โครงงานเครื่องขุดเจาะแบบจำลองอัตโนมัติ

(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1.  นายอัฟฟาน บอเถาะ ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 4/2
2. นายมูฮัมหมัดซาวาวี สะแต ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 5/2
3. นายซาฟาริด มามะ ระดับชั้นมัธยมศึกษาที่ 4/1

อาจารย์ที่ปรึกษา: นางสาวนูรียะ อามะ นางสาวฮาสือนะ เเบเฮง และนายอิลฮาม เจะอาแว

สถานศึกษา : โรงเรียนบากงวิทยา จ.ปัตตานี

บทนำ

ปัจจุบันวงการอสังหาริมทรัพย์มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีการสร้างบ้านพักที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นสภาพแวดล้อมภายในที่พักอาศัยจึงเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ผู้ซื้อพึงพอใจกับสินค้า ทำให้หมู่บ้านจัดสรรต้องมีการจัดสวนหรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสวนอยู่ตลอดเวลาแต่ปัญหาที่พบเห็นคือ ผู้ประกอบอาชีพจัดสวนทั่วไปแต่เดิมจะขุดหลุมด้วยจอบหรือเสียมและใช้แรงงานคน ซึ่งวิธีการดังกล่าวเป็นวิธีที่เสียเวลาและสิ้นเปลืองแรงงาน
ดังนั้นกลุ่มของข้าพเจ้าได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้จึงมีการจัดทำเครื่องเจาะดินอัตโนมัติสำหรับปลูกต้นไม้ขนาดเล็กขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องแรงช่วยลดการเกิดความเมื่อยล้าอีกทั้งช่วยลดต้นทุนและเวลาให้กับการเกษตรได้อีกทางหนึ่ง

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานรถเก็บขยะอัจฉริยะ

(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นางสาวพรรษพรรษา บุญราช
2. นายสรายุทธ พัฒน์แป้น

อาจารย์ที่ปรึกษา: 1.นายนพดล สุทธิมา  2.นางสาวสุกัญญา อุพัมมา

สถานศึกษา : โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี

บทนำ

ความเป็นมาของโครงงาน

          ปัจจุบันปัญหา “ขยะ”นับว่าเป็นปัญหาสำคัญในโรงเรียนสาเหตุมาจากนักเรียนหลายคนมีพฤติกรรมการทิ้งขยะเรี่ยราดไม่เป็นที่เป็นทางจากการซื้ออาหารมาจากภายนอกและภายในจากร้านสหกรณ์โรงเรียนถึงแม้โรงเรียนจะมีกฎเกณฑ์และมาตรการณ์ต่างๆ ที่คอยควบคุมการทิ้งขยะของนักเรียน ซึ่งสิ่งตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ “ขยะ” ย่อมมีจำนวนมากขึ้นไปด้วย ถึงแม้จะมีจะมีถังขยะรองรับแต่ก็ไม่เพียงพอกับจำนวนขยะที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างปัญหาอย่างมากทางด้านทัศนวิสัยและความสะอาดก่อให้เกิดปัญหาขยะล้นโรงเรียน

เนื่องจากปัญหาที่พบในปัจจุบันเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานานจากการทิ้งขยะของนักเรียนจึงต้องการเห็นสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนให้มีความสะอาดและทำให้สภาพแวดล้อมในโรงเรียนดีขึ้น

ทางผู้จัดทำจึงได้การคิดค้นสิ่งประดิษฐ์ที่จะช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและเพื่อความสะอาด นั่นคือ รถเก็บขยะอัจฉริยะ จะช่วยเก็บขยะที่ปลิวตกหล่นอยู่ตามพื้นถนนทั่ว ๆไป เช่น ถุงพลาสติก ขวดพลาสติก โดยสิ่งประดิษฐ์จะทำงานตามที่เรากำหนดไว้ จะทำงานเพียง 12 ชม.  รวมถึงอุปกรณ์จะสามารถแยกแยะระหว่างขยะและสิ่งกีดขวางอื่น ๆ ได้ โดยใช้ระบบ AI ในการสั่งงานให้ raspberry pi ทำการ image processing วิธีนี้จะทำให้ไม่มีปัญหาในเรื่องของการที่อุปกรณ์อาจจะทำงานผิดพลาดหรือไปเก็บเอาสิ่งอื่นที่ไม่ใช่ขยะเข้ามาก็เป็นได้ และอุปกรณ์นี้จะรับน้ำหนักได้ในช่วงประมาณ 1-3 กิโลกรัม หากเรากำจัดขยะเหล่านี้ไปได้ก็จะส่งผลให้สภาพแวดล้อมของเราสะอาดและน่าอยู่มากยิ่งขึ้น และสามารถช่วยลดปริมาณขยะในสังคมของเราได้ดีในระดับหนึ่ง

