สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช. กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมรี เป็นองค์ประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการสวทช. ประจำปี 2565 (NSTDA Annual Conference: NAC2022) ภายใต้แนวคิด "พลิกฟื้นเศษฐกิจและสังคมไทย ด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม BCG" (Revitalizing Thai Economy throughBCG Research and Innovation) ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นปีที่ 17 ระหว่างวันที่ 28 -31 มีนาคม 2565 บน แพลตฟอร์มออนไลน์เต็มรูปแบบผ่านเว็บไซต์ www.nstda.or.th/nac โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ปทุมธานี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผู้พิพากษาหัวหน้า ศาลจังหวัดธัญบุรี่ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี คณะผู้ บริหารกระทรวง อว. นักวิจัยและพนักงาน สวทช. ร่วมรับเสด็จฯ
ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและวัตกรรม (อ..) กราบบังคมทูลรายงานว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. มีการดำเนินงานตามพันธกิจที่มุ่งสร้างเสริมการวิจัย พัฒนา ออกแบบ และวิศวกรรม จนสามารถถ่ายทอดไปสู่การใช้ประโยชน์ พร้อมส่งเสริมด้านการพัฒนา กำลังคน และโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อสร้างขีดความสามารถในการ แข่งขันและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ได้พัฒนาผลงานวิจัยที่ได้ใช้ประโยชน์จริงต่อเกษตรกรและ ชุมชน ต่อภาคอุตสาหกรรม และสาธารณชนทั่วไป อย่างต่อเนื่อง โดยในปิ้งบประมาณ 2564 ที่ผ่าน มา สวทช. มีผลงานโดยสรุป ได้แก่ บทความตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติ 738 บทความ จำนวนทรัพย์สินทางปัญญาที่มีการใช้ประโยชน์ 433 รายการ มูลค่าผลกระทบต่อเศรษฐกิจและ สังคมของประเทศที่เกิดจากการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ 73,692 ล้านบาท มูลค่าการลงทุน ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ในภาคการผลิตและภาคบริการ 25,224 ล้านบาท สนับสนุนนักศึกษาปริญญาโทและเอก และนักวิจัยหลังปริญญาเอก ให้ร่วมทำงานวิจัยกับ สวทช. 739 คน และมีเกษตรกรที่นำผลงานวิจัยและองค์ความรู้ไปประยุกต์ใช้ 9,213 คน
สำหรับแนวคิดของการประชุมประจำปี สวทช. ในปีนี้ นั้น ตามที่ นายกรัฐมนตรีได้ประกาศให้ระบบ เศรษฐกิจแบบ BCG (Bio-Circular-Green Economy หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน- เศษฐกิจสีเขียว) เป็นวาระแห่งชาติ โดยประกาศเป้าหมายให้ BCG เป็นหนึ่งในเครื่องมีอสำคัญที่ ช่วยผลักดันเศรษฐกิจไทยให้มีความเข้มแข็ง และประชาชนมีรายได้สูงขึ้น ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ การขับเคลื่อนประเทศไทยด้วย BCG ประกอบด้วย 4 แผนยุทธศาสตร์ ได้แก่
1. เกษตรและอาหาร
2. สุขภาพและการแพทย์
3. พลังงาน วัสดุและเคมีชีวภาพ
4. การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจสร้างสรรค์
โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของประทศไทยในฐานความหลายหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม ของประเทศไทย สวทช. ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ร่วมขับเคลื่อนนโยบาย BCG ร่วมกับทุกกระทรวงและทุก หน่วยงาน สวทช. จึงได้จัดงานประชุมวิชาการประจำปี 2565 ออนไลน์เต็มรูปแบบทางเว็บไซต์ www.nstda.or.th/nac โดยนำเสนอองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ส่งเสริมการ พัฒนาระบบเศรษฐกิจ BCG เพื่อสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนักวิชาการ ผู้ประกอบการ ภาครัฐ ภาคเอกชน เด็กและเยาวชน และประชาชนทั่วไปให้ได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กราบบังคมทูลเบิกคณะนักวิจัยทุนนักวิจัยแกนนำประจำปี 2562 และ 2563 ผู้ชนะเลิศการแข่งขัน พัฒนาโปรแกรมคอมพิเตอร์แห่งประเทศทยและการประกดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ครั้งที่ 22,23 และ 24 และผู้ชนะเลิศการแข่งข้นออกแบบและสร้างหุ่นยนต์แห่งประเทศไทยครั้งที่ 12 และ 13 เข้ารับพระราชทานเกียรติบัตร
