอุปถัมภ์ โครงการทางดาราศาสตร์ ไทย-จีน อย่างไร

     ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ให้ข้อมูลว่า มีโครงการดังนี้ คือ 1.โครงการวิจัย: Observations and investigations of special binary stars observed by TESS ( พ.ศ.2564 – 2566 ) การศึกษาวิจัย ติดตามสังเกตการณ์ดาวคู่อุปราคาจากฐานข้อมูล TESS ( Transiting Exoplanet Survey Satellite )เป็นความร่วมมือกับYunnan Observatories , CAS ซึ่งมี Prof. Sheng-Bang Qian ฝ่ายจีน และดร.บุญรักษา สุนทรธรรม ฝ่ายไทย ในปี 2565

     สำหรับความร่วมมือดังกล่าว เพื่อศึกษาดาวคู่พิเศษจากฐานข้อมูลของ TESS ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์ดาวเทียมขององค์การนาซาร่วมกับ ข้อมูลสเปกตรัมจากกล้องโทรทัศน์ LAMOST ของ Xinglong Observatory ของจีน แล้วทำการติดตามสังเกตการณ์ด้วยกล้องภาคพื้นดิน เช่น จากกล้อง 2.4 เมตร กล้อง 1 เมตร ของไทย ร่วมกับข้อมูลจากกล้องของจีน เช่น จากกล้อง GMG 0.7 เมตร ณ หอดูดาวเกาเหมยกู่เขตลี่เจียง กล้อง 0.6 เมตร และ 1 เมตร ของหอดูดาวยูนาน เขตคุนหมิง โดยมีผลงาน วิจัยตีพิมพ์ ในวารสารนานาชาติ ร่วมกัน 4 เรื่อง เช่น ใน PASJ, RAA และ New Astronomy เป็นต้น

     (2) โครงการพัฒนาดาวเทียมวิจัยวิทยาศาสตร์ TSC-Pathfinder เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง Changchun Institute of Optics, Fine Mechanics and Physics (CIOMP) , CAS และ สดร. เพื่อพัฒนาศักยภาพกำลังคนด้านวิศวกรรมขึ้นสูง โดย สดร. ได้ส่งวิศวกร จำนวน 3 คน เข้าร่วมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เทคนิควิจัย เทคโนโลยีดาวเทียมสำรวจโลกกับคณะวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญของ CIOMP ณ มณฑลฉางชุน สาธารณรัฐประชาชนจีน

     ปัจจุบันประกอบดาวเทียม TSC-P แล้วเสร็จในระดับต้นแบบวิศวกรรม ( Engineering Model ) แล้วดาวเทียมขนาดเล็ก น้ำหนัก ~80 กก.วงโคจรต่ำ ความสูง ~500 กม.ภารกิจหลักทำหน้าที่สำรวจพื้นผิวโลก คาดว่าจะส่งขึ้นสู่วงโคจรราวปลายปี ค.ศ.2025

     ผู้สื่อข่าวถามว่า อยากให้เล่าถึงพระอัจฉริยะภาพด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี

     ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ให้ข้อมูลว่า พระองค์ทรงสนพระทัยในการเรียนรู้และศึกษาความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตลอดเวลาทั้งจากวารสารวิชาการ การเข้าร่วมประชุมวิชาการและการเสด็จเยือนสถาบันด้านวัตกรรมสำคัญทั้งในและนอกประเทศ ทรงซักถามผู้เชี่ยวชาญและบันทึกในสมุดของพระองค์ท่านแบบนักวิชาการอย่างแท้จริง พระอัจฉริยะภาพที่สำคัญอย่างยิ่งคือพระปรีชาสามารถในการสร้างสัมพันธไมตรีกับนานาชาติ นำนักวิจัยไทยเข้าร่วมโครงการต่างๆทั้งที่สาธารณรัฐประชาชนจีนดังกล่าวมานี้และประทศอื่นๆในยุโรป

     ผู้สื่อข่าวถามว่าจากแนวพระราชดำริให้ศึกษาแนวทางความร่วมมือโครงการต่าง ๆ ได้ช่วยส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรไทยอย่างไรบ้าง

     ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ให้ข้อมูลว่า  นอกจากโครงการนักเรียนทุนกพ.ไปศึกษาที่ UCASหรือทุนระดับปรัญญาโทที่มหาวิทยาลัยซีอานเจียวทง แล้วยังมีโครงการส่งนักเรียนไปศึกษาต่างประเทศในโครงการอื่น ๆ  แต่ที่อยากเน้นคือโครงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามพระราชดำริฯ ทั้งหลายจะนำมาซึ่ง “การพัฒนากำลังคน” ที่แฝงอยู่ในแต่ละโครงการด้วย นักวิจัยที่ร่วมโครงการ เช่น จูโน ขั้วโลก ดาวคู่ดาวเทียม มีนักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกที่ลงทะเบียนกับมหาวิทยาลัยไทยทำงานกับอาจารย์ที่ปรึกษาที่เข้าร่วมโครงการเหล่านั้น นับเป็นการสร้างบุคคลากรไทยที่ทัดเทียมกับต่างประเทศ

     ขอบพระคุณข้อมูลจาก  : ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และอดีตปลัด กระทรวง อว.

เรียบเรียงและสัมภาษณ์โดย : มณีนาถ อ่อนพรรณา ผู้สื่อข่าว CMG

เครดิต : https://thai.cri.cn/2023/06/04/ARTIu2zbYfF5YR00zZ7jWdkt230604.shtml