แนวคิด

เครื่องสมองกลนี้ได้แนวคิดมาจากระบบตรวจจับวัตถุรูปภาพด้วยระบบ AI ผ่านกระบวนการ image processing ผู้จัดทำจึงนำระบบตรวจจับนี้ประยุกต์ใช้ให้เข้ากับปัญหาในชีวิตประจำวัน ซึ่งนั่นก็คือการแก้ไขปัญหาในเรื่องของขยะ โดยคาดหวังว่าสิ่งประดิษฐ์นี้อาจจะช่วยลดปริมาณขยะในสิ่งแวดล้อมลงได้

ความสำคัญของโครงงาน

เนื่องจากปัจจุบันนี้ในสิ่งแวดล้อมของเราเต็มไปด้วยขยะและมลพิษต่างๆ ที่เกิดจากขยะ ดังนั้นสิ่งประดิษฐ์นี้จะช่วยเก็บขยะเล็กน้อยที่เกลื่อนกลาดอยู่ตามพื้นถนน ซึ่งจะช่วยให้สิ่งแวดล้อมในสังคมดีขึ้นมาได้

วัตถุประสงค์

1. 1. เพื่อลดปริมาณขยะในสิ่งแวดล้อม
2. เพื่อเรียนรู้ระบบปฏิบัติการของ raspberry pi 4
3. เพื่อเรียนรู้ทักษะการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (ภาษาPython)
4. เพื่อเรียนรู้การทำงานของระบบ AI (Artificial Intelligence)

ขอบเขตของการทำโครงงาน

1. การขับเคลื่อนของรถเก็บขยะต้องบังคับผ่านระบบสัญญาณ Bluetooth
2. สิ่งประดิษฐ์ไม่สามารถรับน้ำหนักได้มากเกิน 2กิโลกรัม
3. ขยะที่ระบุเก็บในโปรแกรมได้แก่ขยะประเภท ซองขนม ขวดน้ำพลาสติก กล่องนม
4. การทดสอบประสิทธิภาพของรถเก็บขยะอัจฉริยะอยู่ภายในบริเวณโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์

สุราษฎร์ธานี

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานเครื่องอบสมุนไพร

(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นายศรัณยู ชัยชนะ
2. นายมังกร หนูเกตุ

อาจารย์ที่ปรึกษา: 1.นายนพดล สุทธิมา 2.นางสาวสุกัญญา อุพัมมา

สถานศึกษา : โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์สุราษฎร์ธานี

บทนำ

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

          ปัจจุบันพืชสมุนไพรมีหลากหลายชนิดแต่ละชนิดไม่สามารถเก็บไว้ได้นานดังนั้นจึงต้องตากสมุนไพรให้แห้งเพื่อถนอมอาหารไว้ โดยการตากแห้งสมุนไพร มีข้อจำกัดในการตากแห้งสมุนไพรเกี่ยวกับปัจจัยด้านสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย จึงไม่สามารถใช้แสงอาทิตย์ในการตากแห้งพืชผักสมุนไพรได้และระยะเวลาในการตากแห้งพืชผักสมุนไพรจะสามารถตากได้เฉพาะตอนกลางวัน จึงมีความคิดริเริ่มที่จะสร้างเครื่องอบแห้งสมุนไพรขึ้นมาเพื่อแปรรูปพืชผักสมุนไพรแทนการตากแห้งจากแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียว โดยเครื่องอบนี้จะช่วยถนอมพืชผักสมุนไพรได้นานยิ่งขึ้นและสามารถอบแห้งได้ทุกส่วนของพืช ได้แก่ ใบ ลำต้น ผล หัว และเง่า เป็นต้น

โดยเครื่องอบแห้งสมุนไพรจะทำงานโดยอาศัยพลังงานจาก 2 แหล่ง คือ ไฟบ้าน และ ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cell) หลักการทำงานของเครื่อง คือ เมื่อเปิดใช้งานให้วางพืชที่ต้องการลงไปบนตะแกรงจากนั้นเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้นจะตรวจวัดอุณหภูมิภายในตัวเครื่องแล้วแสดงผลผ่านจอ LCD จากนั้นจึงปิดฝาเครื่อง จากนั้นพัดลมเป่าความร้อนจะทำงานพร้อมกับอุปกรณ์อื่นๆ และหลอดไฟจะใช้พลังงานจากไฟบ้านและเมื่อครบเวลาที่กำหนดการใช้งานพลังงานก็จะเปลี่ยนเป็นพลังงานแสงอาทิตย์โดยในการทำงานนี้จะมีการแจ้งเตือนไปยัง Android ด้วยระบบ IOT จากนั้นเมื่ออุณหภูมิเกินที่กำหนดพัดลมระบายความร้อนก็จะทำงานและพอใช้งานจนครบเวลาการทำงานของเครื่องระบบก็จะทำการตัดไฟเองโดยอัตโนมัติ และจะมี Kidbright เป็นตัวส่งสถานะของเครื่องอบแห้ง เช่น ตอนนี้เซนเซอร์วัดอุณหภูมิในเครื่องอบได้วัดค่าได้ว่ามีอุณหภูมิ 30 องศา ก็จะส่งค่าที่ได้จากเซนเซอร์ไปยังตัว KidBright และ KidBright จะส่งค่าไปยังแอปพลิเคชั่น Line “ว่าขณะนี้อุณหภูมิในเครื่องอบมีอุณหภูมิ 30 องศา ผ่านระบบ IOT