จากนั้นสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราช ดำรัสเปิดการประชุมวิชาการ สวทช. ประจำปี 2565 และทรงตัดแถบแพรเปิดนิทรรศการ เฉลิมพระเกียรติ "สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราช กุมารี กับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย" และนิทรรศการความก้าวหน้าทางงานวิจัยวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของ สวทช. อาทิ โครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอ้น เนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก, โครงการสมุนไพรรักษ์น้ำ, โครงการส่งเสริมการ เรียนการสอนโค้ดดิ้งสำหรับนักเรียนพิการ, โรงพยาบาลสนามบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรเพื่อคนพิการ, ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG เพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ให้เติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างทั่วถึงบนฐานการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการแสดงผลงานวิจัยโดยนัก วิจัยไทย อาทิ กลุ่มเกษตรและอาหาร ได้แก่ "Plant-based egg" ผลิตภัณฑ์ไข่เหลวจากโปรตีนพืช ทีมวิจัย ไบโอ เทค และบริษัท ดรอปแอนด์พิค กรุ๊ป จำกัด ได้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่เหลวพาสเจอร์ไรซ์จาก โปรตีนพืชครั้งแรกของไทยที่มีคุณสมบัติในการขึ้นรูปในระหว่างการทอดในน้ำมันได้ และเนื้อสัมผัส ใกล้เคียงกับไข่ไก่ นำไปใช้ประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เหมาะสำหรับผู้บริโภคกลุ่มกินวี แกน(Vegan) และผู้ที่แพ้ไข่ไก่ และชุดตรวจแบบรวดเร็วในรูปแบบ strip test สำหรับตรวจวินิจฉัย เชื้อไวรัสใบด่างมันสำปะหลัง สามารถพกพาไปใช้ในภาคสนาม โดยไม่ต้องเก็บตัวอย่างส่งมาตรวจ ยังห้องปฏิบัติการ ทราบผลได้ภายใน 15 นาที และตรวจสอบได้เองโดยไม่ต้องอาศัยผู้ชำนาญการ และเครื่องมือวัดอ่านผล ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังการแพร่ ระบาดของโรคใบด่างมันสำปะหลังในประเทศไทย รวมถึงการตรวจหาเชื้อในขั้นตอนต่างๆ ของ กระบวนการผลิตต้นพันธุ์ปลอดเชื้อ
กลุ่มสุขภาพและการแพท ได้แก่ เทคโนโลยี Pseudotype virus (ไวรัสตัวแทน) สำหรับประเมิน ประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19 ซึ่งนักวิจัยไบโอเทค สวทช. ผลงานพัฒนาสำเร็จและได้ใช้งาน จริงเพื่อประเมินประสิทธิภาพของวัค银นกับโครงการวัค银นโควิด-19 ของประเทศไทย เทคนโลยีไมโครนีดเดิล: แผ่นเข็มจิ๋วที่ออกแบบได้ตามสั่งผลิตได้อย่างรวดเร็วบนผืนผ้า โดย ประยุกต์ใช่โครงสร้างคล้ายเข็มขนาดเล็ก ที่มีปลายเข็มขาดเล็กกว่า 10 ไมโครเมตร (เล็กกว่าเส้นผม เกือบสิบเท่า) สร้างช่องทางน่ส่งสารสำคัญผ่านชิ้นผิวหนังได้ง่าย ไม่ทำให้เจ็บเรือเกิดรอย มี ศักยภาพในการใช้งานด้านสุขภาพความงามและสามารถต่อยอดสู่ด้านการแพทย์เพื่อนำส่งยา เวชภัณฑ์ หรือ วัคซีนได้ เครื่อง Bodii Ray P (บอดีเรย์ พี่) เครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลสองมิติ (Portable Digital Radiography) ที่ วิจัยและพัฒนโดยทีมวิจัยระบบสร้างภาพทางการแพทย์ ศูนย์วิจัยเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความ สะดวกและเครื่องมือแพทย์ สวทช. ใช้สำหรับเอกซเรย์อวัยวะภายในแบบสองมิติ เครื่องมีขนาดเล็ก และสะดวกในการเคลื่อนายไปใช้งานในที่ด่าง ๆ ประกอบด้วยเครื่องกำเนิดเอกซเรย์ ฉากรับรังสี ดิจิทัลแบบไร้สาย คอมพิวเตอร์แบบพกพ ซอฟต์แวร์บริหารจัดการข้อมูลผู้ป่วยและจัดเก็บภาพถ่าย เอกชเรย์ ตั้งค่และควบคุมการถ่ายเอกชเรย์ ประมวลผลภาพ และแสดงภาพเอกซเรย์แบบดิจิทัล (RadiView Software) โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบจัดเก็บสื่อสารข้อมูลภาพทางการแพทย์ (PACS) ได้ กลุ่มพลังงาน วัสดุและเคมีชีวภาพ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ถุงมือยางธรรมชาติโปรตีนต่ำ ซึ่งนักวิจัยเอ็ม เทค สวทช. ลดปริมาณโปตีนที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ในผลิตภัณฑ์ถุงมีอยางธรรมชาติให้มีปริมาณ โปรตีนที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้น้อยเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน ช่วยยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ถุงมือ ยางธรรมชาติให้สามารถแข่งข้นได้กับผลิตภัณฑ์ถุงมือยางสังเคราะห์