ในส่วนของโปรแกรมได้ใช้บอร์ด Arduino และ kidBright ในการเขียนโปรแกรม ใน Arduino จะเขียนควบคุมโปรแกรมโดยใช้ภาษาซี ควบคุมการทำงานในส่วนของการวัดค่าอุณหภูมิและความชื้นของเซ็นเซอร์และการควบคุมระบบการสลับเปลี่ยนกระแสไฟฟ้าของอุปกรณ์รวมไปถึงการควบคุมระบบระบายความร้อนของพัดลมเป่าลมร้อน และ KidBright จะเขียนควบคุมโปรแกรมโดยใช้ภาษาบล็อก เพื่อเป็นตัวส่งผลไปยังแอพพลิเคชั่น Line

วัตถุประสงค์

1.สร้างเครื่องอบแห้งสมุนไพรอัจฉริยะ

2.ศึกษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้สร้างเครื่องอบแห้งสมุนไพรอัจฉริยะ

3.ศึกษาการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์

ขอบเขตของการศึกษา

1. โครงสร้างของเตาอบสมุนไพรและวงจรสำหรับทดสอบ
2. โปรแกรมที่ทำขึ้นไม่สมบูรณ์ในบางส่วน
3. เป็นโปรแกรมที่ต้องใช้เวลาในการทดลองสูง
4. สมุนไพรที่นำมาอบคือพริกไทยและใบกระเพา

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

          1.ได้สร้างเครื่องอบแห้งสมุนไพร

2.สมุนไพรมีเวลาในการเก็บไว้ใช้งานได้งานยิ่งขึ้น

3.อำนวยความสะดวกและประหยัดเวลาของผู้ใช้งาน

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานชุดอุปกรณ์โซล่าเซลล์เคลื่อนที่
(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นายณัฐพล พิมพา
2. นายพลาธิป มีบุบผา
3. นางสาวนวรัตน์ หมีนาค

อาจารย์ที่ปรึกษา:นางสาวรุ่งรัตน์ จีรวิทย์ขจร

สถานศึกษา :โรงเรียนปิยชาติพัฒนา ในพระราชูปถัมภ์ฯ

บทนำ

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานรถตู้อัจฉริยะ Intelligent van

(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ
นางสาว ธีริศรา ขันตี
นางสาว สวรินทร์ วงค์เจริญ

อาจารย์ที่ปรึกษา:
นางภรณ์นิภา บุญทอง
นางสาวอุบลวรรณ เมืองแก้ว

 สถานศึกษา : โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง

บทนำ

• ความสำคัญและที่มา

มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ดำเนินกิจกรรมพัฒนาทักษะด้านอิเล็กทรอนิกส์และการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้แก่โรงเรียนในโครงการฯ เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนได้จัดทาโครงงานหรือนวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่งเสริมให้เกิดทักษะการคิด การแก้ปัญหา และเรียนรู้ผ่านกระบวนการทำโครงงาน อันเป็นทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ให้แก่นักเรียน

รถตู้ เป็นรถที่มีการนำมาใช้งานในหลายรูปแบบ ทั้งรถประจำหน่วยงาน รถตู้โดยสาร และรถรับ-ส่งนักเรียน ซึ่งในระยะ 2-3 ปี มานี้ มีข่าวเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดจากการใช้รถตู้เกิดขึ้นเป็นประจำ โดยเฉพาะปัญหาการลืมหรือทิ้งเด็กไว้ในรถตู้จนเป็นเหตุให้ร่างกายไม่สามารถปรับตัวได้เนื่องจากอุณหภูมิที่สูงเกินไปและ
ขาดอากาศหายใจจนมีอาการสาหัสหรือเสียชีวิต

คณะผู้จัดทำจึงได้นำความรู้และแนวคิดที่จะพัฒนารถตู้อัจฉริยะ (Intelligent van) ที่สามารถตรวจวัดอุณหภูมิที่สูงเกินไปและตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในรถ เพื่อแจ้งเตือนให้คนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงรวมทั้งแจ้งให้พนักงานขับรถทราบหากมีผู้โดยสารตกค้างอยู่ในรถเพื่อป้องกันและลดความเสียหายจากปัญหาดังกล่าวในเบื้องต้น โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิและเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว เพื่อให้มีการส่งสัญญาณสัญญาณไฟและเสียงฉุกเฉินออกไปนอกรถ และมีการแจ้งเตือนในโทรศัพท์มือถือของพนักงานขับรถผ่านแอปพลิเคชันไลน์ (LINE Application)

วัตถุประสงค์

1. เพื่อฝึกทักษะการทำโครงงานและพัฒนาการเขียนโปรแกรมอัตโนมัติที่ใช้สมองกลฝังตัว
   เป็นส่วนประกอบ
2. เพื่อออกแบบและสร้างระบบตรวจสอบและแจ้งเตือนเมื่อมีผู้ติดอยู่ในรถตู้ผ่านการควบคุมด้วยสมองกลฝังตัว
3. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของระบบแจ้งเตือนเมื่อมีผู้ติดอยู่ในรถตู้
4. เพื่อลดความเสียหายและอันตรายจากปัญหาการมีผู้ติดค้างอยู่ในรถตู้

ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า

• เนื้อหา

1.3.1.1 การออกแบบระบบ ศึกษาการทำงานของเซ็นเซอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

1.3.1.2 การเขียนโปรแกรมให้สามารถทำงานได้โดยควบคุมระบบการทำงานผ่านบอร์ด KidBright ด้วย โปรแกรม KidBright IDE

• กลุ่มเป้าหมาย : นักเรียนในโครงการสิ่งประดิษฐ์สมองกลฝังตัวภายใต้โครงการ ทสรช. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
• สถานที่ : โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์พัทลุง
• ระยะเวลา : ธันวาคม 2562 – กรกฎาคม 2563

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

• นักเรียนมีทักษะในการเรียนรู้ การแก้ปัญหา การคิดวิเคราะห์ การคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน
• เป็นแนวทางในการพัฒนาอุปกรณ์หรือระบบอื่น ๆ ที่ใช้สมองกลฝังตัวเป็นส่วนประกอบได้
• โรงเรียนได้มีต้นแบบการฝึกทักษะการเขียนโปรแกรม การออกแบบ ทดลอง และสร้างเป็นชิ้นงานเพื่อให้นักเรียนเกิดแรงบันดาลใจ และสนใจที่จะศึกษาเกี่ยวกับอาชีพวิศวกรหรือนวัตกรในอนาคต

คำนิยามศัพท์

• รถตู้อัจฉริยะ หมายถึง รถตู้ที่มีระบบตรวจสอบและแจ้งเตือนเมื่อมีผู้ติดอยู่ในรถตู้ผ่านการควบคุมด้วยสมองกลฝังตัว ซึ่งสามารถเริ่มทำงานได้ด้วยตัวเองตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ โดยควบคุมการทำงานผ่านไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller) ในบอร์ด KidBright
• สมองกลฝังตัว หรือ ระบบฝังตัว (Embedded system) คือ ระบบประมวลผลที่ใช้ชิปหรือ
  ไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ฝังไว้
  ในอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น เพื่อเพิ่มความฉลาดและ ความสามารถให้กับอุปกรณ์เหล่านั้น โดยจะทำงานตามคำสั่ง คือ โปรแกรม หรืออัลกอริทึมที่เขียนไว้ในชิปหรือไมโครคอนโทรลเลอร์นั้น ในที่นี่ หมายถึง บอร์ด KidBright
• ไมโครคอนโทรลเลอร์ (Microcontroller) หมายถึง อุปกรณ์ควบคุมขนาดเล็ก ซึ่งมีความสามารถคล้ายคลึงกับระบบคอมพิวเตอร์ สามารถนำมาประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายโดยผ่านการออกแบบวงจรให้เหมาะกับงาน และสามารถโปรแกรมคำสั่งเพื่อควบคุมขา Input / Output เพื่อสั่งงานให้ควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้
• บอร์ด KidBright หมายถึง บอร์ด KidBright 32 V 1.3

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานเครื่องให้อาหารไก่อัตโนมัติ

(ม. ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นาย พีระพล   สุริผัด
2. นาย วิเชียร  ลีภิวัฒน์วงศ์
3. นางสาว เฝยเซ็ง  เเซ่ตั้ง

อาจารย์ที่ปรึกษา:  

1.นาย นันท์  ก้อคำ     

2.นางสาว วรรณิกา  ริกากรณ์

สถานศึกษา:        โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 24 จังหวัดพะเยา

บทนำ

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

เนื่องจากทางโรงเรียนได้ดำเนินการตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง และได้ดำเนินการเลี้ยงไก่ในการทำอาหารกลางวัน และใช้วิธีการเลี้ยงในเล้าและแบบปล่อย ซึ่งภารกิจในโรงเรียนค่อนข้างมาก ทางกลุ่มของข้าพเจ้าจึงได้คิดเครื่องช่วยให้อาหารไก่อัตโนมัติด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการให้อาหารไก่ดังนั้นจึงทำให้เกิด เครื่องให้อาหารไก่อัตโนมัติด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีใส่ใจสิ่งแวดล้อม ให้มีความสะดวกต่อการต่อการเลี้ยงไก่ รวมทั้งการตรวจสอบการใช้งานเครื่องให้อาหารไก่ว่าทำงานอยู่หรือไม่ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งของการประหยัดพลังงาน สามารถสั่งควบคุมได้จากทุก ๆ ที่ผู้ใช้ต้องการ โดยอาศัยระบบการสื่อสารไร้สายเป็นสื่อกลางและช่องทางในการควบคุม ซึ่งโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาข้าพเจ้าได้ศึกษาและเรียนในหลักสูตรของโรงเรียนแล้วนำมา ประยุกต์ใช้งานที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีความสนใจที่จะศึกษาต่อไป