กลุ่มดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม AR/VR Technology สำหรับการออกแบบผลิตภัณฑ์เชิงวิศวกรรม เป็นการนำเทคโนโลยีความจริงเสมือน หรือ เอ-อาร์ (AR) และเทคโนโลยีความจริงเสมือนหรือ วี-อาร์ (VR) มาประยุกต์ใช่ในการออกแบบ และวิจัยเชิงวิศวกรรม รวมถึงสร้างสื่อการเรียนรู้ให้แก่นักศึกษา แบบ New Normal Schools ที่ สามารถจัดการศึกษาและการรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีคุณภาพ เข้าถึงทุกกลุ่มวัยสามารถเรียนรู้ได้จาก ทุกที่ ทุกเวลา จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรผลการดำเนินงานของ ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ : (National Biobank of Thailand หรือ NBT หนึ่งในหน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (National Science and Technology Infrastructure: NSTI) จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พุทธศักราช 2562 โดยได้รับการสนับสนุนครุภัณฑ์จากโครงการ Big Rock ของรัฐบาลในปี พ.ศ. 2561 เพื่อทำให้ประเทศมีศักยภาพในการอนุรักษ์ทรัพยากรชัวภาพของประเทศ มีกระบวนการจัด เก็บที่มีมาตรฐานสากล และใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อช่วยทำให้คงสภาพการมีชีวิตได้ อย่างยาวนานประหยัดค่าใช้จ่ายและค่าแรงในการดูแรักษา และสามารถนำกลับมาฟื้นฟูได้เมื่อเกิด ภาวะวิกฤติ โดยทรัพยากรชีวภาพที่นำมาฝากกับ NBT ยังคงเป็นของผู้นำฝากอยู่เสมอ
ปัจจุบัน NBT ได้มีโครงการอนุรักษ์ร่วมกับพันธมิตรวิจัยและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อาทิ ตัวอย่างพืชและ จุลินทรีย์ที่ได้จากโครงการวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพของป่าชายเลน ร่วมกับกรมทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่ง ตัวอย่างจุลินทรีย์ที่ได้จากการสำรวจถ้ำในอุทยานธรณีสตูลที่ได้ขึ้นทะเบียน กับ UNESCO และความร่วมมือในการอนุรักษ์พืชกับทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ Royal Botanic Gardens Kew สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นธนาคารเมล็ดที่มีการเก็บรวบรวมเมล็ด พันธุ์พืชปา พร้อมองค์ความรู้มากที่สุดในโลก เพื่อสนับสนุนการวิจัยและอนุรักษ์พรรณไม่ในรูปแบบ ของธนาคารเมล็ดให้มีมาตรฐานระดับนานาชาติ โอกาสนี้ทอดพระเนตรการสาธิตนิทรรศการภาพเสมือน (NBT virtual tour) ซึ่งคณะ สถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ NBT มีโครงการความร่วมมือจัดทำ NBT Virtual Tour เป็นการสร้างโลกเสมือนจริงคู่ขนานของ NBT โดยทำการจำลองห้องปฏิบัติการและ พื้นที่ปลอดเชื้อต่าง ๆ ภายใน NBT ให้ผู้ที่สนใจทั่วไปได้เข้าเยี่ยมชมและศึกษาเพิ่มเติมผ่านสื่อ ออนไลน์ โดยการสาธิต NBT Virtual Tour ครั้งนี้ มีการนำเสนอห้องปฏิบัติการธนาคารเมล็ดพรรณ พืช ให้ผู้ที่เข้าชมสามารถหยิบเมล็ดจำลองที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดูได้ พร้อมเปิดดูข้อมูลชื่อวิทยาศาสตร์ แหล่งที่พบตัวอย่างดังกล่าว และยังสามารถกดเข้าชมพื้นที่จำลองของแหล่งที่พบตัวอย่างเมล็ด พันธุ์ได้
ภายในงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. ระหว่างวันที่ 28 - 31 มีนาคม 2565 นี้ จัดออนไลน์เต็มรูป แบบในทุกกิจกรรม ประกอบด้วย สัมมนาออนไลน์ 45 หัวข้อ นิทรรศการออนไลน์ 102 เรื่อง และ กิจกรรม Open House หรือ การเปิดห้องปฏิบัติการแบบออนไลน์ ซึ่งนักอุตสาหกรรม พันธมิตรและ นักลงทุนที่สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมเทคโนโลยีจากศักยภาพของบุคลากรวิจัยของ สวทช. 45 ห้อง ปฏิบัติการ จำนวน 60 เรื่อง ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานโดยไม่เสียค่ใช้จ่ายใดๆ ผ่านทางเว็บไซค์ www.nstda.or.th/nac เท่านั้น