 วัตถุประสงค์ของโครงงาน

1 เพื่อสร้างเครื่องให้อาหารไก่อัตโนมัติด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ได้

2 เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงาน

3 เพื่ออาหารที่ให้พอดีกับปริมาณของจำนวนไก่

รายงานฉบับสมบูรณ์ (ไฟล์ PDF)

คลิป VDO

โปสดตอร์  (ไฟล์ PDF)

โครงงานตู้ฟักไข่อัตโนมัติ

(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นายญาณกร  แซ่จ๋าว
2. นางสาวณัฐนันท์  จิตมโน
3. นางสาวธัญสุดา   อภิชัยพรกุล

อาจารย์ที่ปรึกษา:

1.นายนันท์  ก้อคำ

2.นางสาววรรณิการ์  ริกากรณ์

สถานศึกษา :

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 24 จังหวัดพะเยา

บทนำ

โครงงานเรื่อง ตู้ฟักไข่ระบบอัตโนมัติมีวัตถุประสงค์เพื่อ1)เพื่อสร้างตู้ฟักไข่ระบบอัตโนมัติ               2) เพื่อลดต้นทุนในการซื้อตู้ฟักไข่แบบอัตโนมัติที่มีราคาแพงใช้เอง 3)เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการฟักเป็นตัวมากกว่าการให้แม่ไก่ฟักเอง

วิธีการดำเนินงานเริ่มจาก1.รวมกลุ่มเพื่อระบุปัญหาหรือโครงงานที่อยากทำ2.รวบรวมข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับปัญหารวมถึงศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับตู้ฟักไข่ระบบอัตโนมัติ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้งานได้ในแบบต่างๆ และสามารถใช้งานได้จริง โดยใช้ความรู้ STEM มาช่วยในการแก้ปัญหา และพัฒนาโครงงานนี้3.ออกแบบตู้ฟักไข่ระบบอัตโนมัติ ตามที่ได้วางแผนโดยคำนึงถึงทรัพยากร ข้อจำกัดและเงื่อนไขของโครงงานสะเต็ม4.ดำเนินการสั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นในการทำงานตามที่ได้ออกแบบไว้เรียบร้อยแล้ว5.ลงมือสร้างชิ้นงานที่ได้ทำการออกแบบไว้ทำการทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไขปัญหาการทำงานของระบบเพื่อหาข้อบกพร่องเพื่อการปรับปรุงและพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการใช้งานได้อย่างเหมาะสมที่สุดต่อไป

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานเครื่องชั่งน้ำหนัก
(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นางสาวณัฐวรา แซ่ม้า ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6
2. นางสาวพิมมาดา รัตนดิลกุล ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6
3. นางสาวศรัณยา วงค์ศิริประภา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่5

อาจารย์ที่ปรึกษา: นายวีรศักดิ์    เป้รอด และนางสาวมติกา    ใจธรรม

สถานศึกษา : โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารีฯ  จ. ลำปาง

บทนำ

บทคัดย่อ  เนื่องจากทางโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารีมีนักเรียนเป็นจำนวนมาก จึงทำไห้การชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงเป็นเวลานานและยุ่งยากวุ่นวายเสียเวลาในการทำงาน และบางครั้งก็กรอกข้อมูลผิด เช่น กรอกส่วนสูงหรือน้ำหนักผิดคน จึงทำไห้ข้อมูลผิดพลาดและบางครั้งโรงเรียนต้องใช้เวลาในการชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงเป็นเวลานาน คณะผู้จัดทำได้เห็นปัญหาดังกล่าวและได้คิดวิธิการแก้ไขปัญหา โดยคณะผู้จัดทำได้สร้างเครื่องชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงด้วยระบบสแกนใบหน้า  ตัวนี้ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาการลดเวลาในการชั่งน้ำหนังวัดส่วนสูงและลดการผิดพลาดในการกรอกข้อมูล

เครื่องชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงด้วยระบบสแกนใบหน้า เครื่องนี้มีระบบการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีของ Raspberry Pi 4  มีวัตถุประสงค์เพื่อนำอุปกรณ์ Raspberry Pi 4 มาพัฒนาให้ความสามารถที่หลากหลาย อุปกรณ์ต้นแบบที่สร้างมาเพื่อลดเวลาในการชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง และลดการผิดพลาดในการกรอกข้อมูลในโรงเรียน  โครงงานนี้ใช้เงินลงทุนต่ำโดยโครงงานนี้ได้อธิบายวิธีการพัฒนาระบบ อย่างละเอียด เพื่อให้ผู้ที่สนใจ สามารถที่จะนำไปใช้ เพื่อให้สนองกับความต้องการ โดยระบบที่พัฒนาขึ้นนี้ สามารถตอบสนองความต้องการทั้งภาคการศึกษาโครงการ เครื่องชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูงด้วยระบบสแกนใบหน้านี้ใช้  Raspberry Pi 4    เป็นตัวควบคุมการทำงาน สามารถติดตั้งระบบปฏิบัติการลงไปได้และระบบปฏิบัติการที่ถูกติดตั้งลงไปในนั้นถูกออกแบบพัฒนามาเพื่อ Raspberry Pi 4   นี้โดยเฉพาะ

วัตถุประสงค์

 เพื่อลดเวลาในการชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง

2. เพื่อลดการผิดพลาดในการกรอกข้อมูล

3. เพื่อลดการผิดพลาดในการวัดส่วนสูง

ความรู้ที่เกี่ยวข้อง

– ใช้หลักการทางฟิสิกส์ การวัด การชั่ง

– ใช้หลักการทางคณิตศาสตร์ ในการคำนวณ

– ใช้หลักการในเทคโนโลยี และใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ในการประกอบชิ้นงาน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. ประหยัดเวลาในการชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง

2. มีข้อมูลที่ชัดเจน

3. โรงเรียนมีเทคโนโลยีในการจัดการชั่งน้ำหนักวัดส่วนสูง

ผลงานเรื่องนี้ ไม่เคยมีผู้ทำมาก่อน

โครงงานนี้เป็นโครงงานใหม่ ทางโรงเรียน ไม่เคยทำมาก่อน

จุดเด่น คือ นำอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพงมาใช้กับโครงงานทำให้งบประมาณไม่บานปลาย

จุดด้อย คือ อาจเกิดข้อผิดพลาดตรงส่วนสแกนใบหน้า บางครั้งเครื่องอาจตรวจจับใบหน้าผิด เนื่องจาก บางครั้งคุณครูหรือหนักเรียนแต่งหน้าจัดเกินไป

เป้าหมายและขอบเขตของโครงงาน

       ขอบเขตด้านโครงงาน : เขียนโปรแกรมด้วยปรแกรมภาษาC,Python , HTML , PHP และ การใช้เซ็นเซอร์ชนิดต่างๆ เชื่อมกับ Raspberry Pi 4

       ขอบเขตกลุ่มเป้าหมาย : เรือนพยาบาล ของโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารีฯ

       ขอบเขตด้านสถานที่ : โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารี ฯ

       ขอบเขตด้านระยะเวลาที่ศึกษา : ทำโครงงานในช่วง เดือนตุลาคม 2562 – เดือนสิงหาคม 2563

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)

โครงงานรถไฟฟ้าอัจฉริยะ
(ม.ปลาย)

ผู้จัดทำ

1. นางสาวชนัญชิดา อ้วนดี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
2. นางสาวนุชนารถ ใหม่คำหล้า ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
3. นายนวิน แซ่ว่าง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

อาจารย์ที่ปรึกษา:

นายวีรศักดิ์    เป้รอด

นางสาวมติกา    ใจธรรม

สถานศึกษา :

โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารีฯ ลำปาง

บทนำ

บทคัดย่อ

เนื่องด้วยในปัจจุบันเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีของระบบ Smart Phone ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมี Application ต่าง ๆ ออกมามากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของมนุษย์ ทำให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกสบายง่ายและรวดเร็ว โดยผ่าน Application ซึ่งมีให้ดาวน์โหลดฟรี และแบบเขียนขึ้นเอง ทำให้สามารถเชื่อมโยงระหว่างกันและกันผ่านอินเตอร์เน็ต เครือข่ายในลักษณะนี้เรียกว่า The Internet of Things เรียกย่อ ๆ ว่า IOT

โครงการรถไฟฟ้าอัจฉริยะ  มีวัตถุประสงค์เพื่อลดปัญหาด้านการใช้พลังงานในประเทศสร้างความสะดวกและความรวดเร็วในการเดินทาง ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง รวมถึงการแจ้งเตือนให้กับผู้ที่ใช้งานหรือผู้ที่ขับขี่รถไฟฟ้าอัจฉริยะที่อยู่ในระยะที่เป็นอันตรายต่อการชนกับสิ่งกีดขวางรอบข้าง เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้รวดเร็ว และลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยคณะผู้จัดทำได้ทำการทดลอง และออกแบบรถไฟฟ้าอัจฉริยะซึ่งสามารถแจ้งเตือนการเกิดการชนกับสิ่งกีดขวางรอบข้างได้ โดยมีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวทำหน้าที่ในการสำรวจว่ามีสิ่งกีดขวางอยู่รอบข้างไหม ถ้ามีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวก็จะส่งข้อมูลไปยัง Raspberry Pi 3 จากนั้น Raspberry Pi 3 ก็จะส่งไปยัง KidBright แล้ว KidBright ก็จะส่งค่าไปยังโมดูลเสียงเพื่อส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ใช้งาน

หลักการทำงานของรถไฟฟ้าอัจฉริยะ คือ เริ่มแรกเราจะทำการสตาร์ทรถเพื่อจ่ายไฟจากแบตลิเธียม ไปยังระบบควบคุมการทำงานและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆของรถ  พออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ของรถได้รับกระแสไฟฟ้าแล้วจะทำการจ่ายข้อมูลไปยัง Raspberry Pi 3 และตัวคอลโทล เพื่อทำการควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ และเมื่อรถไฟฟ้าเข้าใกล้สิ่งกีดขวางในระยะที่ไม่ปลอดภัยหรือเกิดการชนกับสิ่งกีดขวางที่อยู่รอบข้าง เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวจะส่งข้อมูลไปยัง Raspberry Pi 3 จากนั้น Raspberry Pi 3 ก็จะส่งไปยัง KidBright แล้ว KidBright ก็จะส่งค่าไปยังโมดูลเสียงเพื่อส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ใช้งาน

คำสำคัญ                  

          Application  คือ โปรแกรมประเภทหนึ่ง ที่เราเรียกว่าโปรแกรมประยุกต์ โปรแกรม

เหล่านี้จะถูกออกแบบมาให้ทำงานเฉพาะด้าน เช่น พิมพ์เอกสาร, คำนวณ, ตกแต่งรูปภาพ เป็นต้น จากอดีตนั้นโปรแกรมเหล่านี้ทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว เราจึงมักเรียกชื่อเต็ม ๆ ว่า Application แต่เมื่อมีการพัฒนา Smartphone ขึ้นมา Application ก็ได้พัฒนา และไปใช้งานบนโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย และนิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า “App” นั่นเอง

Kid – Bright คือ เป็นบอร์ดสมองกลฝังตัวที่สามารถทำงานตามชุดคำสั่ง โดยสามารถสร้างชุดคำสั่งผ่านโปรแกรม KidBright IDE บนคอมพิวเตอร์ ที่ใช้งานง่าย เพียงใช้การลากบล็อกคำสั่งมาวางต่อกัน (Drag and Drop) ช่วยลดความกังวลเรื่องการพิมพ์ชุดคำสั่งผิด ชุดคำสั่งที่ถูกสร้างดังกล่าวจะถูกส่งไปที่บอร์ด KidBright ให้ทำงานตามที่โปรแกรมไว้

Raspberry Pi 3 คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (ประมาณบัตรทั่วไป) ที่มีราคาถูกกว่าคอมพิวเตอร์ สามารถต่อเข้ากับจอคอมพิวเตอร์ (ผ่าน HDMI) หรือจะใช้ตัวแปลง (HDMI to VGA)  และยังรองรับเมาส์/คีย์บอร์ด/อุปกรณ์อื่นๆ ผ่านทาง USB Port อีกทั้งยังสามารถต่อสายแลน (10/100 RJ45) ได้อีกด้วย (มี Bluetooth และ Wi-Fi 802.11n Controller On-Board)

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

       เนื่องจากปัจจุบันได้เกิดปัญหาด้านการใช้พลังงานในประเทศ  ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน  โดยน้ำมันและแก๊สที่ใช้สำหรับขับเคลื่อนยานพาหนะเป็นเป้าหมายทำให้ประเทศไทยต้องใช้ปริมาณน้ำมันสูงขึ้น อีกทั้งประเทศไทยยังไม่มีการพัฒนาเรื่องพลังงานทดแทนอย่างเป็นระบบ ทำให้เกิดปัญหาน้ำมันแพง  ซึ่งผลกระทบของปัญหาน้ำมันนี้ค่อนข้างกระจายเป็นวงกว้างและสูงมาก เนื่องจากน้ำมันใช้แล้วหมดไป และแนวโน้มของน้ำมันมีท่าทีว่าจะหมดในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า

คณะผู้จัดทำจึงเห็นปัญหาที่กล่าวมา จึงคิดวิธีแก้ปัญหาเพื่อลดการใช้น้ำมันที่ใช้ในการขับเคลื่อนยานพาหนะที่ทำให้เกิดปัญหาด้านการใช้พลังงาน  จึงได้คิดค้นรถไฟฟ้าอัจฉริยะนี้ขึ้นมาเพื่อลดการใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนยานพาหนะ  และลดปัญหาด้านการใช้พลังงานในประเทศ

จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น ทำให้เกิดโครงงานรถไฟฟ้าอัจฉริยะ โดยมี Raspberry Pi 3 เป็นตัวควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆในการควบคุมการทำงาน รวมถึงมีเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวทำหน้าที่ในการสำรวจสิ่งกีดขวางที่อยู่บริเวณรอบข้าง เพื่อส่งข้อมูลไปยัง ยัง Raspberry Pi 3 จากนั้น Raspberry Pi 3 ก็จะส่งไปยัง KidBright แล้ว KidBright ก็จะส่งค่าไปยังโมดูลเสียงเพื่อส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ใช้งาน

รถไฟฟ้าอัจฉริยะตัวนี้มีระบบการทำงานโดยใช้เทคโนโลยีของ Raspberry Pi 3  มีวัตถุประสงค์เพื่อนำอุปกรณ์ Raspberry Pi 3 มาพัฒนาให้ความสามารถที่หลากหลาย อุปกรณ์ต้นแบบที่สร้างมาเพื่อลดปัญหาด้านการใช้พลังงาน และลดค่าน้ำมัน โดยโครงงานนี้ได้อธิบายวิธีการพัฒนาระบบอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถที่จะนำไปใช้เพื่อให้สนองกับความต้องการ โดยระบบที่พัฒนาขึ้นนี้สามารถตอบสนองความต้องการทั้งภาคการศึกษา

โปรแกรมภาษา C , Python และ HTML ที่เขียนขึ้นเพื่อใช้ในโครงงานนี้ ผู้จัดทำได้ศึกษาและเรียนรู้ในโครงการสิ่งประดิษฐ์สมองกลฝังตัวที่จัดขึ้น ซึ่งโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ในงานที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และผู้ที่มีความสนใจที่จะศึกษาต่อไป

ที่มาและความสำคัญของโครงงาน

สังคมปัจจุบันเป็นสังคมเมืองดังนั้นในสังคมโดยทั่วไปประสบปัญหาเรื่องพลังงานและปัญหาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหามลภาวะไม่ว่าจากทางอากาศ และจากขยะมูลฝอย สิ่งมีชีวิตทุกชนิดจำเป็นต้องหายใจเพี่อใช้ออกซิเจนในการเผาผลาญอาหาร เมื่ออากาศที่หายใจเข้าไปเป็นอากาศเสีย ก็ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตแก่คนในชุมชน และปัญหาที่สำคัญอีกปัญหาหนึ่งคือปัญหาด้านการใช้พลังงานในประเทศ  ซึ่งเป็นปัญหาที่มีมาอย่างยาวนาน  โดยน้ำมันและแก๊สที่ใช้สำหรับขับเคลื่อนยานพาหนะเป็นเป้าหมายทำให้ประเทศไทยต้องใช้ปริมาณน้ำมันสูงขึ้น อีกทั้งประเทศไทยยังไม่มีการพัฒนาเรื่องพลังงานทดแทนอย่างเป็นระบบ ทำให้เกิดปัญหาน้ำมันแพง  ซึ่งผลกระทบของปัญหาน้ำมันนี้ค่อนข้างกระจายเป็นวงกว้างและสูงมาก เนื่องจากน้ำมันใช้แล้วหมดไปและแนวโน้มของน้ำมันมีท่าทีว่าจะหมดในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า

คณะผู้จัดทำจึงเห็นปัญหาที่กล่าวมา จึงคิดวิธีแก้ปัญหาเพื่อลดมลภาวะทางอากาศเนื่องจากยานพาหนะ และการใช้น้ำมันที่ใช้ในการขับเคลื่อนยานพาหนะที่ทำให้เกิดปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม  จึงได้คิดค้นรถไฟฟ้าอัจฉริยะนี้ขึ้นมาและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตเราจะมีรถไฟฟ้าใช้อย่างสะดวกสบายและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

วัตถุประสงค์

1. เพื่อลดปัญหาด้านการใช้พลังงานในประเทศ
2. เพื่อสร้างความสะดวกและความรวดเร็วในการเดินทาง
3. เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
4. เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุจากการชนของรถกับสิ่งกีดขวางต่างๆ
5. เพื่อสร้างรถไฟฟ้าอัฉริยะ
6. เพื่อนำความรู้ที่ได้จากการอบรมไปประยุกต์ใช้กับโครงาน

ขอบเขตการศึกษาข้อมูล

          ขอบเขตด้านเนื้อหา                :         การเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C , Python และ  HTML

การออกแบบวงจรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ การเขียนโปรแกรมคอนโทร Raspberry Pi 3  และ Kidbright ให้ทำงานตามต้องการ

          ขอบเขตกลุ่มเป้าหมาย             :         นักเรียนในโครงการสิ่งประดิษฐ์สมองกลฝังตัวและผู้ที่สนใจ

          ขอบเขตด้านสถานที่ศึกษา                  :        โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารีฯ ลำปาง

          ขอบเขตระยะเวลาที่ศึกษา                   :         เดือน กันยายน 2562 – มิถุนายน 2563

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

1. ลดการเกิดอุบัติเหตุของผู้ที่ใช้งาน
2. อำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้งาน
3. ผู้ใช้งานสามารถรับรู้ถึงการชนของรถกับสิ่งกีดขวางรอบข้างได้
4. โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดการใช้พลังงาน
5. ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
6. ผู้ที่ใช้งานสามารถเตรียมความพร้อมในการรับมือกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้

รายงานฉบับสมบูรณ์ (PDF File)

Clip VDO 

โปสเตอร์ (PDF File)